เที่ยวบินระทึก นักบินนอกปฏิบัติการ พยายามดับเครื่องยนต์บนเครื่องบิน หวิดสังหารหมู่ 83 ชีวิต เอฟบีไอเร่งสอบ ยันไม่เกี่ยวข้องเหตุการณ์โลกปัจจุบัน
![นักบินดับเครื่องยนต์]( "นักบินดับเครื่องยนต์")
ภาพจาก Minh K Tran / Shutterstock.com
วันที่ 24 ตุลาคม 2566 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า เกิดเหตุระทึกกลางอากาศบนเครื่องบินของสายการบินอลาสกา แอร์ไลน์ส (Alaska Airlines) เที่ยวบิน 2059 ซึ่งดำเนินการโดยสายการบินฮอไรซอน แอร์ (Horizon Air) เมื่อนักบินซึ่งอยู่นอกการปฏิบัติหน้าที่ พยายามก่อเหตุดับเครื่องยนต์ให้เครื่องบินตก จนเกือบจะเป็นเหตุสังหารหมู่ผู้โดยสาร 80 คน พร้อมลูกเรือ แต่เคราะห์ดีที่ลูกเรือสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
ขณะนี้ โจเซฟ เดวิด เอเมอร์สัน ผู้ต้องสงสัยวัย 44 ปี ถูกทางการควบคุมตัวไว้แล้ว พร้อมถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า 83 กระทง ข้อหาก่อให้เกิดอันตรายโดยความประมาท 83 กระทง รวมถึงข้อหาทำให้เครื่องบินตกอยู่ในอันตราย นอกจากนี้เขายังจะถูกสอบสวนโดยตำรวจและเอฟบีไอสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
สำหรับเหตุระทึกนี้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (22 ตุลาคม) บนเที่ยวบินซึ่งออกเดินทางจากเมืองเอเวอเร็ต รัฐวอชิงตัน สหรัฐฯ มุ่งหน้าไปยังเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย โดย เอเมอร์สัน ซึ่งเป็นนักบินที่อยู่นอกการปฏิบัติหน้าที่ นั่งอยู่ตรงตำแหน่งที่นั่งลูกเรือภายในห้องนักบิน ด้านหลังกัปตันและนักบินผู้ช่วย
แต่แล้วอยู่ ๆ เอเมอร์สันก็พยายามจะเข้าไปดับเครื่องยนต์ แต่เคราะห์ดีที่ความพยายามนั้นไม่สำเร็จ ก่อนที่เขาจะถูกนำตัวออกไปจากห้องนักบินและถูกลูกเรือควบคุมตัวไว้ ในขณะที่นักบินต้องนำเครื่องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินแห่งอื่น โดยมีการประสานงานให้ตำรวจเตรียมความพร้อม เข้ามาควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยออกไปได้ทันทีเมื่อเครื่องลงจอด
จากบันทึกการสื่อสารระหว่างลูกเรือกับฝ่ายควบคุมการจราจรทางอากาศ หนึ่งในนักบินกล่าวว่า "เราได้นำคนที่พยายามจะดับเครื่องยนต์ออกไปจากห้องนักบินแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ก่อปัญหาใด ๆ อีกทางด้านหลังในตอนนี้ ผมคิดว่าเขาถูกควบคุมไว้ได้แล้ว"
ด้าน กาเวลโล หนึ่งในผู้โดยสาร เผยกับ ABC News ว่า ผู้โดยสารบนเครื่องไม่รู้แม้แต่น้อยว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นบนเที่ยวบินนั้น จนกระทั่งลูกเรือประกาศว่าจำเป็นต้องนำเครื่องบินลงจอดทันที โดยอ้างเหตุความจำเป็นทางการแพทย์ ในตอนนั้นเธอยังได้ยินลูกเรือกล่าวกับผู้ต้องสงสัยว่า "เราจะไม่เป็นอะไร โอเคนะ เราจะพาคุณลงจากเครื่องบิน" ซึ่งนั่นทำให้เธอเชื่อว่าน่าจะเกิดเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ที่รุนแรงจริง ๆ
ผู้โดยสารอีกรายยืนยันว่า สถานการณ์ดังกล่าวได้รับการจัดการอย่างมืออาชีพ ผู้โดยสารไม่ตระหนักถึงวิกฤตที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น
ทั้งนี้ สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ ยังแจ้งไปยังสายการบินต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปัจจุบันบนโลกในขณะนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก BBC
ภาพจาก Minh K Tran / Shutterstock.com
วันที่ 24 ตุลาคม 2566 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า เกิดเหตุระทึกกลางอากาศบนเครื่องบินของสายการบินอลาสกา แอร์ไลน์ส (Alaska Airlines) เที่ยวบิน 2059 ซึ่งดำเนินการโดยสายการบินฮอไรซอน แอร์ (Horizon Air) เมื่อนักบินซึ่งอยู่นอกการปฏิบัติหน้าที่ พยายามก่อเหตุดับเครื่องยนต์ให้เครื่องบินตก จนเกือบจะเป็นเหตุสังหารหมู่ผู้โดยสาร 80 คน พร้อมลูกเรือ แต่เคราะห์ดีที่ลูกเรือสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
ขณะนี้ โจเซฟ เดวิด เอเมอร์สัน ผู้ต้องสงสัยวัย 44 ปี ถูกทางการควบคุมตัวไว้แล้ว พร้อมถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า 83 กระทง ข้อหาก่อให้เกิดอันตรายโดยความประมาท 83 กระทง รวมถึงข้อหาทำให้เครื่องบินตกอยู่ในอันตราย นอกจากนี้เขายังจะถูกสอบสวนโดยตำรวจและเอฟบีไอสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
สำหรับเหตุระทึกนี้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (22 ตุลาคม) บนเที่ยวบินซึ่งออกเดินทางจากเมืองเอเวอเร็ต รัฐวอชิงตัน สหรัฐฯ มุ่งหน้าไปยังเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย โดย เอเมอร์สัน ซึ่งเป็นนักบินที่อยู่นอกการปฏิบัติหน้าที่ นั่งอยู่ตรงตำแหน่งที่นั่งลูกเรือภายในห้องนักบิน ด้านหลังกัปตันและนักบินผู้ช่วย
แต่แล้วอยู่ ๆ เอเมอร์สันก็พยายามจะเข้าไปดับเครื่องยนต์ แต่เคราะห์ดีที่ความพยายามนั้นไม่สำเร็จ ก่อนที่เขาจะถูกนำตัวออกไปจากห้องนักบินและถูกลูกเรือควบคุมตัวไว้ ในขณะที่นักบินต้องนำเครื่องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินแห่งอื่น โดยมีการประสานงานให้ตำรวจเตรียมความพร้อม เข้ามาควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยออกไปได้ทันทีเมื่อเครื่องลงจอด
จากบันทึกการสื่อสารระหว่างลูกเรือกับฝ่ายควบคุมการจราจรทางอากาศ หนึ่งในนักบินกล่าวว่า "เราได้นำคนที่พยายามจะดับเครื่องยนต์ออกไปจากห้องนักบินแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ก่อปัญหาใด ๆ อีกทางด้านหลังในตอนนี้ ผมคิดว่าเขาถูกควบคุมไว้ได้แล้ว"
ด้าน กาเวลโล หนึ่งในผู้โดยสาร เผยกับ ABC News ว่า ผู้โดยสารบนเครื่องไม่รู้แม้แต่น้อยว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นบนเที่ยวบินนั้น จนกระทั่งลูกเรือประกาศว่าจำเป็นต้องนำเครื่องบินลงจอดทันที โดยอ้างเหตุความจำเป็นทางการแพทย์ ในตอนนั้นเธอยังได้ยินลูกเรือกล่าวกับผู้ต้องสงสัยว่า "เราจะไม่เป็นอะไร โอเคนะ เราจะพาคุณลงจากเครื่องบิน" ซึ่งนั่นทำให้เธอเชื่อว่าน่าจะเกิดเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ที่รุนแรงจริง ๆ
ผู้โดยสารอีกรายยืนยันว่า สถานการณ์ดังกล่าวได้รับการจัดการอย่างมืออาชีพ ผู้โดยสารไม่ตระหนักถึงวิกฤตที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น
ทั้งนี้ สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ ยังแจ้งไปยังสายการบินต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปัจจุบันบนโลกในขณะนี้
