ไวรัลส่งต่อกันทั้งโลก กับภาพคนไข้นอนท่าสะพานโค้ง ไม่ใช่เพราะโดนมนตร์ดำหรือผีสิง แต่มันคือโรคร้าย หมอมาเฉลยให้ฟังมันคืออะไร ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน
วันที่ 27 ตุลาคม 2566 ทวิตเตอร์ @IhabFathiSulima ได้โพสต์ภาพที่คนส่งต่อกันเป็นจำนวนมาก กับภาพของคนไข้ชายรายหนึ่งที่ป่วยและนอนในท่าสะพานโค้ง มีสายน้ำเกลือระโยงระยาง เทียบกับภาพวาดสมัยก่อนที่ของคนไข้ชายที่อยู่ในท่าสะพานโค้ง มือเกร็ง เท้าจิกเกร็ง เช่นกัน
ทั้งนี้ สิ่งที่เห็นนั้นไม่ใช่เพราะคนไข้โดนของหรือมนตร์ดำ แต่เกิดจากการติดเชื้อบาดทะยัก ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นการเสียชีวิตที่ทรมานที่สุดในโลก โดยที่ Healthstory - เรื่องสุขภาพ ง่ายนิดเดียว ออกมาเผยว่า ภาพที่เห็นนั้นคือภาพที่วาดขึ้นในปี 1809 โดยแพทย์ประจำตัวคนไข้ที่ถูกพิษบาดทะยัก
อย่างไรก็ตาม พิษบาดทะยักจะไม่ส่งผลต่อสมองของผู้ป่วยเลย ผู้ป่วยจะตื่นและรู้สึกตัวตลอดเวลา หมายความว่า ผู้ป่วยจะรู้สึกได้ถึงความทรมานตลอดเวลา และหากมีอาหารรุนแรง กล้ามเนื้อกระบังลมจะหดตัวค้าง ทำให้ผู้ป่วยหายใจไม่ได้อีกต่อไป และเสียชีวิตลง
ทั้งนี้ โรคบาดทะยักรักษาให้หายได้ แต่ยังคงมีเสียชีวิตอยู่ขึ้นกับความรุนแรงของโรคและความพร้อมของโรงพยาบาล แม้จะรอด แต่ผู้ป่วยต้องใช้เวลา 1-2 เดือนหรือมากกว่านั้นในการนอนโรงพยาบาล ต้องให้ยากล่อมประสาท เพื่อไม่ให้รู้สึกถึงความเจ็บปวด ใส่ท่อช่วยหายใจ และต้องใช้เวลาหลายเดือนเพื่อบำบัดกล้ามเนื้อด้วย
ทั้งนี้ หมอแนะนำว่า หากมีบาดแผล มีดบาด ถูกตะปู รถล้ม หรือโดนหมาแมวข่วนหรือกัด ต้องแจ้งแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนกันบาดทะยัด เนื่องจากเชื้อบาดทะยักจะอยู่ตามดินและมูลสัตว์ต่าง ๆ บาดแผลที่เปื้อนดินและสกปรกถือว่าเสี่ยง ยิ่งแผลลึกยิ่งเสี่ยง เนื่องจากเชื้อบาดทะยักจะเติบโตในภาวะไม่มีออกซิเจน โดยถ้าหากมีบาดแผล แนะนำให้ล้างแผลเบื้องต้น ฟอกสบู่หรือใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ หากแผลสกปรกมาก บาด ลึก ควรมาพบแพทย์เพื่อพิจารณาว่าจะฉีดวัคซีนบาดทะยักให้หรือไม่ ซึ่งผู้ที่ไม่มีแผลใด ๆ ก็สามารถฉีดวัคซีนบาดทะยักได้ โดยฉีดกระตุ้น 1 เข็มทุก ๆ 10 ปี







