บทสรุปคดี พลทหาร วิเชียร เผือกสม ถูกซ้อมตายในค่ายทหาร ญาติเผยได้รับความเป็นธรรมแล้ว ล่าสุดศาลสั่งจำคุก ร้อยโทลูกนายพล และพวก หลังผ่าน 12 ปี
ภาพจาก 3PlusNews
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 ThaiPBS รายงานว่า ศาลมณฑลทหารบกที่ 46 จ.ปัตตานี นัดอ่านคำพิพากษาในคดี ร.ท. ภูริ เพิกโสภณ พร้อมพวกรวม 9 คน รุมซ้อมทรมานพลทหาร วิเชียร จนเสียชีวิตเมื่อปี 2554
โดยศาลพิพากษาจำคุก ร.ท. ภูริ 3 ปี แต่คำให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษให้เหลือ 1 ใน 3 คือ จำคุก 2 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 และ 3 ศาลสั่งจำคุก 6 ปี โดยจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาและอยู่ในที่เกิดเหตุให้การเป็นประโยชน์ ศาลลดโทษให้เหลือจำคุก 4 ปี จำเลยที่ 3 ยอมรับสารภาพ ลดโทษให้เหลือจำคุก 3 ปี ส่วนจำเลยที่เหลือ อีก 5 คนศาลสั่งจำคุก 3 ปี แต่ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 2 ปี ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คนเสียชีวิตแล้ว
ภาพจาก 3PlusNews
ขณะที่ รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ช่อง 3 รายงานว่า น.ส.นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ หรือ คุณเมย์ หลานสาวของ พลทหาร วิเชียร เผือกสม ที่ถูกซ้อมทรมานจนเสียชีวิต ภายในค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อปี 2554 โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า สิ้นสุดการต่อสู้กับอำนาจ ยศ และเงิน เอาคนผิดทุกนายให้ออกจากกองทัพบกและได้รับโทษจำคุก
ตลอดระยะเวลา 12 ปี 5 เดือนกว่า ที่ลุกขึ้นสู้ไม่ถอยเพื่อตามหาความยุติธรรมในคดีพลทหาร วิเชียร เผือกสม ตั้งแต่เพิ่งขึ้นปี 2 จนถึงตอนนี้ เมย์ผ่านเรื่องราวมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นข่มขู่ครอบครัว ถูกขู่ฆ่า คนมีอำนาจช่วยเหลือคนผิด ความช้าล่าของกระบวนการยุติธรรม และการกลายเป็นผู้ต้องหาถูกจับกุมตัว
วันนี้เมย์ทำสำเร็จแล้วนะคะ เมย์พิสูจน์ให้สังคมเห็นว่าความถูกต้องและความยุติธรรมอยู่เหนืออำนาจและเงิน ถึงเป็นลูกนายพล มีทหารยศใหญ่ที่เลือกพวกพ้องมากกว่าความถูกต้องช่วยเหลือทุกขั้นตอน แต่ถ้าทำผิดก็ได้รับโทษทางกฎหมาย
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 มณฑลทหารบกที่ 46 มีคำพิพากษา จำเลยที่ 1 ร้อยโทลูกนายพล จำคุก 2 ปี (คนที่แจ้งความจนเมย์ถูกจับกุมตัวเป็นผู้ต้องหา และใช้เวลาต่อสู้ 3-4 ปี จนอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง) จำเลยที่ 2 ร้อยตรี จำคุก 4 ปี จำเลยที่ 3 จำคุก 3 ปี จำเลยที่ 4-5, 7-9 จำคุก 2 ปี จำเลยที่ 6 เสียชีวิต และ จำเลยที่ 10 หลบหนีตามหมายจับศาลทหาร
ทั้งนี้ ศาลทหารไม่มีอุทธรณ์และฎีกาสิ้นสุดแค่การตามหาความยุติธรรม แต่ไม่สิ้นสุดหน้าที่ความรับผิดชอบ สิ่งที่ต้องทำต่อไป คือ ตามกองทัพบกเรื่องไล่เบี้ยค่าสินไหมทดแทน 7 ล้านบาทที่ใช้ภาษีประชาชนจ่ายให้กับครอบครัวเมย์ในคดีแพ่ง โดยกองทัพบกต้องตามไล่เบี้ยคืนจากจำเลยทั้ง 10 คนมาคืนให้กับเงินภาษีตามกฎหมายต่อไป
ภาพจาก 3PlusNews
ไทม์ไลน์คดี พลทหารวิเชียร ถูกซ้อมทรมานในค่ายทหาร
พลทหาร วิเชียร ลาสิกขามาเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2554 และสมัครเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/54 เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2554 ต่อมาหลบหนีจากหน่วยฝึก 2 ครั้ง คือเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2554 ครูฝึกได้ตัวมาในวันเดียวกัน และวันที่ 29 พฤษภาคม 2554 ครูฝึกได้ตัวมาในวันที่ 1 มิถุนายน 2554
จากนั้นเริ่มเข้าสู่การลงโทษ ช่วงก่อนเที่ยง ครูฝึกยศร้อยตรีที่ลงโทษด้วยการตบหน้า 2 ครั้ง ให้กินพริกสด 3-4 เม็ด กับข้าว 1 จาน พอเวลา 12.40 น. สั่งให้พลทหารผู้ช่วยครูฝึก 2 นาย นำพลทหาร วิเชียรไปหน้าห้องน้ำเพื่อปรับปรุงวินัย ให้ออกกำลังกายบริหาร กระโดดกบ แองการู ท่ายุบสะโพก ให้แก้ผ้าเหลือกางเกงในตัวเดียว
จากนั้นพาไปพบ ร้อยโท ซึ่งสั่งให้ลากไปปรับปรุงวินัยต่อ โดยมีพลทหารจับขาพลทหาร วิเชียร ลากไปกับพื้นปูนจนร้องด้วยความเจ็บปวด และเมื่อไปปรับปรุงวินัยที่หน้าห้องน้ำ มีการรุมเตะ กระทืบที่ขาและลำตัวของพลทหาร วิเชียร ใช้เกลือทาบริเวณแผล ใช้เท้าเหยียบหน้าอก ใช้เวลาปรับปรุงวินัยอยู่ 2 ชั่วโมง จึงนำตัวไปอาบน้ำและพาไปห้องพยาบาล ทายาให้นอนพักบนเตียงผ้าใบ แต่ยังไม่จบเท่านั้น มีทหารอีก 5 นายมารุมเตะด้วยหัวรองเท้าคอมแบต โดยมีร้อยตรีนั่งดูอยู่ที่เตียงพยาบาล ตามไปกระทืบถึงหน่วยพยาบาล
เวลา 17.45 น. สิบเอก เรียกรวมพลทั้งหมดไปรับประทานอาหารเย็น พร้อมให้แบกพลทหาร วิเชียร จากห้องพยาบาล ใช้ผ้าขาวห่อตัวเหลือแต่ใบหน้าพร้อมมัดตราสังให้เหมือนศพ ตั้งขบวนแห่และพูดไว้อาลัยเหมือนแห่ศพ จากนั้น ให้ใส่กางเกงในตัวเดียวนั่งกินข้าวบนก้อนน้ำแข็ง มีครูฝึกเอาน้ำแข็งมาประคบ ให้กินข้าวกับกระเทียม แล้วแบกร่างมาหน้าหน่วยฝึก ใช้น้ำแข็งทับหน้าอก
เมื่อเวลา 18.45 น. พลทหาร วิเชียร ถูกสั่งทำโทษให้หมอบ-ลุก เมื่อทำช้าก็ใช้ไม้ไผ่ตีไปที่ลำตัว หลัง ก้น ขา จนถึงปลายเท้า ใช้เท้าเตะชายโครง หน้าอก กระทืบท้ายทอย จนคางกระแทกพื้นเป็นแผลแตก ใช้เท้าเตะไปที่หน้าจนเลือดออกปาก แม้พลทหาร วิเชียรจะก้มกราบบอกเจ็บและจะไม่ทำอีกแล้ว แต่สิบเอกก็ไม่หยุดกระทำ แถมยังใช้ไม้ตีสลับเตะ จากนั้นถูกร้อยตรีแย่งไม้ไป สิบเอกพูดว่า "ไม่มีไม้ใช้มือใช้เท้าแทนก็ได้" พร้อมท้าให้ไปฟ้อง ผบ.ทบ. ต่อหน้าทหารใหม่ 200 คนที่เข้าแถวอยู่
เวลา 23.00 น. มีการสั่งหยุดทำร้ายพร้อมเรียก พลทหาร วิเชียร ไปคุย จากนั้นสั่งขึ้น โรงนอนเวลา 01.00 น. ของวันที่ 2 มิถุนายน 2554 ซึ่งเพื่อนทหารเกณฑ์ ระบุว่าพบร่างกายบอบช้ำ มีรอยบวมหลายแห่ง ใต้คางมีแผลลึกพลทหาร วิเชียร ร้องขอให้พาไปโรงพยาบาลเพราะเจ็บปวดมาก แต่ไม่มีใครกล้าพาไป
วันที่ 3 มิถุนายน 2554 เมื่ออาการหนักมาก จึงส่งตัวไปโรงพยาบาลเจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ทางโรงพยาบาลระบุว่าอาการของพลทหาร วิเชียร มีอาการหนักเกินขีดความสามารถของแพทย์ที่จะรักษาเยียวยาได้ จึงส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ต่อทันที
วันที่ 4 มิถุนายน 2554 พลทหาร วิเชียร เข้าไอซียู แพทย์ระบุชีพจรต่ำมาก การตอบสนองของร่างกายไม่มี อาการอยู่ในขั้นโคม่า จนกระทั่งวันที่ 5 มิถุนายน เวลา 23.05 น. ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส พลฯ วิเชียร เผือกสม เสียชีวิตในวัย 26 ปี แพทย์ลงความเห็นสาเหตุการตายว่ามาจากไตวายเฉียบพลันจากกล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงจากการถูกรุมซ้อมทำร้ายร่างกาย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์
น.ส.นริศราวัลถ์ ที่ขณะนั้นเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับหลายหน่วยงาน แต่ก็ไม่คืบหน้า ตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา น.ส.นริศราวัลถ์ ต้องเผชิญกับแรงกดดันและคดีความต่าง ๆ โดยเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2559 น.ส.นริศราวัลถ์ ถูกตำรวจจับกุมในคดีที่ ร.อ. ภูริ แจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทและความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากเรื่องที่ร้องขอความเป็นธรรมกรณีพลทหาร วิเชียร
นอกจากนี้ น.ส.นริศราวัลถ์ ถูกคุกคามมาตั้งแต่ ปี 2554 ช่วงจัดงานศพให้น้า หรือพลทหาร วิเชียรก็เจอซองธูปที่ข้างในใส่ซองกระสุนปืน จากนั้นก็เริ่มมีการเสนอเงิน แล้วมีคนในเหตุการณ์นำสำนวนสอบมาให้ 2 ชุด ชุดแรกเป็นของร้อยโท ชุดที่ 2 เป็นของอีก 9 ทหาร สำนวนระบุว่าร้อยโทไม่เกี่ยวทั้งที่สำนวนระบุว่าอยู่ในเหตุการณ์ จึงคาใจว่าทำไมจึงมีกระบวนการปกป้องผู้กระทำผิดบางคน ก่อนจะเดินหน้าต่อสู้จนได้รับความเป็นธรรม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์
ขอบคุณข้อมูลจาก ThaiPBS, 3PlusNews