แม่เตือนอุทาหรณ์ ยุงตัวเดียวทำลูกป่วยต้องเข้าไอซียู พบเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ จากวัย 1 ขวบ ต้องเรียนรู้ใหม่เหมือนเด็ก 2 เดือน
ภาพจาก TikTok @wanida0258
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ผู้ใช้ TikTok @wanida0258 โพสต์เตือนภัยหลังลูกสาววัย 1 ขวบ 3 เดือน ถูกยุงตัวเดียวกัด ซึ่งยุงตัวนี้กัดวัวมาก่อน หลังจากนั้นไม่นาน ลูกสาวมีอาการป่วยถึงขั้นนอนไอซียู 7 วัน และส่งผลให้สมองหยุดทำงาน ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป จากเด็ก 1 ขวบ 3 เดือน กลายเป็นเหมือนเด็ก 2 เดือน ต้องฝึกพัฒนาการใหม่ทั้งเรื่องการพูดและพัฒนาการด้านอื่น ๆ
คุณแม่ของเด็ก ระบุว่า ลูกของตนอยู่กับยาย เหตุเกิดจากยุงไปกัดวัวแล้วยุงมากัดลูก ไข้ขึ้นเรื่อย ๆ ตนพาลูกไปอนามัยใน จ.กาญจนบุรี ลูกไม่สบาย 4 วันและหมอบอกเป็นไข้หวัดใหญ่ รักษาตามอาการ ไม่มียารักษา ลูกไม่ดีขึ้นตนจึงขอย้ายโรงพยาบาล หมอบอกจะย้ายทำไมเขารักษาได้
วันต่อมา ทางอนามัยทำเรื่องส่งตัวไปโรงพยาบาลในตัวเมืองให้ เพราะอาการไม่ดีขึ้น ไปถึงลูกเรียกชื่อเราคำเดียว หลังจากนั้นเข้าห้องไอซียูไปเลย 7 วัน และสมองหยุดทำงาน จากที่เดินได้พูดได้ ลูกกลับกลายมาเป็นเด็ก 2 เดือน ต้องเริ่มต้นใหม่ทุกอย่างฝึกใหม่หมด อายุ 1 ขวบ 3 เดือน ต้องมาฝึกใหม่ทั้งหมด
ตนขอย้ายลูกไปโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ เท่าไรก็จะจ่าย หมอบอกคุณแม่รับความเสี่ยงได้เหรอถ้าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทางเมื่อถามว่าโรคนี้เกิดจากอะไร ทางคุณหมอก็บอกว่าไม่แน่ใจ และให้คำตอบไม่ได้
ภาพจาก TikTok @wanida0258
จากนั้น ตนได้พาลูกออกจากโรงพยาบาลพาขึ้นกรุงเทพฯ เข้าโรงพยาบาลศิริราช เพราะลูกร้องไม่หยุด หมอศิริราชตรวจให้ใหม่หมด และพบว่าลูกเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ฉีดยาฆ่าเชื้อรักษาใหม่หมด ใส่เครื่องช่วยหายใจ กินนมทางสายยาง ผ่านมาได้ตอนนี้ลูกกำลังจะลุกขึ้นเดินแล้ว พร้อมกับที่หมอเตือนว่า อย่าปล่อยให้ยุงกัดลูกเด็ดขาด
คุณแม่ท่านนี้ อธิบายเพิ่มเติมถึงอาการของลูกสาว ด้วยว่า น้องเกร็งและชักและเข้าห้องไอซียูไปเลย วันแรก ๆ ลูกเหมือนคนปกติ ลูกเล่นได้ยิ้มได้ หลังจากนั้นลูกก็ร้องไห้ เรียกไม่มีสติ กลัวแสง สังเกตน้องจะไวต่อแสง หลัง 4 วันผ่านไปตอนอยู่อนามัย น้องไวต่อแสงและกลายเป็นกลัวทุกอย่าง มองไปตรงไหนก็กลัว เรียกแล้วไม่มีสติ
หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ไป ปรากฏว่ามีคนเข้ามาแสดงความเป็นห่วงจำนวนมาก บ้างสอบถามว่า น้องเคยฉีดวัคซีนเยื่อหุ้มสมองอักเสบไหม คุณแม่ท่านนี้ก็ตอบกลับไปว่า "ตอนน้องเป็น อายุยังไม่ถึงที่จะสามารถฉีดวัคซีนตัวนี้ น้องเป็นโรคนี้มาจะ 7-8 เดือนแล้ว"
โดยสาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสอื่น ๆ ต้องดูผลตรวจของแพทย์ ซึ่งโรคนี้มักพบในเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็กหรืออายุน้อยกว่า 2 ปี เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด อย่างไรก็ตาม โรคนี้ยังสามารถพบได้ทุกช่วงอายุทั้งเด็ก ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ซึ่งอาการของโรค หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจรุนแรงถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้
กรณีที่แม่เด็กระบุว่า มาจากลูกถูกกัดโดยยุงซึ่งกัดวัวมาก่อนจึงมีอาการนี้ ตนมองว่า ยุงเป็นพาหะของเชื้อโรคบางตัว แต่อาจไม่เกี่ยวกับวัว แต่สาเหตุสำคัญต้องดูที่เชื้อที่ตรวจพบมากกว่าว่าเชื้อโรคใดเป็นสาเหตุของโรค อย่างเคสนี้ตนไม่มีข้อมูลว่าผลตรวจมาจากเชื้อใด
สำหรับโรคนี้ สามารถทำให้สมองเสียการทำงานได้เพราะการอักเสบของสมองที่รุนแรง โดยทั่วไปแล้วหากได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และผู้ป่วยพ้นวิกฤตก็มีโอกาสฟื้นกลับมาได้ ซึ่งต้องใช้เวลา รวมทั้งตัวเชื้อโรคด้วย แต่อย่างเคสนี้เท่าที่ดูมองว่าน่าจะค่อย ๆ ดีขึ้น
นพ.กุลเสฎฐ ย้ำว่าหากมีอาการไข้สูง เกร็ง ชักกระตุก หรือเพ้อ รวมทั้งอาการไวต่อแสง เป็นอาการที่ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะถ้าวินิจฉัยได้เร็วจะสามารถป้องกันอาการแทรกซ้อนได้เร็วขึ้น ส่วนการป้องกัน ปัจจุบันนี้มีวัคซีนที่สามารถป้องกันเชื้อได้หลายชนิด โชคดีที่ประเทศไทยสามารถให้วัคซีนเกือบครบทุกชนิด แต่ยังไงก็ตามตนขอแนะนำให้ทุกคนไปฉีดวัคซีนที่หมดนัดทุกครั้งเพื่อเป็นการป้องกันอีกทางหนึ่ง
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้