ครูโหดย่องพบตำรวจ หลังหนีออกนอกพื้นที่ ปมทารุณใช้ถาดอาหารฟาดหลังเด็ก 2 ขวบ จนม่วงเขียว วงจรปิดชัดฟาดเด็กไม่ยั้ง ครูคนอื่นเห็นแต่ไม่มีคนห้าม
พร้อมกันนั้นยังเปิดภาพวงจรปิดนาทีเกิดเหตุ พบว่าสาเหตุที่ครูตีน้องแบบเอาเป็นเอาตาย แค่เพราะน้องวางถาดหลุมไม่ลงล็อก ซึ่งตอนนั้นครูคนอื่นก็ไม่ได้มีท่าทีจะเข้ามาห้ามปราม หรือช่วยเหลือเด็ก ทำเหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกตินั้น
ต่อมาวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า นางสาวชลิดา พะละมาตย์ ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง พร้อมด้วยคุณยายและแม่ของน้องหนึ่ง (นามสมมติ) ผู้เสียหาย รวมถึงตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบศูนย์เด็กเล็กในพื้นที่ตำบลโพธิ์ทอง เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดแล้ว พบว่ามีภาพตอนที่เด็ก ๆ เดินแถวไปที่โรงอาหาร ซึ่งมีการให้เด็กหยิบถาดหลุมจากกองหนึ่ง ไปวางอีกกองหนึ่ง ซึ่งน้องหนึ่งทำช้ากว่าเด็กคนอื่น ทำให้ครูที่คุมแถวอยู่เดินมาใช้มือฟาดหลังอย่างแรงจนเกือบหน้าคว่ำ จากนั้นครูก็ดึงหูน้องออกจากแถว โดยมีเพื่อน ๆ มองตาม
ทั้งนี้ มีภาพอีกมุมเผยว่าครูดึงตัวน้องหนึ่งเข้ามาในห้อง เอาถาดข้าวตีที่หลังอย่างแรง กระชากตัวน้องลอยขึ้นมา และยังตีน้องอีกหลายครั้งจนน้องล้มลงกับพื้น อีกทั้งครูยังจับแขนน้องหนึ่งขึ้นมา เขย่าตัวขึ้น ๆ ลง ๆ อย่างแรงหลายครั้ง ตีน้อง และสั่งให้น้องวางหลุมถาดใหม่ เมื่อทำช้าก็ตีน้องจนหงายและกระชากตัวมาเขย่า ตีหลัง ตีก้นน้องหลายครั้ง
ยังมีภาพครูหยิบของที่คล้ายรองเท้ามาฟาดใส่น้อง เอามือค้ำคอกดให้น้องก้มลงวางถาด จับคอน้องเขย่าอย่างแรง รวมช่วงเวลาที่เด็กถูกครูทำร้าย ยาวนานกว่า 5 นาที
ขณะที่หนึ่งในครูที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า วันนั้นหลังเคารพธงชาติแล้ว เด็กประมาณ 30 คน ได้เข้าแถวเพื่อนำถาดหลุมอาหารกลางวันมาวางซ้อนกัน ในลักษณะเป็นเกมเพื่อให้เด็กรู้ถึงการเก็บถาดอาหารให้เป็นระเบียบ ซึ่งในกลุ่มมีเด็ก 2 ขวบ ประมาณ 3-4 คน ที่ตามพัฒนาการ อาจจะช้ากว่าเด็กโต จนเกิดเหตุดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ตนจะอยู่ในเหตุการณ์แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรมาก เพราะครูผู้ก่อเหตุเป็นหัวหน้าศูนย์เด็กเล็ก ตนจึงทำได้แค่ปลอบใจเด็กเท่านั้น
ทั้งนี้ นายชุมพล มาโยธา นายก อบต.โพธิ์ทอง ยืนยันว่ามีคำสั่งย้ายครูที่ก่อเหตุออกจากศูนย์เด็กเล็ก กลับไปทำงานที่ อบต. พร้อมกับตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง โดยมีกรอบการสอบสวน 180 วัน ส่วนการดำเนินคดีอาญา ก็เป็นไปตามกระบวนการ ยืนยันว่าจะไม่ปกป้องคนผิดอย่างแน่นอน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เป็นหนึ่ง
ทางด้านตำรวจได้นำสำนวนส่งฟ้องยื่นประทับที่ศาลจังหวัดร้อยเอ็ดแล้ว โดยได้ยื่นฟ้องไป 2 ข้อหา คือข้อหา ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายต่อกายและจิตใจ กับข้อหา กระทำหรือละเว้นการกระทำอันเป็นการทารุณกรรมต่อเด็ก ตาม พ.ร.บ.เด็ก
หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหมายเรียกซ้ำอีกครั้งเพื่อรับทราบคำส่งฟ้อง และหากไม่มาตามหมายเรียก เจ้าหน้าที่จะออกหมายจับ ตามลำดับต่อไป