เจ้าของร้าน Sky View cafe ประกาศปิดร้าน เอาผิดคนบุกรุกเปิด ย้ำลงทุนเองคนเดียวกลับโดนฮุบหลังสามีตาย อีกฝ่ายระบุใช้สิทธิ์ความเป็นลูกทำแทนพ่อ วอนชาวเน็ตฟังอีกมุม
กลายเป็นเรื่องราวที่หลายคนกำลังติดตาม กรณี น.ส.ภาณิศา หรือ คุณมุก โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก Sky View cafe จันทบุรี ซึ่งมีผู้ติดตาม 3.8 หมื่น ระบุว่า ร้านเปิดกิจการตั้งแต่ 2562-2565 ล่าสุดประกาศปิดกิจการเป็นการถาวร นับตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 หากมีบุคคลใดยังเข้ามาดำเนินกิจการในร้าน หรือเข้ามาในร้านโดยไม่มีเหตุอันควร ทางร้านจะดำเนินคดีกับบุคคลนั้นตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและทางอาญาต่อไป
ต่อมาพบว่า มีเพจเฟซบุ๊ก Skyview cafe and restaurant ซึ่งมีผู้ติดตาม 2.7 หมื่นคน ปัจจุบันเข้ามาทำกิจการร้านคาเฟ่ดังกล่าว โดยมีการขึ้นรูปร้านเดียวกัน พร้อมระบุว่าเป็นเพจจริง ทำการแชร์โพสต์ของเพจร้านของ น.ส.ภาณิศา โดยระบุว่า ตนเองนั้นชื่อว่า น.ส.ศุภจิตรา หรือ น้ำแข็ง ขอใช้พื้นที่ในการชี้แจงเรื่องร้าน ร้านเปิดบริการทุกวัน ตนมีน้องสาวอีก 2 คน ซึ่งเป็นบุตรของ นายสงกรานต์ ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้ว และได้มาดำเนินกิจการแทน ได้เป็นเจ้าของร้าน Skyview cafe and restaurant ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2565 และดำเนินกิจการอยู่จนถึงปัจจุบัน ใครที่แอบอ้างสิทธิ์ว่าเป็นเจ้าของ ทางเราได้รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมฝากข้อความถึงคู่กรณีว่า "เลิกมโนนะคะหนู เก่งจริงอย่าบล็อก เอาความจริงมาคุย"
นอกจากนี้ ทางเพจดังกล่าวยังโพสต์อีกว่า "ใช้สิทธิ์ความเป็นลูกทำแทนพ่อเนี่ย ต้องมีเอกสารอะไรอ้างอิงเหรอ ใบเกิดก็มี ใบรับรองบุตรก็มี จะเอาไรอีก"
![แย่งคาเฟ่ แย่งคาเฟ่]()
ล่าสุด (12 พฤศจิกายน) คุณมุก โพสต์ว่า ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ในการบอกกล่าวเรื่องราวร้าน sky view cafe ตนอยู่กินฉันสามีภรรยากับ นายสงกรานต์ (พี่เอส สามีซึ่งเสียชีวิตแล้ว) มาเป็นเวลา 11 ปี มีบุตรบุญธรรม 1 คน ชื่อน้อง Sky ตนเป็นคน จ.นครศรีธรรมราช พี่เอส เป็นคนเกาะเปริด จ.จันทบุรี ตนกับพี่เอสใช้ชีวิตด้วยกันที่ จ.นครศรีธรรมราช 8 ปี แล้วพี่เอสอยากกลับมาอยู่บ้าน เราจึงคิดหาลู่ทางการทำมาหากินใหม่ด้วยเงินส่วนตัวของตนทั้งหมด เราดิ้นรนสร้างกันมาด้วยความพยายาม ด้วยความเหน็ดเหนื่อย จนก่อเกิดร้าน Sky view cafe (ใช้ชื่อลูกบุญธรรม) ก็ยังไม่หายเหนื่อย ต้องมาต่อสู้กับองค์กรต่าง ๆ ที่มีคนไม่ได้ผลประโยชน์กลั่นแกล้ง แต่เราก็ผ่านมันมาได้ทุกครั้ง เราสร้างเพจร้าน โปรโมตร้าน จนร้านติดอันดับ 1 แหล่งท่องเที่ยวของ จ.จันทบุรี และมีชื่อเสียงมาเรื่อย ๆ
จนกระทั่งเกิดเรื่องเลวร้ายสุดในชีวิต พี่เอส เสียชีวิตกะทันหัน ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 บำเพ็ญกุศลศพเสร็จสิ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ในตอนนั้นตนอยู่ที่วัดกับพี่สาวและลูกบุญธรรม ทั้งวัดเหลือเราแค่ 3 คน รอให้ศพสามีค่อย ๆ สลายไป ไม่ทันไหม้หมด ได้รับโทรศัพท์มาบอกว่า อย่าเพิ่งเข้าบ้าน มีคนมาทวงส่วนแบ่งมรดก
เมื่อตนกลับบ้านไป พบว่า อดีตภรรยาพี่เอส ซึ่งมีสามีใหม่ไปแล้ว (ไม่เคยติดต่อกับสามีตนมานานประมาณ 13-14 ปี แค่มีลูก ๆ ติดต่อมาบ้าง) เข้ามาทวงสิทธิ์ส่วนแบ่งมรดก พาคนมาเยอะแยะ เป็นชายฉกรรจ์ โดยการมาโวยวาย จะเอาร้าน Sky view cafe ให้ได้ อ้างว่าถึงขั้นขู่ยิง ขู่ทำร้าย ด่าทอด้วยคำพูดหยาบคาย ทุกอย่างมีคลิปเป็นหลักฐาน โดยคาดว่าคู่กรณีต้องการขู่ให้ตนย้ายไปจากพื้นที่ นอกจากนี้ตอนออกไปยังขับรถพุ่งชนรถของตนอีกด้วย
หลังเกิดเรื่องตนกับพี่สาวจึงขับรถออกไปแจ้งความที่ สภ.เกาะเปริด ปรากฏว่าที่นั่นคู่กรณีจอดรถรออยู่แล้ว ตนเห็นท่าไม่ดี
ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ใครเป็นฝ่ายใคร เพราะตนไม่ใช่คนในพื้นที่
ในรถก็มีลูกอายุ 7 ขวบด้วย แถมเหตุเกิดยามวิกาล จึงตัดสินใจขับรถออกมา
ก็เหมือนจะถูกรถอีกคันขับตามหลังมา
ในใจจึงคิดแต่ว่าต้องเอาชีวิตรอดออกจากพื้นที่ก่อน
ซึ่งพอเกิดเรื่องนี้ในตอนเช้าที่ตั้งใจว่าจะไปเก็บกระดูกสามีจึงยังไม่มีสิทธิ์จะทำได้
ตนจึงใช้เวลาทั้งหมดเดินเรื่องตามกฎหมาย แต่ก็คาใจว่าทำไมไม่คุยกันดี ๆ แต่กลับมาทำกับตนที่เป็นผู้หญิงคนเดียวแบบนี้ ส่วนเรื่องคดีนั้นหากคิดว่ามีสิทธิ์ทางกฎหมายที่จะได้ส่วนแบ่งจากร้าน Sky view cafe ก็ทวงสิทธิ์ได้ ตั้งทนายมาคุยกัน แต่ผ่านมาเกือบ 1 ปี อีกฝ่ายเงียบหาย เพราะคิดว่าได้ร้านไปแบบฟรี หนี้สินไม่ช่วยจ่าย แถมที่ดินที่สร้างร้านตนเป็นคนจ่ายค่าเช่าทั้งหมด
ที่ผ่านมาไม่เคยออกมาพูดเพราะต้องการให้เกียรติสามีที่เสียชีวิต ให้เกียรติคนอื่น ๆ ที่อาจจะได้รับผลกระทบ และถือว่ามันเป็นเรื่องภายในครอบครัว วันนี้ที่ต้องออกมาชี้แจง อยากให้ทุกคนเข้าใจสถานการณ์ เข้าใจเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น จะได้ไม่มโนไปต่าง ๆ นานา จนทำให้เกิดความเสียหายด้านชื่อเสียงของร้าน Sky view cafe เพราะสามีรักและตั้งใจทำร้านนี้ให้ออกมาดีที่สุด เรื่องคดีขณะนี้อยู่ในกระบวนการทั้งเรื่องการบุกรุกร้าน เรื่องมรดก เรื่องสิทธิ์ครอบครองร้าน และดำเนินการปิดร้านเป็นการถาวร หากผู้ใดคิดว่าข้อความดังกล่าวเป็นเท็จให้นำไปแจ้งความได้เลย
ด้าน คุณน้ำแข็ง โพสต์ชี้แจงในคอมเมนต์ว่า เริ่มแรกร้านนี้เป็นร้านของคุณพ่อเป็นคนก่อตั้งมา ต่อมาคุณพ่อเสียชีวิต ทางปู่ย่าก็ได้มาให้ลูก ๆ ทั้ง 3 พี่น้องเป็นผู้จัดการมรดกโดยศาลสั่ง และไม่มีใครคัดค้านคำสั่ง ซึ่งได้ถูกต้องโดยชอบธรรม ก่อนที่ตนจะขึ้นทำร้าน ได้มีน้องชายคุณพ่อ ชื่อ อาท๊อป ขึ้นมาดำเนินกิจการแทนก่อน เพราะตนยังเรียนอยู่ปี 3 แต่คุณมุกไม่ยอม เอาชายฉกรรจ์มา 5 คน เพื่อมาขนอุปกรณ์ในร้านไปทั้งหมด โดยอ้างว่ากลุ่มดังกล่าวมีการทำร้ายร่างกายทางอาท๊อป ซึ่งได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เกาะเปริด
ภายหลังเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ไปได้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะความไม่ชัดเจนของฝ่ายลูก ๆ ภรรยาเก่าที่เข้าไปเปิดร้านดังกล่าวขณะยังมีคำสั่งปิด โดยชาวเน็ตไม่น้อยตั้งคำถามว่า วิธีการที่ได้มาของร้านใช้วิธีไหน และมีเอกสารยืนยันสิทธิ์ในการเข้าไปทำร้านนี้หรือไม่ ประเด็นหลักคือเรื่องเงินลงทุนร้าน ว่าก่อนหน้านี้ครอบครัวภรรยาเก่าไปลงทุนกับร้านนี้ไว้ตอนไหน เพราะเงินที่สร้างเป็นเงินของคุณมุก ส่วนคุณเอสทำหน้าที่บริหารเท่านั้น ยกเว้นแต่ฝั่งลูก ๆ จะมีหลักฐานว่าข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น
กลายเป็นเรื่องราวที่หลายคนกำลังติดตาม กรณี น.ส.ภาณิศา หรือ คุณมุก โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก Sky View cafe จันทบุรี ซึ่งมีผู้ติดตาม 3.8 หมื่น ระบุว่า ร้านเปิดกิจการตั้งแต่ 2562-2565 ล่าสุดประกาศปิดกิจการเป็นการถาวร นับตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 หากมีบุคคลใดยังเข้ามาดำเนินกิจการในร้าน หรือเข้ามาในร้านโดยไม่มีเหตุอันควร ทางร้านจะดำเนินคดีกับบุคคลนั้นตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและทางอาญาต่อไป
![แย่งคาเฟ่ แย่งคาเฟ่](http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/seksan/2023/addnews/4_30.jpg)
ต่อมาพบว่า มีเพจเฟซบุ๊ก Skyview cafe and restaurant ซึ่งมีผู้ติดตาม 2.7 หมื่นคน ปัจจุบันเข้ามาทำกิจการร้านคาเฟ่ดังกล่าว โดยมีการขึ้นรูปร้านเดียวกัน พร้อมระบุว่าเป็นเพจจริง ทำการแชร์โพสต์ของเพจร้านของ น.ส.ภาณิศา โดยระบุว่า ตนเองนั้นชื่อว่า น.ส.ศุภจิตรา หรือ น้ำแข็ง ขอใช้พื้นที่ในการชี้แจงเรื่องร้าน ร้านเปิดบริการทุกวัน ตนมีน้องสาวอีก 2 คน ซึ่งเป็นบุตรของ นายสงกรานต์ ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้ว และได้มาดำเนินกิจการแทน ได้เป็นเจ้าของร้าน Skyview cafe and restaurant ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2565 และดำเนินกิจการอยู่จนถึงปัจจุบัน ใครที่แอบอ้างสิทธิ์ว่าเป็นเจ้าของ ทางเราได้รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมฝากข้อความถึงคู่กรณีว่า "เลิกมโนนะคะหนู เก่งจริงอย่าบล็อก เอาความจริงมาคุย"
![แย่งคาเฟ่ แย่งคาเฟ่](http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/seksan/2023/addnews/5_22.jpg)
นอกจากนี้ ทางเพจดังกล่าวยังโพสต์อีกว่า "ใช้สิทธิ์ความเป็นลูกทำแทนพ่อเนี่ย ต้องมีเอกสารอะไรอ้างอิงเหรอ ใบเกิดก็มี ใบรับรองบุตรก็มี จะเอาไรอีก"
![แย่งคาเฟ่ แย่งคาเฟ่](http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/seksan/2023/addnews/6_17.jpg)
จากนั้น น.ส.ภาณิศา หรือ คุณมุก ได้แชร์โพสต์ของเพจร้านซึ่งโพสต์โดยคุณน้ำแข็ง ระบุว่า Skyview cafe and restaurant คือบุคคลอ้างอิงที่เข้าบุกรุกร้านและครอบครองร้าน โดยการใช้วิธีผิดกฎหมาย โดยอ้างว่าตนถูกอีกฝ่ายลอบทำร้ายเพื่อหวังผลประโยชน์ จะมาฉวยโอกาสทั้งที่ไม่มีแม้แต่เงินจะลงทุน แล้วอยากได้ของฟรี รบกวนอ่านเอกสารแนบที่แสดงความเป็นเจ้าของร้านตัวจริง อีกไม่นานเจอกันที่ศาล ช่วยหาหลักฐานมาให้เยอะที่สุด เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าไม่มีเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของสักฉบับ
นอกจากนี้ คุณมุก ยังโพสต์เอกสารจากองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเปริด ใจความว่า ตน (น.ส ภาณิศา) ในฐานะเจ้าของอาคาร ร้าน Sky view cafe ได้รับคำสั่งจากเจ้าหน้าที่พนักงาน เรื่องการห้ามใช้อาคาร เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของทุก ๆ คน หากมีบุคคลใดฝ่าฝืน เข้ามา หรือใช้อาคารดังกล่าว ตนในฐานะเจ้าของอาคาร จึงจำเป็นต้องดำเนินคดีทางกฎหมาย จึงเรียนแจ้งให้ทางลูกค้าทราบถึงความปลอดภัยของตัวท่านเอง พร้อมกราบขอบพระคุณลูกค้าทุกท่าน
![แย่งคาเฟ่ แย่งคาเฟ่](http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/seksan/2023/addnews/7_8.jpg)
![แย่งคาเฟ่ แย่งคาเฟ่](http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/seksan/2023/addnews/8_5.jpg)
ล่าสุด (12 พฤศจิกายน) คุณมุก โพสต์ว่า ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ในการบอกกล่าวเรื่องราวร้าน sky view cafe ตนอยู่กินฉันสามีภรรยากับ นายสงกรานต์ (พี่เอส สามีซึ่งเสียชีวิตแล้ว) มาเป็นเวลา 11 ปี มีบุตรบุญธรรม 1 คน ชื่อน้อง Sky ตนเป็นคน จ.นครศรีธรรมราช พี่เอส เป็นคนเกาะเปริด จ.จันทบุรี ตนกับพี่เอสใช้ชีวิตด้วยกันที่ จ.นครศรีธรรมราช 8 ปี แล้วพี่เอสอยากกลับมาอยู่บ้าน เราจึงคิดหาลู่ทางการทำมาหากินใหม่ด้วยเงินส่วนตัวของตนทั้งหมด เราดิ้นรนสร้างกันมาด้วยความพยายาม ด้วยความเหน็ดเหนื่อย จนก่อเกิดร้าน Sky view cafe (ใช้ชื่อลูกบุญธรรม) ก็ยังไม่หายเหนื่อย ต้องมาต่อสู้กับองค์กรต่าง ๆ ที่มีคนไม่ได้ผลประโยชน์กลั่นแกล้ง แต่เราก็ผ่านมันมาได้ทุกครั้ง เราสร้างเพจร้าน โปรโมตร้าน จนร้านติดอันดับ 1 แหล่งท่องเที่ยวของ จ.จันทบุรี และมีชื่อเสียงมาเรื่อย ๆ
จนกระทั่งเกิดเรื่องเลวร้ายสุดในชีวิต พี่เอส เสียชีวิตกะทันหัน ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 บำเพ็ญกุศลศพเสร็จสิ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ในตอนนั้นตนอยู่ที่วัดกับพี่สาวและลูกบุญธรรม ทั้งวัดเหลือเราแค่ 3 คน รอให้ศพสามีค่อย ๆ สลายไป ไม่ทันไหม้หมด ได้รับโทรศัพท์มาบอกว่า อย่าเพิ่งเข้าบ้าน มีคนมาทวงส่วนแบ่งมรดก
เมื่อตนกลับบ้านไป พบว่า อดีตภรรยาพี่เอส ซึ่งมีสามีใหม่ไปแล้ว (ไม่เคยติดต่อกับสามีตนมานานประมาณ 13-14 ปี แค่มีลูก ๆ ติดต่อมาบ้าง) เข้ามาทวงสิทธิ์ส่วนแบ่งมรดก พาคนมาเยอะแยะ เป็นชายฉกรรจ์ โดยการมาโวยวาย จะเอาร้าน Sky view cafe ให้ได้ อ้างว่าถึงขั้นขู่ยิง ขู่ทำร้าย ด่าทอด้วยคำพูดหยาบคาย ทุกอย่างมีคลิปเป็นหลักฐาน โดยคาดว่าคู่กรณีต้องการขู่ให้ตนย้ายไปจากพื้นที่ นอกจากนี้ตอนออกไปยังขับรถพุ่งชนรถของตนอีกด้วย
จากนั้นตนกลับบ้านที่
จ.นครศรีธรรมราช มาตั้งหลักคุยกับทนาย อีก 2
วันเดินทางไปแจ้งความในพื้นที่จันทบุรี ขอกำลังตำรวจคุ้มกัน
เข้าไปเอาเสื้อผ้า ขนของจากที่ร้านบางอย่างเพื่อปิดกิจการชั่วคราว
ผ่านไปแค่ 1 อาทิตย์ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ มีคนโทร. มาบอกว่า ถูกยึดร้านแล้ว
โดยอีกฝ่ายไม่ให้ตนซึ่งเป็นเจ้าของเข้ามามีส่วนร่วมในกิจการ
และยึดร้านเป็นของตัวเองทันทีด้วยการงัดกุญแจร้านเข้าไปเอง
ถือว่าเป็นการบุกรุก
ตนจึงใช้เวลาทั้งหมดเดินเรื่องตามกฎหมาย แต่ก็คาใจว่าทำไมไม่คุยกันดี ๆ แต่กลับมาทำกับตนที่เป็นผู้หญิงคนเดียวแบบนี้ ส่วนเรื่องคดีนั้นหากคิดว่ามีสิทธิ์ทางกฎหมายที่จะได้ส่วนแบ่งจากร้าน Sky view cafe ก็ทวงสิทธิ์ได้ ตั้งทนายมาคุยกัน แต่ผ่านมาเกือบ 1 ปี อีกฝ่ายเงียบหาย เพราะคิดว่าได้ร้านไปแบบฟรี หนี้สินไม่ช่วยจ่าย แถมที่ดินที่สร้างร้านตนเป็นคนจ่ายค่าเช่าทั้งหมด
ที่ผ่านมาไม่เคยออกมาพูดเพราะต้องการให้เกียรติสามีที่เสียชีวิต ให้เกียรติคนอื่น ๆ ที่อาจจะได้รับผลกระทบ และถือว่ามันเป็นเรื่องภายในครอบครัว วันนี้ที่ต้องออกมาชี้แจง อยากให้ทุกคนเข้าใจสถานการณ์ เข้าใจเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น จะได้ไม่มโนไปต่าง ๆ นานา จนทำให้เกิดความเสียหายด้านชื่อเสียงของร้าน Sky view cafe เพราะสามีรักและตั้งใจทำร้านนี้ให้ออกมาดีที่สุด เรื่องคดีขณะนี้อยู่ในกระบวนการทั้งเรื่องการบุกรุกร้าน เรื่องมรดก เรื่องสิทธิ์ครอบครองร้าน และดำเนินการปิดร้านเป็นการถาวร หากผู้ใดคิดว่าข้อความดังกล่าวเป็นเท็จให้นำไปแจ้งความได้เลย
![แย่งคาเฟ่ แย่งคาเฟ่](http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/seksan/2023/addnews/9_4.jpg)
ด้าน คุณน้ำแข็ง โพสต์ชี้แจงในคอมเมนต์ว่า เริ่มแรกร้านนี้เป็นร้านของคุณพ่อเป็นคนก่อตั้งมา ต่อมาคุณพ่อเสียชีวิต ทางปู่ย่าก็ได้มาให้ลูก ๆ ทั้ง 3 พี่น้องเป็นผู้จัดการมรดกโดยศาลสั่ง และไม่มีใครคัดค้านคำสั่ง ซึ่งได้ถูกต้องโดยชอบธรรม ก่อนที่ตนจะขึ้นทำร้าน ได้มีน้องชายคุณพ่อ ชื่อ อาท๊อป ขึ้นมาดำเนินกิจการแทนก่อน เพราะตนยังเรียนอยู่ปี 3 แต่คุณมุกไม่ยอม เอาชายฉกรรจ์มา 5 คน เพื่อมาขนอุปกรณ์ในร้านไปทั้งหมด โดยอ้างว่ากลุ่มดังกล่าวมีการทำร้ายร่างกายทางอาท๊อป ซึ่งได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เกาะเปริด
ต่อมาคุณปู่คุณย่าก็เลยมาขอให้คุณแม่ขึ้นไปบริหารแทนจนกว่าตนจะเรียนจบ
เมื่อตนขึ้นมาบริหารก็ได้ดูแลคุณปู่คุณย่าอายุ 70 ปี ทั้ง 2 ท่าน และอาเอ
น้องสาวคุณพ่อ เป็นอัมพฤกษ์อยู่ช่วยเหลือตัวเองลำบาก ตนได้มาทำร้าน Sky
view
เพื่อนำเงินรายได้ไปดูแลทางบ้านของคุณพ่ออยู่ตลอดตั้งแต่คุณพ่อเสียชีวิตไป
ส่วนลูกบุญธรรม ถ้ามีเอกสารว่าเป็นลูกบุญธรรมคุณก็ชี้แจงได้
ที่ตนไม่ออกมาโต้ตอบ เพราะมันมีคดีความอยู่หลายคดี พร้อมถามกลับถึงคุณมุก ว่าทำไมตำรวจ สภ.เกาะเปริด ออกหมายเรียกเพื่อมาเจรจา 2 รอบแล้ว
ทำไมคุณไม่มาชี้แจง แล้วคุณไปโพสต์แบบนี้ทำไม
คุณเองหรือเปล่าที่ใจร้ายกับทางครอบครัวคุณพ่อ ที่คุณบอกว่ารักมาก
คุณปู่ คุณย่า คุณอา ที่หมดหัวหน้าครอบครัวไป
คุณตอบแทนครอบครัวสามีคุณแบบนี้เหรอ คำพูดคุณพูดเอาดีเข้าตัว ชั่วไปหาคนอื่น
วันหนึ่งความจริงจะปรากฏ กรรมก็จะไปถึงคุณ
รบกวนคนเมนต์ช่วยพิจารณาก่อนฟังความ 2 ฝั่งก่อนจะว่า
ตนจะนำไปดำเนินคดีถึงที่สุดแน่นอน
![แย่งคาเฟ่ แย่งคาเฟ่](http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/seksan/2023/addnews/10_3.jpg)
ภายหลังเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ไปได้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะความไม่ชัดเจนของฝ่ายลูก ๆ ภรรยาเก่าที่เข้าไปเปิดร้านดังกล่าวขณะยังมีคำสั่งปิด โดยชาวเน็ตไม่น้อยตั้งคำถามว่า วิธีการที่ได้มาของร้านใช้วิธีไหน และมีเอกสารยืนยันสิทธิ์ในการเข้าไปทำร้านนี้หรือไม่ ประเด็นหลักคือเรื่องเงินลงทุนร้าน ว่าก่อนหน้านี้ครอบครัวภรรยาเก่าไปลงทุนกับร้านนี้ไว้ตอนไหน เพราะเงินที่สร้างเป็นเงินของคุณมุก ส่วนคุณเอสทำหน้าที่บริหารเท่านั้น ยกเว้นแต่ฝั่งลูก ๆ จะมีหลักฐานว่าข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น