หญิงฟ้อง รร. หรู 5 ดาว ผวาเจอน้ำดื่มปนเปื้อนอสุจิ ค่าห้องคืนละหลายหมื่น แต่เจอแบบนี้

          หญิงฟ้องโรงแรมหรู 5 ดาวในสหรัฐฯ ผวาเจอน้ำดื่มปนเปื้อนอสุจิ บอบช้ำทางใจจนต้องบำบัด ชี้ผลตรวจขวดน้ำเจออสุจิจริง ๆ แต่มีกระบวนการปกปิดคดี

          วันที่ 25 ตุลาคม 2566 เว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ รายงานว่า หญิงชาวอเมริกันรายหนึ่งเดินหน้าฟ้องโรงแรมหรู 5 ดาวในสหรัฐฯ หลังพบน้ำดื่มปนเปื้อนอสุจิในขวดน้ำที่ติดสลากของโรงแรม โดยเจตนาให้มีการเอาผิดคนที่อยู่เบื้องหลัง รวมถึงเรียกร้องความเสียหายจากทางโรงแรมด้วย

          ข้อมูลจากเอกสารคำฟ้องที่ยื่นต่อศาลรัฐบาลกลาง ระบุว่า หญิงรายนี้พร้อมกับสามี เข้าพักที่โรงแรมหรูในพื้นที่ฮาล์ฟมูนเบย์ ทางตอนใต้ของซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 เพื่อไปพักผ่อนและฉลองวันเกิดในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งในคืนแรกของการเข้าพัก ทั้งคู่ได้ขอน้ำดื่มเพิ่มจากพนักงานโรงแรม ก่อนจะมีพนักงานชายนำมาให้ที่ห้องอย่างน้อย 5 ขวด แต่เมื่อภรรยาตื่นขึ้นมาดื่มน้ำกลางดึกเธอก็รู้สึกถึงความผิดปกติ

          โดยจากรสชาติกับสัมผัสของน้ำที่ดื่มเข้าไป ทำให้เธอสงสัยว่าอาจมีอสุจิปนเปื้อนอยู่ในน้ำ มันทำให้เธอตกใจ อับอาย รู้สึกเหมือนถูกดูหมิ่น จึงรีบบอกสามีให้ทราบ ก่อนที่สามีของเธอจะติดต่อตำรวจและแจ้งเรื่องกับทางโรงแรมทันที
 
          จากนั้นทางโรงแรมได้ส่งขวดน้ำไปวิเคราะห์และทดสอบเพิ่มเติมที่ห้องปฏิบัติการ ซึ่งได้รับผลยืนยันว่ามีอสุจิปนเปื้อนอยู่ในน้ำจริง ๆ

          หญิงดังกล่าวระบุว่า โรงแรม 5 ดาวแห่งนี้มีค่าที่พักไม่ต่ำกว่าคืนละ 800 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 28,000 บาท) เป็นเครือข่ายโรงแรมหรูที่มีหลายสาขาทั่วสหรัฐฯ โดยมีบริษัทแม่เป็นเครือโรงแรมหรูระดับโลก ซึ่งเธอกับสามีเป็นลูกค้าประจำที่เคยเข้าพักโรงแรมในเครือไม่ต่ำกว่า 600 ครั้งแล้ว และที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาด้านความปลอดภัยใด ๆ

          ในคำฟ้องระบุว่า หญิงดังกล่าวได้รับความบอบช้ำทางจิตใจจากเหตุการณ์นี้จนต้องเข้ารับการบำบัด และยังกังวลว่าจะติดโรคหรือไวรัสใด ๆ หรือไม่ แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือทางโรงแรมได้ปฏิเสธที่จะส่งมอบสำเนาผลการตรวจสอบขวดน้ำนั้นให้แก่คู่สามีภรรยา

          นอกจากนี้การสอบสวนของทางตำรวจก็หยุดชะงัก เนื่องจากทางโรงแรมปฏิเสธจะส่งมอบขวดน้ำที่ปนเปื้อนให้ นับเป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ให้ตรวจสอบดีเอ็นเอในขวดน้ำเพื่อสืบหาตัวผู้กระทำความผิด ทางโรงแรมยังปฏิเสธที่จะเปิดเผยตัวตนของพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันดังกล่าว

          ทั้งนี้ คู่สามีภรรยากำลังเรียกร้องค่าเสียหายผ่านการพิจารณาคดีของคณะลูกขุน จากการที่ฝ่ายภรรยาถูกคุกคามทางเพศ ตลอดจนประเด็นเรื่องความประมาทเลินเล่อ
 
          รายงานระบุว่า หลังจากเกิดเหตุทางโรงแรมได้เสนอคะแนนสะสมให้แก่คู่สามีภรรยา ซึ่งจะสามารถนำกลับมาใช้เพื่อเข้าพักโรงแรมในเครืออีกครั้ง
 
          ด้าน เทอร์เรซ โจนส์ ทนายความของคู่สามีภรรยา ระบุว่า หนึ่งในข้อกังวลหลักของลูกความเขา คือการเอาผิดคนร้ายเพื่อไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่ออีก แต่จนถึงขณะนี้ทางโรงแรมกลับเลือกที่จะปกปิดมากกว่าให้ความร่วมมือ สะท้อนชัดเจนว่าพวกเขาพยายามจะปกป้องชื่อเสียงของตัวเองมากกว่าปกป้องแขกของโรงแรม
 
          อย่างไรก็ตาม ทางโฆษกโรงแรมได้ปฏิบัติที่จะแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต่อสื่อ เกี่ยวกับการดำเนินคดีที่อยู่ระหว่างรอดำเนินการ
 

ขอบคุณข้อมูลจาก New York Post, KTVU