ผัวบังเอิญเจอภาพบาดตา เมียรักยืนกอดชายชู้ข้างทาง วิธีตอบโต้สุดอึ้ง ลงไปคุกเข่า คนวิเคราะห์ความหมาย แบบนี้เรียกว่าใจเด็ด
![นอกใจ]( "นอกใจ")
ภาพจาก Weibo
เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 เว็บไซต์ Sohu เผยเรื่องราวที่ถูกแชร์เป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์บนโซเชียลมีเดียของจีน เป็นเหตุการณ์ที่น่าตกตะลึง เมื่อสามีบังเอิญจับได้ว่าภรรยาที่รักกำลังนอกใจ เห็นตำตาว่าเธอกำลังยืนกอดกับผู้ชายชู้ที่ริมถนน แต่ปฏิกิริยาที่เขาตอบโต้นั้นกลับยิ่งสร้างความประหลาดใจยิ่งกว่าเดิม เพราะเขาไม่ได้เข้าไปอาละวาดหรือทำร้ายร่างกายระบายแค้นแบบทั่วไป แต่สิ่งที่เขาคือ คุกเข่าลงไปโค้งคำนับ
ตามรายงานเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีชายรายหนึ่งเกิดเป็นห่วงภรรยา เห็นว่าดึกแล้วแต่ยังไม่ถึงบ้าน เขาจึงขับรถออกไปตามหาดู แต่กลับพบกับภาพที่น่าตกใจอย่างไม่คาดคิด เมื่อมีหญิงสวมชุดขาวรายหนึ่ง ซึ่งมีรูปร่างและท่าทางคล้ายกับภรรยาของเขามาก กำลังกอดกับผู้ชายอีกคนอยู่ริมถนน เขาจึงรวบรวมความกล้าเข้าไปดูใกล้ ๆ แล้วความจริงก็ปรากฏว่า เธอคนนั้นคือภรรยาของเขาจริง ๆ
![นอกใจ]( "นอกใจ")
ภาพจาก Weibo
เมื่อเผชิญกับความน่าอับอายสุดอัปยศอดสูตรงหน้าเต็ม ๆ สามีก็เกิดความรู้สึกโกรธแค้นอย่างท่วมท้นอย่างไรก็ดี เขาเก็บกลั้นความโกรธนั้นเอาไว้ในใจ และพยายามควบคุมสติอารมณ์ ไม่แสดงออกมาโดยใช้ความรุนแรงหรืออะไรทำนองนั้น แต่ตรงกันข้าม เขากลับคุกเข่าลงแล้วโค้งคำนับให้กับคู่ชายหญิงที่กำลังเล่นชู้ ทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่หลายครั้ง ก่อนที่จะขับรถออกไป ปล่อยทั้งสองคนทั้งตกใจและงุนงงอยู่ตรงนั้น
ภายหลังจากภาพถ่ายเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปบนสังคมออนไลน์ ผู้คนจำนวนมากก็พากันเข้าไปแสดงความคิดเห็น โดยหลายคนรู้สึกแปลกประหลาดใจไม่น้อยกับปฏิกิริยาของทางสามีรายนี้ และไม่เข้าใจว่าเขาทำเช่นนั้นเพื่ออะไร เป็นเพียงแค่การเสียดสีประชดประชันหรือมีเหตุผลอื่นใด
![นอกใจ]( "นอกใจ")
ภาพจาก Weibo
ในขณะเดียวกัน ก็มีชาวเน็ตบางรายพยายามเข้าไปวิเคราะห์ความหมายของการกระทำดังกล่าว โดยบอกว่า "การคุกเข่าให้นั้น หมายความว่า ทั้งคู่จะไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกต่อไป และการโค้งคำนับ หมายถึงว่า หลังจากนั้น พวกเขาจะกลายเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน"
อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้เจตนาที่แน่ชัดของสามีรายดังกล่าวนี้ได้ แต่ที่ชัดเจนคือ เขาไม่ได้เลือกวิธีการใช้ความรุนแรง แม้ว่าเขาจะเสียใจมากแค่ไหนก็ตาม แต่เขาก็ไม่ทำให้คนอื่นบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็นภรรยาของเขา หรือแม้กระทั่งชายชู้ นับว่ามีสติและน่าชื่นชม หลายคนจึงเอ่ยปากชมเขาว่า "ใจเด็ดและเป็นลูกผู้ชายจริง ๆ"
ขอบคุณข้อมูลจาก Sohu
ภาพจาก Weibo
เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 เว็บไซต์ Sohu เผยเรื่องราวที่ถูกแชร์เป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์บนโซเชียลมีเดียของจีน เป็นเหตุการณ์ที่น่าตกตะลึง เมื่อสามีบังเอิญจับได้ว่าภรรยาที่รักกำลังนอกใจ เห็นตำตาว่าเธอกำลังยืนกอดกับผู้ชายชู้ที่ริมถนน แต่ปฏิกิริยาที่เขาตอบโต้นั้นกลับยิ่งสร้างความประหลาดใจยิ่งกว่าเดิม เพราะเขาไม่ได้เข้าไปอาละวาดหรือทำร้ายร่างกายระบายแค้นแบบทั่วไป แต่สิ่งที่เขาคือ คุกเข่าลงไปโค้งคำนับ
ตามรายงานเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีชายรายหนึ่งเกิดเป็นห่วงภรรยา เห็นว่าดึกแล้วแต่ยังไม่ถึงบ้าน เขาจึงขับรถออกไปตามหาดู แต่กลับพบกับภาพที่น่าตกใจอย่างไม่คาดคิด เมื่อมีหญิงสวมชุดขาวรายหนึ่ง ซึ่งมีรูปร่างและท่าทางคล้ายกับภรรยาของเขามาก กำลังกอดกับผู้ชายอีกคนอยู่ริมถนน เขาจึงรวบรวมความกล้าเข้าไปดูใกล้ ๆ แล้วความจริงก็ปรากฏว่า เธอคนนั้นคือภรรยาของเขาจริง ๆ
ภาพจาก Weibo
เมื่อเผชิญกับความน่าอับอายสุดอัปยศอดสูตรงหน้าเต็ม ๆ สามีก็เกิดความรู้สึกโกรธแค้นอย่างท่วมท้นอย่างไรก็ดี เขาเก็บกลั้นความโกรธนั้นเอาไว้ในใจ และพยายามควบคุมสติอารมณ์ ไม่แสดงออกมาโดยใช้ความรุนแรงหรืออะไรทำนองนั้น แต่ตรงกันข้าม เขากลับคุกเข่าลงแล้วโค้งคำนับให้กับคู่ชายหญิงที่กำลังเล่นชู้ ทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่หลายครั้ง ก่อนที่จะขับรถออกไป ปล่อยทั้งสองคนทั้งตกใจและงุนงงอยู่ตรงนั้น
ภายหลังจากภาพถ่ายเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปบนสังคมออนไลน์ ผู้คนจำนวนมากก็พากันเข้าไปแสดงความคิดเห็น โดยหลายคนรู้สึกแปลกประหลาดใจไม่น้อยกับปฏิกิริยาของทางสามีรายนี้ และไม่เข้าใจว่าเขาทำเช่นนั้นเพื่ออะไร เป็นเพียงแค่การเสียดสีประชดประชันหรือมีเหตุผลอื่นใด
ภาพจาก Weibo
ในขณะเดียวกัน ก็มีชาวเน็ตบางรายพยายามเข้าไปวิเคราะห์ความหมายของการกระทำดังกล่าว โดยบอกว่า "การคุกเข่าให้นั้น หมายความว่า ทั้งคู่จะไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกต่อไป และการโค้งคำนับ หมายถึงว่า หลังจากนั้น พวกเขาจะกลายเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน"
อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้เจตนาที่แน่ชัดของสามีรายดังกล่าวนี้ได้ แต่ที่ชัดเจนคือ เขาไม่ได้เลือกวิธีการใช้ความรุนแรง แม้ว่าเขาจะเสียใจมากแค่ไหนก็ตาม แต่เขาก็ไม่ทำให้คนอื่นบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็นภรรยาของเขา หรือแม้กระทั่งชายชู้ นับว่ามีสติและน่าชื่นชม หลายคนจึงเอ่ยปากชมเขาว่า "ใจเด็ดและเป็นลูกผู้ชายจริง ๆ"
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Sohu
