ผู้ปกครองกระอัก ประกันสุขภาพเด็ก เบิกครั้งเดียว เบี้ยขึ้นเกือบถึงแสน กูรูแจงต้องทำยังไง !

          ผู้ปกครองกระอัก ทำประกันสุขภาพให้ลูก ปีแรกไม่เคลมเบี้ยลดไป 800 ปีที่ 2 เคลมครั้งเดียว เก็บเบี้ยเพิ่ม 29,000 จนทำให้เบี้ยประกันเกือบทะลุแสนบาท ด้านกูรูเข้ามาแจง เจอแบบนี้จะต้องทำยังไงต่อ คุ้มไหมที่จะจ่าย

          สุขภาพของบุตรหลานถือเป็นเรื่องที่สำคัญ บางโรคบางอย่างอาจจะติดมาจากในโรงเรียนและค่ารักษาแพง จึงทำให้ผู้ปกครองหลายท่านหันมาทำประกันสุขภาพให้บุตรหลาน และยิ่งเป็นเด็ก เบี้ยประกันยิ่งสูง

          ล่าสุด 27 ตุลาคม 2566 เฟซบุ๊ก พวกเราคือผู้บริโภค ได้เผยความทุกข์ของผู้ปกครองท่านหนึ่ง ที่ซื้อประกันสุขภาพให้ลูก เบี้ยประกันปีแรกจ่ายที่ประมาณ 39,000 บาท และไม่มีการเคลม ปีต่อมาต่อประกันเบี้ยประกันจึงลดไป 800 บาท

          จากนั้นในปีถัดมา ลูกของเจ้าของเรื่องติดโรคเฮอร์แปงไจน่า และมียอดเรียกเก็บกับประกันประมาณ 22,000 บาท เป็นการเคลมแค่ครั้งเดียว แต่ตอนปลายปีเมื่อต้องการต่อประกัน ทางประกันกลับเรียกเก็บเบี้ยเพิ่มจาก 39,000 บาท เป็น 68,000 บาท เพิ่มขึ้นมาเกือบ 29,000 บาท จนผู้ปกครองเองก็ช็อกหนักมาก เพราะเบี้ยที่เก็บเพิ่มขึ้นมาแพงกว่าจ่ายเงินสดกับประกันอีก และมีแนวโน้มว่าเบี้ยจะสูงขึ้น ทางผู้ปกครองจึงยกเลิกไม่ทำประกันต่อ

"จ่ายไปเกือบแสนสอง ได้คืนประมาณ 15,000 ค่า ลาขาด บายนะ ใครไหวไปก่อนเลย บ้านนี้ไม่ไหวค่ะ บาย"

          ในขณะเดียวกัน ได้มีคนออกมาแชร์ว่า หากต้องจ่ายเบี้ยประกันขนาดนี้ ถ้าลูกป่วยแล้วไปจ่ายโดยตรงกับโรงพยาบาลดีกว่าไหม เพราะหากเกิดปีไหนลูกไม่ป่วยก็เสียเงินทิ้ง หรือบางคนก็แนะนำอีกวิธีเช่น ให้ซื้อประกันอุบัติเหตุให้ลูกแทน แต่ถ้าเกิดเจ็บป่วยที่ไม่เกี่ยวกับอุบัติเหตุให้ใช้บัตรทอง 30 บาท หรือหากอยากได้ยาดีก็เพิ่มเงิน หรือไปคลินิกนอกเวลาแทน บางครั้งได้อาจารย์หมอมาช่วยดูให้ ซึ่งแบบนี้ราคาจะถูกลง แต่ได้บริการที่ไว้ใจ


          ในขณะเดียวกัน ได้มีกูรูคนหนึ่งมาให้ความรู้เรื่องประกันสุขภาพว่า หากประกันสุขภาพทำก่อนปี 2565 จะคงเงื่อนไขเดิมคือเมื่อมีการเคลมประกัน บริษัทก็สามารถขึ้นเบี้ยประกันหรือยกเลิกสัญญาประกันสุขภาพกับผู้ป่วยได้ แต่หลังจากเดือน กรกฎาคม 2565 จะประกันรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า New Health Standard หรือ NHS ที่ทุกบริษัทประกันสุขภาพ จะไม่สามารถเพิ่มเบี้ยหรือยกเลิกสัญญาประกันสุขภาพได้ ภายใต้เงื่อนไขคือ ลูกค้าจะต้องแถลงเรื่องโรคตามความจริง ไม่ปกปิดสาระสำคัญ, ไม่เคลมประกันเกินความจำเป็นทางการแพทย์, มีพฤติกรรมทำประกันเพื่อรับเงินชดเชยเกินกว่ารายได้,  ซื้อผลประโยชน์ชดเชยรายวันรวมกันมากกว่ารายได้จริง และบริษัทสามารถปรับเพิ่มพอร์ตได้ โดยคาดว่าเจ้าของเรื่องนั้น น่าจะเป็นกรมธรรม์ที่มาก่อนนโยบาย NHS พร้อมกับแนะนำว่า


          - หากผู้ทำประกันเดิม มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว แนะนำให้กอดกรมธรรม์นี้ไว้ต่อ เพราะหากมีปัญหาสุขภาพ การทำประกันเล่มต่อไปจะยากขึ้น
          - หากผู้มีประกันเดิม ทำกรมธรรม์ใหม่ที่มี NHS ให้ทำก่อนที่กรมธรรม์เดิมจะหมดก่อนช่วงระยะเวลารอคอย 30-120 วัน แต่จะไม่ขอแนะนำว่าเล่มเก่าควรถือต่อไปอีกเท่าไร