อาจารย์เจษฎ์ ยืนยัน บั้งไฟพญานาค เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ พร้อมยกทฤษฎีมีแค่คนเท่านั้นที่รู้ปฏิทินสรุยคติ ด้านคนหลังไมค์มาด่า ลองลบหลู่พญานาคเดี๋ยวจะมีอันเป็นไป เลยรีวิวให้ฟัง ผลลัพธ์ของการลบหลู่บั้งไฟผี ทำมาสิบปี กลายเป็นงี้เลย
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นวันออกพรรษา และริมฝั่งโขงที่ อ.โพนพิสัย และ อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ก็มีการจัดงานประจำปีอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกับต้อนรับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มาชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคด้วยตาของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธุ์ อาจารย์จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้หนึ่งที่ออกมาพูดทุกปีว่าบั้งไฟพญานาคนั้น ไม่ใช่ปรากฏการณ์ธรรมชาติ หากแต่เป็นผลงานของมนุษย์ที่ยิงปืนมาจากฝั่งลาว ซึ่งพอยิงปืนแล้วก็จะได้ยินเสียงเฮจากฝั่งไทย
แต่หากอธิบายตามหลักดาราศาสตร์แล้ว จะพบว่า บั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นเฉพาะในวันออกพรรษา ซึ่งเป็นวันที่สำคัญที่กำหนดขึ้นมาโดยมนุษย์ ตามปฏิทินสุริยจันทรคติ ไม่ใช่วันที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เหตุการณ์บั้งไฟพญานาคไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงฤดูกาลเดิม หรือตามเฟสของดวงจันทร์ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะวันที่พระจันทร์เต็มดวง 15 ค่ำ เดือน 11 และมีแค่มนุษย์เท่านั้นที่รู้ว่า วันออกพรรษาคือวันไหน ดังนั้น ถ้าจะบั้งไฟพญานาคจะเกิดขึ้นเฉพาะในวันออกพรรษาที่มนุษย์กำหนด มันก็น่าจะมาจากเงื้อมมือของมนุษย์แน่นอน
(ปฏิทินสุริยจันทรคิต เป็นปฏิทินแบบพุทธไทยเถรวาท มีการนับเดือนตามดวงจันทร์แต่ชดเชยวันที่หายไปในทุก ๆ ปี เพื่อให้เดือนเดิมกลับมาตรงกับปีในสุริยคติทุกครั้ง โดยในปีอธิกมาส จะมีการเพิ่มเดือน 8 ซ้ำ 2 ครั้ง และทำให้วันสำคัญเช่น วันออกพรรษา หรือวันลอยกระทง ไม่เกิดขึ้นในวันเดียวกันของทุกปี)
ในขณะเดียวกัน ก็มีคนหลังไมค์มาหา อ.เจษฎ์ และบอกว่า หากอาจารย์ไม่เชื่อก็ลองลบหลู่ท่าน (พญานาค) ดูไหม ขอให้มีอันเป็นไป ครอบครัวฉิบหาย ไม่เชื่อลองลบหลู่กับรูปปั้นพญานาควัดใดก็ได้ กล้า ๆ หน่อย เชิญนักข่าวด้วย ให้เห็นผลใน 3 วัน 7 วัน พวกนั่งเทียน" ซึ่ง อ.เจษฎ์ ก็บอกว่า ตนลบหลู่ลูกไฟจากแก๊ส ถ้าอยากจะเชื่อว่าบั้งไฟผี หรือชื่อเดิมของบั้งไฟพญานาค เกิดจากพญานาคก็ตามใจคุณนะ และยังเสริมอีกว่า ตนลบหลู่ทฤษฎีลูกไฟแก๊สมาเป็นสิบปีแล้ว ชีวิตยังมีความสุขดี 555+