แม่เปิดความลับ 30 ปี เรื่องพ่อแท้ ๆ ของลูกสาว คนที่ลูกเรียกว่าพี่แท้จริงแล้วคือพ่อ ส่วนตัวเองยังคงเป็นแม่แท้ ๆ ความลับนี้จะให้เล่ายังไง จริง ๆ เกิดอะไรขึ้น

นับเป็นสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่แม่รายหนึ่งต้องเผชิญ เมื่อเธอออกมายอมรับว่าโกหกลูกสาวมาโดยตลอด เรื่องพ่อที่แท้จริง และในตอนนี้เธอก็ไม่รู้ว่าจะบอกความจริงกับลูกสาวอย่างไร ว่าพี่ชายของลูกนั้น จริง ๆ แล้วเป็นพ่อผู้ให้กำเนิด และหลาน ๆ ที่เกิดมาก็ล้วนแต่เป็นพี่น้องต่างแม่ของตัวเอง
โดยเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 เว็บไซต์มิร์เรอร์ รายงานว่า แม่ที่กำลังทุกข์ใจอย่างหนักผู้นี้ ได้ส่งจดหมายเข้ามายังคอลัมน์ให้คำปรึกษาของเว็บไซต์ดิแอตแลนติก พร้อมอธิบายที่มาที่ไปถึงลำดับวงศ์ตระกูลที่ไม่ปกติของครอบครัวเธอ ซึ่งไม่ได้เกิดจากรักต้องห้ามหรือเรื่องของการนอกใจใด ๆ
จริง ๆ แล้วสามีของเธอมีลูกติด 2 คนที่เกิดจากภรรยาเก่า ซึ่งทั้งคู่ต่างก็โตแล้ว ในขณะที่สามีเองก็อยากมีลูกเพื่อสร้างครอบครัวร่วมกับเธอ อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือสามีได้ทำหมันไปแล้วหลังจากลูกคนที่ 2 เกิด ซึ่งเวลาก็ผ่านมานานเกินกว่าจะกลับไปแก้ไขใด ๆ ได้
เมื่อไม่มีทางเลือก คู่รักที่ลังเลกับการหันไปพึ่งธนาคารสเปิร์ม ตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากคนใกล้ชิดที่สุดให้ช่วยบริจาคสเปิร์มให้ ซึ่งคนคนนั้นก็คือลูกชายคนโตของสามี
ในตอนนั้น แม่รายนี้รู้สึกนั่นคือการตัดสินใจที่ดีที่สุด เพราะพวกเธอสามารถรับประกันสุขภาพของผู้บริจาคได้ อีกทั้งทารกที่เกิดมายังจะมีพันธุกรรมของสามีเธอด้วย
ปัญหาเดียวในตอนนี้ก็คือลูกสาวที่เกิดมาจากการบริจาคสเปิร์มนั้น ขณะนี้อายุ 30 ปีแล้ว และไม่เคยมีใครบอกเธอมาก่อนว่าพ่อแท้ ๆ ก็คือคนที่ตัวเองรู้จักในฐานะพี่ชายต่างแม่มาโดยตลอด
"ตอนนี้ลูกสาวของเราอายุ 30 ปีแล้ว เราจะบอกเธอยังไงดีว่าพ่อของเธอ จริง ๆ แล้วคือปู่ ส่วนพี่ชายก็คือพ่อ พี่สาวก็คือน้า ส่วนหลาน ๆ แท้จริงเป็นน้องชายต่างแม่ สามีของฉันก็รู้สึกกังวลและสับสนที่จะต้องบอกเรื่องนี้กับเธอ มันเป็นเรื่องยากสำหรับสามีฉัน เพราะเขาเองก็อยากให้ลูกสาวรู้ว่า เขาจะยังคงเป็นพ่อของเธอเสมอและตลอดไป" แม่ที่ไม่เผยนาม ระบุ
สำหรับเรื่องนี้ คอลัมนิสต์ที่เป็นนักจิตบำบัด ได้แนะนำให้แม่รายนี้เผชิญหน้ากับความจริง ด้วยการบอกความจริงลูกสาวอย่างเรียบง่ายและชัดเจนที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่จะพยายามขอโทษ โดยอธิบายให้แม่เข้าใจว่า ในระหว่างการพูดคุยอย่างตรงไปตรงมานั้น แม่ต้องจำไว้ว่ามีความจริง 2 อย่างที่ลูกจะซึมซับไปพร้อม ๆ กับเรื่องที่ได้รู้ ประการแรกคือ คนที่เธอเรียกว่าพี่ชาย คือพ่อแท้ ๆ และประการที่สองคือ คนที่เธอเรียกว่าพ่อแม่ หลอกเธอมา 30 ปีแล้ว
อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ที่ไม่บอกความจริงกับลูกให้เร็วกว่านี้ อย่าพยายามแก้ตัว นอกจากนี้แม่ก็ควรแจ้งลูกเลี้ยงให้ทราบด้วยว่ากำลังจะบอกความจริงกับลูกสาว เผื่อกรณีที่เขาอยากจะเล่าเรื่องนี้ให้ครอบครัวของตัวเองทราบล่วงหน้า
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror