กลุ่ม อุลตร้าไทยแลนด์ โพสต์จวก เอเอฟซี ออกกฎกีดกันเสรีภาพดูบอล แขวะถึงกองเชียร์ที่ยอมรับกฎ ชี้ช่างน่าสมเพช ด้านโซเชียลถกสนั่น
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 กลุ่มแฟนบอล อุลตร้าไทยแลนด์ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Ultras Thailand เกี่ยวกับกฎของ เอเอฟซี ว่าจำกัดเสรีภาพการเชียร์ของแฟนบอล เสมือนปฏิบัติเป็นอาชญากร อีกทั้งยังรู้สึกสมเพชกองเชียร์ที่ยอมก้มหัวให้ ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าว ก่อนโปรแกรมที่ทีมชาติไทย จะลงแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง นัดแรก พบกับ ทีมชาติจีน ในวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน
โพสต์ดังกล่าวระบุว่า เสรีภาพในการเชียร์กำลังถูกคุกคามผ่านกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ดูเหมือนว่ามันจะสร้างความยุ่งยากให้การเชียร์มากขึ้น และมากขึ้น ตั้งแต่ปี 2012 เราสู้กับกฎส้นตี_ของ AFC มาตลอด มันไม่ใช่แค่เรื่อง Pyro Show (การแสดงดอกไม้ไฟ) แต่มันพยายามแทรกซึมมากีดกันเราจากการเชียร์อย่างเสรีภาพในทุก ๆ มิติ ห้ามนู่นนี่นั่น ปฏิบัติต่อพวกเราเหมือนเป็นอาชญากร ตามจิกกัดพวกเราทั้งในสนามและนอกสนาม รวมถึงการใช้กฎหมายนอกสนามมาเล่นงาน ดำเนินคดีต่าง ๆ นานา
มาถึงวันนี้ การกระทำเหล่านั้นก็ยังคงดำเนินอยู่ และมีท่าทีว่ามันจะเดินทางไปในทิศทางที่เข้มข้นขึ้นไปเรื่อย ๆ เราในฐานะกองเชียร์คนหนึ่ง มันเป็นเรื่องที่เราควรแสดงให้ฝ่ายที่พยายามควบคุมได้รู้ว่า พวกเขาไม่มีสิทธิ์ใด ๆ ที่จะมาคุกคามเสรีภาพแห่งการเชียร์ มันเป็นเรื่องของการปกป้องจิตวิญญาณของตนเอง ทั้งในแง่ของ ปัจเจกบุคคล หรือ องคาพยพที่ใหญ่ขึ้นไป
AFC ไม่ใช่กองเชียร์ แน่นอนว่าพวกมันไม่ได้มีความเข้าใจวัฒนธรรมการเชียร์ใด ๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่พวก...ต้องการคือ แฟนบอลเชื่อง ๆ จำนวนมาก ที่เข้าสนามมาดูบอล ดูโฆษณา อุดหนุนสินค้า อาหารที่สามารถนำเข้าไปกินในสนามได้ มูลค่าลิขสิทธิ์ ผลประโยชน์ของพวกมันเอง ดูบอลจบพวกมึงก็ไสหัวกลับบ้านไป
คุณเป็นกองเชียร์แบบไหนกัน ? เชื่อง หรือ ไม่เชื่อง ? หากเสรีภาพต้องขออนุญาตจากใครสักคนก่อน มันยังจะเรียกตัวเองว่าเสรีภาพได้อย่างไรกัน Regulations are kill’in you not me !!!"
หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ไป
กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงในกลุ่มแฟนกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทยอีกครั้ง
โดยเฉพาะพฤติกรรมการเชียร์ของแฟนบอลฮาร์ดคอร์บางรายที่ทำการจุดพลุในสนาม
ว่าเป็นอะไรที่อันตรายและสร้างความเสียหาย
จนส่งผลให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดน สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย
(เอเอฟซี) ปรับเงินกว่า 2 ล้านบาท ช่วงเดือนกันยายน 2566
และเคยโดนไปหลายล้านบาทแล้วช่วงก่อนหน้านี้ด้วย