ลูกค้ามาเช่าอยู่ รร. ครึ่งปี ไม่ให้ใครเข้าไปทำความสะอาด ที่แท้ซุกขุมทรัพย์เพียบ ของกลางเน้น ๆ รู้ชัดตัวตนของแขกสุดแปลก เพราะแบบนี้เลยไม่ให้ใครเข้าห้อง
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 เว็บไซต์ Docnhanh รายงานเรื่องราวแปลก ๆ ที่เจ้าของโรงแรมรายหนึ่งในมณฑลเจียงซู ประเทศจีน พบเจอมาเมื่อมีแขกรายหนึ่งเข้าพัก พร้อมกับคำขอพิเศษ โดยชายคนนี้เข้ามาขอเช่าห้องระยะยาวที่โรงแรม เป็นเวลานานร่วมครึ่งปี แต่สิ่งหนึ่งที่ชายคนนี้มักจะย้ำกับเจ้าของโรงแรมเสมอก็คือ "ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปในห้องพักทั้งนั้น แม้แต่พนักงานทำความสะอาด"
"เขาบอกว่าไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดห้องให้ เพราะเขาเป็นคนสะอาดอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั่นเพราะเป็นการเช่าห้องระยะยาว เขาจึงคิดว่าห้องนี้เป็นเหมือนบ้าน ไม่ต้องการให้มีคนแปลกหน้าเข้าไปยุ่งกับเฟอร์นิเจอร์ในห้อง" เจ้าของโรงแรม กล่าวถึงสิ่งที่แขกรายนี้เคยบอกไว้
แต่ไม่นานมานี้ ความจริงก็ได้ปรากฏถึงสาเหตุที่แท้จริงของการสั่งห้ามพนักงานเข้าไปทำความสะอาดห้องดังกล่าว เมื่อเจ้าของโรงแรมที่สังเกตเห็นความผิดปกติต่าง ๆ ตัดสินใจขอให้ตำรวจสายตรวจเข้ามาตรวจสอบห้องดังกล่าว
เจ้าของโรงแรมเผยว่า ห้องนี้ถูกเช่าไว้โดยชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่มานานกว่าครึ่งปี ชายคนนี้ใช้ชีวิตค่อนข้างผิดปกติมาก เขามักจะหอบหิ้วสิ่งของเข้าไปในห้อง ที่แปลกยิ่งกว่านั้นคือเขาไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปในห้อง แม้แต่ตนที่เป็นเจ้าของโรงแรม หรือแม้แต่พนักงานทำความสะอาด
แขกรายนี้มักจะนอนหลับตอนกลางคืน และไม่ชอบสื่อสารกับใครนัก สิ่งเดียวที่มักจะย้ำเตือนกับเจ้าของโรงแรมบ่อย ๆ ก็คือ "ฉันไม่ต้องการทำความสะอาด เพราะงั้นอย่าให้ใครเข้ามาในห้อง"
ที่ผ่านมาเจ้าของโรงแรมก็คิดว่าคงเป็นบุคลิกส่วนตัวของเขา และที่มักจะหิ้วของเข้าห้องก็น่าจะเป็นเพราะชอบซื้อของ จึงไม่ได้สงสัยอะไร จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อมีตำรวจสายตรวจมายังโรงแรม เจ้าของโรงแรมจึงขอให้ตำรวจลองไปเช็กห้องดู เพราะคิดว่าหากเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ แขกก็ไม่น่าจะกล่าวโทษทางโรงแรมได้
ห้องที่ถูกเช่าไว้เป็นห้องขนาดเล็กเพียงไม่กี่สิบตารางเมตร แต่ใครจะคิดว่าเมื่อตำรวจเข้าไปตรวจค้น จะได้พบกับขุมทรัพย์จำนวนมาก เป็นทรัพย์สินล้ำค่ากว่า 20 รายการที่น่าจะมีมูลค่ารวมกันกว่า 100,000 หยวน (ราว 500,000 บาท) แต่ที่สำคัญคือทรัพย์สินเหล่านี้ล้วนเป็นทรัพย์สินที่ถูกคนมากมายแจ้งว่าถูกขโมยไป ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าตัวจริงของแขกที่มาเช่าห้องนี้ น่าจะเป็นหัวขโมย
ต้องขอบคุณเจ้าของโรงแรม ตำรวจจึงมีหลักฐานพอที่จะจับกุมหัวขโมยรายนี้ ซึ่งที่ผ่านมาชายคนนี้มีความระมัดระวังตัวสูงมาก มันจะหลบซ่อนอย่างรอบคอบ หลังขโมยของไปก็จะซ่อนของไว้ และหลบเลี่ยงการจับกุมของตำรวจไปอย่างง่ายดาย แต่เพราะข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากเจ้าของโรงแรม ทำให้คนร้ายถูกจับกุมหลังจากนั้นไม่นาน
ระหว่างการให้การ ตำรวจทราบว่าผู้ต้องหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นขโมยมานานแล้ว เขาออกจากโรงเรียนตั้งแต่อายุยังน้อย ใช้ชีวิตเข้า-ออกคุกมา 4 รอบแล้ว โดยมี 3 ครั้งเจอข้อหาลักขโมย มีโทษจำคุกนานสุดอยู่ที่ 15 ปี
ขณะนี้คนร้ายอายุมากกว่า 40 ปีแล้ว และเคยใช้เวลาอยู่ในคุกมากกว่า 20 ปี ซึ่งเมื่อครึ่งปีก่อนเขาเพิ่งจะถูกปล่อยตัวจากคุก แต่จากนั้นไม่นานก็หวนกลับไปเป็นขโมยอีก โดยเล็งเป้าหมายเป็นอพาร์ตเมนต์หรูต่าง ๆ ก่อนจะอ้างตัวเป็นนายหน้าค้าของโบราณเข้าไปยังบ้านหลังต่าง ๆ ก่อนจะลงมือ แล้วนำของที่ขโมยได้มาซ่อนไว้ที่โรงแรมนี้ จากนั้นในบางครั้งก็จะนำของบางส่วนออกไปขาย เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายและสร้างความบันเทิงในชีวิต
ขอบคุณข้อมูลจาก Docnhanh
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 เว็บไซต์ Docnhanh รายงานเรื่องราวแปลก ๆ ที่เจ้าของโรงแรมรายหนึ่งในมณฑลเจียงซู ประเทศจีน พบเจอมาเมื่อมีแขกรายหนึ่งเข้าพัก พร้อมกับคำขอพิเศษ โดยชายคนนี้เข้ามาขอเช่าห้องระยะยาวที่โรงแรม เป็นเวลานานร่วมครึ่งปี แต่สิ่งหนึ่งที่ชายคนนี้มักจะย้ำกับเจ้าของโรงแรมเสมอก็คือ "ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปในห้องพักทั้งนั้น แม้แต่พนักงานทำความสะอาด"
"เขาบอกว่าไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดห้องให้ เพราะเขาเป็นคนสะอาดอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั่นเพราะเป็นการเช่าห้องระยะยาว เขาจึงคิดว่าห้องนี้เป็นเหมือนบ้าน ไม่ต้องการให้มีคนแปลกหน้าเข้าไปยุ่งกับเฟอร์นิเจอร์ในห้อง" เจ้าของโรงแรม กล่าวถึงสิ่งที่แขกรายนี้เคยบอกไว้
แต่ไม่นานมานี้ ความจริงก็ได้ปรากฏถึงสาเหตุที่แท้จริงของการสั่งห้ามพนักงานเข้าไปทำความสะอาดห้องดังกล่าว เมื่อเจ้าของโรงแรมที่สังเกตเห็นความผิดปกติต่าง ๆ ตัดสินใจขอให้ตำรวจสายตรวจเข้ามาตรวจสอบห้องดังกล่าว
เจ้าของโรงแรมเผยว่า ห้องนี้ถูกเช่าไว้โดยชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่มานานกว่าครึ่งปี ชายคนนี้ใช้ชีวิตค่อนข้างผิดปกติมาก เขามักจะหอบหิ้วสิ่งของเข้าไปในห้อง ที่แปลกยิ่งกว่านั้นคือเขาไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปในห้อง แม้แต่ตนที่เป็นเจ้าของโรงแรม หรือแม้แต่พนักงานทำความสะอาด
แขกรายนี้มักจะนอนหลับตอนกลางคืน และไม่ชอบสื่อสารกับใครนัก สิ่งเดียวที่มักจะย้ำเตือนกับเจ้าของโรงแรมบ่อย ๆ ก็คือ "ฉันไม่ต้องการทำความสะอาด เพราะงั้นอย่าให้ใครเข้ามาในห้อง"
ที่ผ่านมาเจ้าของโรงแรมก็คิดว่าคงเป็นบุคลิกส่วนตัวของเขา และที่มักจะหิ้วของเข้าห้องก็น่าจะเป็นเพราะชอบซื้อของ จึงไม่ได้สงสัยอะไร จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อมีตำรวจสายตรวจมายังโรงแรม เจ้าของโรงแรมจึงขอให้ตำรวจลองไปเช็กห้องดู เพราะคิดว่าหากเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ แขกก็ไม่น่าจะกล่าวโทษทางโรงแรมได้
ห้องที่ถูกเช่าไว้เป็นห้องขนาดเล็กเพียงไม่กี่สิบตารางเมตร แต่ใครจะคิดว่าเมื่อตำรวจเข้าไปตรวจค้น จะได้พบกับขุมทรัพย์จำนวนมาก เป็นทรัพย์สินล้ำค่ากว่า 20 รายการที่น่าจะมีมูลค่ารวมกันกว่า 100,000 หยวน (ราว 500,000 บาท) แต่ที่สำคัญคือทรัพย์สินเหล่านี้ล้วนเป็นทรัพย์สินที่ถูกคนมากมายแจ้งว่าถูกขโมยไป ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าตัวจริงของแขกที่มาเช่าห้องนี้ น่าจะเป็นหัวขโมย
ต้องขอบคุณเจ้าของโรงแรม ตำรวจจึงมีหลักฐานพอที่จะจับกุมหัวขโมยรายนี้ ซึ่งที่ผ่านมาชายคนนี้มีความระมัดระวังตัวสูงมาก มันจะหลบซ่อนอย่างรอบคอบ หลังขโมยของไปก็จะซ่อนของไว้ และหลบเลี่ยงการจับกุมของตำรวจไปอย่างง่ายดาย แต่เพราะข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากเจ้าของโรงแรม ทำให้คนร้ายถูกจับกุมหลังจากนั้นไม่นาน
ระหว่างการให้การ ตำรวจทราบว่าผู้ต้องหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นขโมยมานานแล้ว เขาออกจากโรงเรียนตั้งแต่อายุยังน้อย ใช้ชีวิตเข้า-ออกคุกมา 4 รอบแล้ว โดยมี 3 ครั้งเจอข้อหาลักขโมย มีโทษจำคุกนานสุดอยู่ที่ 15 ปี
ขณะนี้คนร้ายอายุมากกว่า 40 ปีแล้ว และเคยใช้เวลาอยู่ในคุกมากกว่า 20 ปี ซึ่งเมื่อครึ่งปีก่อนเขาเพิ่งจะถูกปล่อยตัวจากคุก แต่จากนั้นไม่นานก็หวนกลับไปเป็นขโมยอีก โดยเล็งเป้าหมายเป็นอพาร์ตเมนต์หรูต่าง ๆ ก่อนจะอ้างตัวเป็นนายหน้าค้าของโบราณเข้าไปยังบ้านหลังต่าง ๆ ก่อนจะลงมือ แล้วนำของที่ขโมยได้มาซ่อนไว้ที่โรงแรมนี้ จากนั้นในบางครั้งก็จะนำของบางส่วนออกไปขาย เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายและสร้างความบันเทิงในชีวิต
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Docnhanh
