โรคระบาดระลอกใหม่ในจีน พบกว่า 3,500 คน เข้าแอดมิตที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในปักกิ่ง ส่วนใหญ่เป็นเด็ก สื่อคาดเป็นการติดเชื้อไมโครพลาสมา คนป่วยฉุกเฉินรอคิวกว่า 24 ชม.
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 เว็บไซต์ Radio Free Asia มีรายงานสถานการณ์โรคระบาดในประเทศจีน โดยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเปิดเผยว่า ขณะนี้โรงพยาบาลทางตอนเหนือของจีนเต็มไปด้วยผู้ป่วยเด็กหลายพันคน ที่เข้ารับการรักษาโรคระบบทางเดินหายใจจนล้นจุดพักคอย นับเป็นสถานการณการระบาดหนักที่กลับมาอีกครั้งในรอบ 3 ปี นับจากจีนใช้มาตรการควบคุมโควิดเป็นศูนย์ทั่วประเทศ
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคปักกิ่ง ระบุว่า ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน มีผู้ป่วยติดเชื้อระบบทางเดินหายใจกว่า 3,500 คน เข้าแอดมิตที่โรงพยาบาลเด็กปักกิ่ง ขณะเดียวกันบนโซเชียลมีเดียของจีนยังมีภาพจากโรงพยาบาลในเมืองเทียนจิน ทางตอนเหนือของจีน รวมถึงในกรุงปักกิ่ง ที่เต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมากกำลังรอพบแพทย์
รายงานทางโซเชียลมีเดียที่ไม่ได้รับการยืนยัน ระบุว่ามีผู้ป่วยหลายเคสที่พบรอยโรคแบบกระจกฝ้าในผลสแกนปอด ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงการเจ็บป่วยของระบบทางเดินหายใจรุนแรง
ทั้งนี้ พบว่าผู้ป่วยส่วนมากในการระบาดครั้งนี้เป็นเด็ก มีพ่อแม่จำนวนมากกระหน่ำโทร. มายังโรงพยาบาล แต่พวกเขายังต้องรออย่างน้อย 1 วันกว่าจะได้รับการตรวจ แม้จะเป็นเคสฉุกเฉินก็ตาม โดยหนึ่งในพนักงานรับโทรศัพท์ที่แผนกกุมารเวชศาสตร์ของโรงพยาบาล Beijing Friendship Hospital กล่าวว่า ปัจจุบันมีระยะเวลาเฝ้ารอถึง 24 ชั่วโมง สำหรับเคสฉุกเฉิน
"พวกเขายังต้องรับมือกับเคสทางโทรศัพท์ที่เราได้รับเมื่อวานนี้ พวกเขายังไม่ได้เริ่มตรวจสายที่เราได้รับวันนี้เลย มีอย่างน้อย 1,000 คน ที่รอคิวอยู่ก่อนคุณ" พนักงานกล่าว และเสริมว่า "สายที่โทร. เข้ามาในวันนี้ จะยังไม่ได้รับการตรวจจนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้ เพราะเราได้รับสายมากกว่า 1,000 สายต่อวัน"
รายงานเผยว่า แผนกกุมารเวชศาสตร์ของโรงพยาบาล Beijing Friendship Hospital มีแพทย์เพียง 3 คน สำหรับคลินิกผู้ป่วยนอก และอีก 2 คนในห้องฉุกเฉิน ดังนั้น หากผู้ป่วยเพิ่งลงทะเบียนเพื่อรอรับการรักษา จะยังไม่ได้พบแพทย์จนกว่าจะถึงช่วงเย็นวันรุ่งขึ้น
ขณะที่โรงพยาบาลเด็กแห่งอื่นก็กำลังเผชิญสถานการณ์คล้ายกัน โดยที่โรงพยาบาล Beijing New Century Children's Hospital ได้ปิดรับนัดหมายผู้ป่วยในวันเดียวกันแล้ว หรือต่อให้มีคนมาเข้าคิวเพียงเพื่อจะทำนัด ก็ต้องรอไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง
ภาพจาก Weibo
ในวันจันทร์ที่ผ่านมา (20 พฤศจิกายน) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีน ได้เตือนว่าขณะนี้จีนกำลังเผชิญกับจุดสูงสุดของโรคระบบหายใจตามฤดูกาล โดยโฆษกคณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติ ได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังโรคปอดบวมจากเชื้อไมโครพลาสมา โควิด 19 รวมถึงไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
ขณะที่ หวังต้าเหยียน หัวหน้าศูนย์ไข้หวัดใหญ่แห่งชาติ เผยข้อมูลจากการเฝ้าระวังโรค พบว่ามีการป่วยไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นทั้งในภูมิภาคตอนเหนือและตอนใต้ โดยมีสายพันธุ์หลักคือ H3N2
ข้อมูลจากวารสาร European Society of Clinical Microbiology and Infectious Diseases ที่เขียนโดย แพทริก เมเยอร์ ซูเตอร์ และ ไมเคิล บีตอน พบว่าเชื้อไมโครพลาสมา เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยของการติดเชื้อทางเดินหายใจ ก่อนจะมีการระบาดของโควิด 19 แต่มาตรการต้านโควิด 19 ได้ลดการแพร่เชื้อไมโครพลาสมาไปอย่างมากเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเตือนว่าหากการติดเชื้อไมโครพลาสมากลับมาระบาดอีกครั้ง อาจส่งผลกระทบต่อประชากรโรคที่ไม่ได้สัมผัสกับเชื้อนี้มานาน 3 ปี และส่งผลให้เกิดโรคร้ายแรงหายากเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่วารสารทางการแพทย์บางฉบับ ยังมีรายงานการติดเชื้อร่วมกันระหว่างโควิด 19 และไมโครพลาสมา รวมถึงมีฉบับอื่น ๆ ที่ชี้ให้เห็นถึงการเชื่อมโยงของภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลงจากการติดโรคโควิด 19 และการติดเชื้อซ้ำ กับโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ ในเด็กที่กำลังเพิ่มขึ้นในระยะนี้
โดยมีคำเตือนประชาชนจีนให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ และถ่ายเทอากาศในที่สาธารณะซึ่งมีคนพลุกพล่าน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Radio Free Asia