ผัวสุดช้ำ ลูกสาวเลือดกรุ๊ปเอ ทั้งที่พ่อแม่กรุ๊ปโอ กลายเป็นชนวนบ้านแตก ผ่านไป 13 ปีเพิ่งรู้ความจริง ทำปวดใจยิ่งกว่าเดิม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 เว็บไซต์ CTWANT รายงานว่า ชายไต้หวันในเมืองเกาสง แต่งงานกับภรรยาที่มีเลือดกรุ๊ปโอเหมือนกัน แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าภรรยากลับคลอดลูกสาวคนเล็กที่มีเลือดกรุ๊ปเอ ทำให้เขาสงสัยว่าจะถูกเธอนอกใจ จนทำให้ทะเลาะกันจนถึงขั้นหย่าร้าง แต่เขาไม่คิดเลยว่าในอีก 7 ปีต่อมาจะต้องเผชิญความช้ำใจหนัก เมื่อผลการตรวจดีเอ็นเอได้ชี้ชัดว่าใครกันแน่ที่เป็นพ่อแท้ ๆ ของเด็ก
กลายเป็นว่าผลการตรวจความเป็นพ่อลูกระหว่างเขากับเด็กคนนี้ ยืนยันแล้วว่าเขาเป็นพ่อที่แท้จริงของลูกสาว ซึ่งขัดแย้งกับกรุ๊ปเลือดของทั้งคู่ สุดท้ายเมื่อทราบสาเหตุของเรื่องทั้งหมด ก็ทำให้พ่อรายนี้ตัดสินใจยื่นฟ้องโรงพยาบาลด้วยความโกรธจัด เรียกค่าเสียหาย 550,000 ดอลลาร์ไต้หวัน หรือราว 615,000 บาท
โดยระหว่างการพิพากษาของศาล ทราบว่า ชายไต้หวันรายนี้แต่งงานกับภรรยาชาวจีนเมื่อปี 2540 ทั้งคู่ต่างมีเลือดกรุ๊ปโอ และให้กำเนิดทายาทด้วยกัน 3 คน อย่างไรก็ตาม ตอนที่ลูกสาวคนเล็กเกิดเมื่อเดือนเมษายน 2551 ทางโรงพยาบาลกลับแจ้งว่าเด็กคนนี้เลือดกรุ๊ปเอ ทำให้ฝ่ายสามีตกใจมาก และสงสัยว่าจะถูกภรรยาสวมเขา มิเช่นนั้นลูกจะมีกรุ๊ปเลือดดังกล่าวได้อย่างไร
ความสงสัยนั้นทำให้คู่สามีภรรยาทะเลาะกันเรื่อยมา กระทั่งตัดสินใจหย่ากันในปี 2557 ยุติชีวิตสมรสนาน 17 ปี จากนั้นภรรยาก็พาลูก ๆ กลับไปเลี้ยงดูที่ประเทศจีน โดยไม่กลับมาที่ไต้หวันอีก จนกระทั่งในปี 2564 ที่ลูกสาวคนเล็กอายุถึง 13 ปี
ตอนนั้นเองที่ชายคนนี้ตัดสินใจจะขอให้มีการยืนยันอีกครั้งว่าลูกสาวคนเล็ก เป็นลูกแท้ ๆ ของตัวเองหรือไม่ จึงกลับไปยังโรงพยาบาลสูตินรีเวชแห่งเดิม ซึ่งก็ได้รับข้อมูลว่าลูกสาวมีเลือดกรุ๊ปเอจริง ๆ เขาจึงไปยื่นเรื่องและเอกสาร เพื่อให้ทางการยืนยันว่าตัวเองไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องใด ๆ กับเด็ก พร้อมขอให้มีการตรวจดีเอ็นเอซ้ำด้วยเพื่อเป็นหลักฐานที่แน่ชัด
แต่กลายเป็นว่า ผลตรวจดีเอ็นเอได้พิสูจน์แล้วว่า ลูกสาวคนเล็กคือลูกสาวแท้ ๆ ของเขา และกรุ๊ปเลือดของลูกสาวก็คือกรุ๊ปโอ ไม่ใช่กรุ๊ปเอ ตามที่เขารับรู้มาตลอดหลายปี
เรื่องนี้ทำให้ชายคนดังกล่าวโกรธจัด เขากล่าวหาโรงพยาบาลด้วยข้อหาประมาท รวมถึงเป็นกังวลว่าลูกสาวอาจได้รับการถ่ายเลือดผิดกรุ๊ป หากประสบอุบัติเหตุครั้งใหญ่ ดังนั้นเขาจึงยืนกรานจะยื่นฟ้องโรงพยาบาลเพื่อเรียกค่าชดเชย ทั้งในส่วนค่าธรรมเนียมกฎหมาย ค่าธรรมเนียมการตรวจยืนยันความเป็นพ่อแม่ ความเสียหายอื่น ๆ รวมเป็นเงินกว่า 550,000 ดอลลาร์ไต้หวัน
อย่างไรก็ตาม ศาลเชื่อว่าชายคนดังกล่าวหย่าร้างในปี 2557 แต่กลับไม่ยื่นฟ้องคดีเกี่ยวกับความเป็นพ่อแม่จนถึงปี 2564 ซึ่งเมื่อพิจารณาจากความจริงที่เขาไม่ได้เติมเต็มความรับผิดชอบในฐานะพ่อระหว่างช่วงเวลานั้น ชายคนนี้จึงแพ้คดีไปในที่สุด
ทั้งนี้ แม้จะมีการขออุทธรณ์ แต่ศาลพบว่าทางโรงพยาบาลได้รับแจ้งข้อมูลกรุ๊ปเลือดที่ถูกต้องทันที หลังรู้ว่ามีการถ่ายเลือดผิดกรุ๊ปให้เด็กหญิง แต่เนื่องจากการถ่ายเลือดผิดนั้นไม่ได้ทำให้เกิดความเสี่ยงใด ๆ ศาลจึงให้ผู้เป็นพ่อเป็นฝ่ายแพ้คดี และปิดคดีไป
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก CTWANT
