ดร.แทนไท ประเสริฐกุล นักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ออกมาพูดถึงอดีตคนทำงานร่วมกันอย่าง ป๋องแป๋ง แห่งรายการ ใด ๆ ในโลกล้วนฟิสิกส์ กับจุดแตกหักความเป็นเพื่อน แบ่งระดับการทำร้ายจิตใจผู้หญิงถึง 5 เลเวล ด้านเหยื่อได้ออกร่วมแฉ อยู่ดี ๆ ก็โดนตะคอกใส่หน้า เพียงเพราะว่าไม่รับโทรศัพท์
จากกรณีสุดอื้อฉาวในวงการ ที่คุณ ป. ออกมาพูดถึง ป๋องแป๋ง หรือ อ.อาจวรงค์ จันทมาศ นักเขียน นักสื่อสารวิทยาศาสตร์ สุดยอดแฟนพันธุ์แท้นักวิทยาศาสตร์ และคนจัดรายการ ใด ๆ ในโลกล้วนฟิสิกส์ ที่พูดถึงพฤติกรรมการทำจิตใจด้วยคำพูด และพฤติกรรมต่าง ๆ ต่อเหยื่อทั้งผู้หญิง แฟนคลับ รวมไปถึงแฟนสาวของ อ.ป๋องแป๋ง ซึ่งทาง อ.ป๋องแป๋ง ก็ได้ออกมาขอโทษต่อพฤติกรรมการใช้คำพูดที่รุนแรง และขอโทษทุกคนที่ทำให้ไม่สบายใจ รวมไปถึงการที่ THE STANDARD ได้ยกเลิกการทำงานร่วมกันกับป๋องแป๋งอีกแล้ว
อ่านเพิ่มเติม ป๋องแป๋ง โพสต์แล้ว ปมสาวเตือนภัยไอดอลวิทย์ รับพูดไม่ดี ขอโทษ แต่ไม่ได้ล่วงละเมิด
อ่านเพิ่มเติม ป๋องแป๋ง โพสต์แล้ว ปมสาวเตือนภัยไอดอลวิทย์ รับพูดไม่ดี ขอโทษ แต่ไม่ได้ล่วงละเมิด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก แทนไท ประเสริฐกุล
ระดับ 1 : อ.ป๋องแป๋ง จะทักไปหาคนที่อายุน้อย ถูกสเปก อาจจะไปเจอตามงานต่าง ๆ ตั้งแต่สถาบันการศึกษา โรงเรียน ค่ายวิทยาศาสตร์ หรือแฟนคลับ บางทีก็เพื่อนของเพื่อน จะเลือกคนที่ดูน่ารักหรือมีความสามารถบางอย่างเช่น เขียนบทความ วาดรูป ฯลฯ จากนั้นจะมีท่าทางเหมือนจะจีบ บางคนเป็นแฟนคลับผู้ชายของ อ.ป๋องแป๋ง แต่แฟนของคนนี้กลับโดน อ.ป๋องแป๋งจีบ เมื่อผู้ชายไปโวยว่าทำไมทำแบบนี้ เป็นแฟนคลับนะ คนนี้ก็โดนบล็อกไป
หากเหยื่อไม่เล่นด้วยก็จบแค่นี้ แต่มีบางคนที่ไม่เล่นด้วยก็โดน อ.ป๋องแป๋ง ด่าเช็ด จนคนโดนด่าก็อาจจะงงว่าทำอะไรผิดทำไมต้องโดนด่าขนาดนี้ ซึ่งคาดว่าคนที่โดนในระดับนี้นั้นน่าจะมีเยอะมาก ๆ แต่ อ.แทนไท ไม่ฟันธงว่าถึงร้อยคน
ระดับ 2 : หากมีคนที่ตอบแชตและคุยดี ก็ได้ไปต่อ จากแค่คุยกันดึกดื่นอาจจะเริ่มคอลหา และมีลักษณะเหมือนจะจีบ แต่จะหว่านไปทั่ว คุยกับผู้หญิงหลายคนในคราวเดียว แต่ไม่เคยบอกว่าจะจีบ จากนั้นก็จะเริ่มนัดเจอ 2 ต่อ 2 ใครที่ไม่สบายใจอาจจะหยุดตรงนี้และจบไป และได้ความรู้สึกไม่ดีตามมา แต่บางคนก็โดนต่อว่าเสีย ๆ หาย ๆ และโดนบล็อก
ระดับ 3 : หากใครที่ไปเจอ คุยกับ อ.ป๋องแป๋ง ประจำ จะกลายเป็นเด็กในสังกัด อ.ป๋องแป๋ง จะเริ่มชม โทร. มาระบายความรู้สึก เล่นเปียโน เล่านิทาน ให้คำแนะนำชีวิต และลามไปถึงการไหว้วานและมอบหมายงานให้ อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการระบุสถานะใด ๆ ไม่มีการบอกว่าจีบ ขอเป็นแฟน แต่จะกลายเป็นคนสนิทที่คอยตามและทำงานให้เข้าเรื่อย ๆ ซึ่งคนคนนั้นอาจจะคิดว่าตัวเองจะเป็นคนสำคัญ โดยไม่รู้ว่ามีคนแบบนี้อีกหลายคน
ระดับ 4 : หากคบกันไปดี ๆ สักวันหนึ่งอาจจะกลายเป็นสนามรองรับการระเบิดอารมณ์ของ อ.ป๋องแป๋ง เพียงแค่ทำผิดเล็ก ๆ เช่น โทร. ไปไม่รับสาย ทำงานออกมาไม่ดี จะมีการดุด่าระบายอารมณ์จนคนคนนั้นรู้สึกอึดอัด หวาดผวา อยากตาย ไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิด ซึ่งบางคนที่ อ.ป๋องแป๋ง เข้าหานั้น อาจจะไม่ใช่การจีบ แต่คือการสั่งงาน และใช้จังหวะโขกสับ กดขี่ข่มเหง ต้องมาหา ต้องรับสายเดี๋ยวนี้ ทำงานห่วย อาจถึงขั้นด่าไอ้ดี ด่าว่าโง่ จนเหยื่อมีบาดแผลในใจกลายเป็น PTSD และ Panic Attack
คนที่เข้ามาระดับนี้ อ.แทนไท ยอมรับว่ามีเยอะมาก บางคนเจอครั้งเดียว 2 ครั้งก็อาจจะตาสว่างและออกมา บางคนต้องใช้เวลานับเดือน นับปี กว่าจะออกมาได้ แต่บางคนออกมาไม่ได้ อ.ป๋องแป๋ง ก็จะมาง้อ ขอโอกาสเหมือนง้อแฟน บอกว่าพี่ผิดไปแล้ว เธอสำคัญกับพี่มากนะ เพราะเธออดทนกับพี่ได้มากที่สุด ใช้คำว่ารักมาสะกด แล้วผู้หญิงก็กลับไปและวนเวียน และก็เกิดวงจรเดิม เกิดการด้อยค่า บางคนที่ออกมาไม่ได้อาจถึงขั้นฆ่าตัวตายก็มี
ระดับ 5 : ระดับนี้ อ.แทนไท ไม่แน่ใจว่ามีเท่าไร แต่ที่แน่ ๆ คือมี 1 คน เหยื่อคนนี้ที่ออกมาแฉ อ.ป๋องแป๋ง พบว่าอยู่กับ อ.ป๋องแป๋ง กว่า 5 ปี โดยไม่มีสถานะใด ๆ ไม่รู้ว่าคบแบบไหน พอเริ่มเคลือบแคลงสงสัยก็จะโดนด่าจนร้องไห้ว่าไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งเรื่องส่วนตัว พอเหยื่อคนนี้จะทำอะไรแบบที่แฟนทำให้กัน เช่น ซื้อดอกไม้ให้ในวันวาเลนไทน์ เหยื่อก็จะโดนด่าปู้ยี่ปู้ยำทำร้ายจิตใจแบบไม่เหลือซาก หาว่ามาล้ำเส้น และจิตใจเหยื่อก็แตกสลายอีกครั้ง เพราะ อ.ป๋องแป๋ง เปิดตัวกับคนอื่น พูดจากดด่าเหยื่อต่อหน้าแฟนและเพื่อนร่วมงานอย่างอำมหิต แต่ยังใช้ให้ทำงานต่อ และมาค้นพบว่า เรื่องส่วนตัวที่เคยปิดบังนั้น คือ อ.ป๋องแป๋ง ทำกับแบบนี้หลายคน ยิ่งมีชื่อเสียงยิ่งมีเหยื่อรายใหม่เข้ามา เมื่อคนเก่าไม่ยอม คนใหม่ที่เพิ่งปลื้มก็จะโดนต่อ โดยไม่มีวี่แววสำนึกผิดใด ๆ
สุดท้าย การที่น้อง ป. ออกมา Call out อ.ป๋องแป๋ง นั้น เนื่องมาจากพบว่ามีนักศึกษาหญิงที่ใกล้ชิด อ.ป๋องแป๋ง ที่เดินตามอย่างใกล้ชิดและชวนให้กังวล ไม่อยากให้คนอื่น ๆ โดน เธอจึงรวบรวมความกล้าออกมาพูด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก แทนไท ประเสริฐกุล
อ.แทนไท เผย เรื่องแบบนี้แค่อยากมาเตือน ใครเจอสถานการณ์แบบเดียวกันต้องรีบออกมา หวั่นมีเหยื่อยังไม่บรรลุนิติภาวะ
อ.แทนไท บอกว่า ข้ออันตรายของเรื่องนี้คือ มีคนที่ประสบภัยในเลเวลที่แตกต่างกันออกไปเยอะมาก บางคนยังไม่บรรลุนิติภาวะ ระดับความรุนแรงก็ต่างกันตั้งแต่เสียใจ หมดคุณค่าในตัวเอง ผวา ขยาด ติดอยู่ในวังวนความเศร้าและความกลัวจนไปถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย และถ้าไม่มีคนออกมาพูด ก็ไม่มีวี่แววที่ อ.ป๋องแป๋ง จะหยุดพฤติกรรมนี้ และได้รับความชื่นชมจากสังคมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
อ.แทนไท ยืนยันว่า โพสต์นี้เพื่อเตือนภัยผู้หญิงที่เสี่ยงจะโดนคุกคาม ไม่ใช่แค่ อ.ป๋องแป๋ง แต่คือใครก็ได้ และจะได้ป้องกันตัวเองได้ และจากนี้ อ.แทนไท จะพูดถึงเหตุที่ อ.แทนไท ตัดสินใจเอา Witcast ตอนเก่า ๆ ที่ทำกับ อ.ป๋องแป๋งออก และรายละเอียดของการแยกทางกัน และเหตุผลว่าทำไมไม่ออกมาพูดเรื่องนี้ให้เร็วกว่านี้
ปาล์ม ชลณัฏฐ์ โกยกุล ออกมาเล่าประสบการณ์
ด้าน ปาล์ม ชลณัฏฐ์ โกยกุล พิธีกรและดีเจชื่อดัง ได้ออกมาเผยถึงหนึ่งในประสบการณ์อันเลวร้ายที่เจอจาก อ.ป๋องแป๋ง คือ ปาล์มไม่รับโทรศัพท์ อ.ป๋องแป๋ง แต่กลับถูกระเบิดอารมณ์ใส่อย่างรุนแรง และสงสัยว่าทำไมคนที่ดูมีหลักการขนาดนั้น จะระเบิดอารมณ์ใส่คนอื่นได้ขนาดนี้ ปาล์มคิดโทษตัวเองหลายปีว่าคงทำผิดไม่รู้ตัว
จนเมื่อปี 2563 ปาล์มได้กลับมาคุยกับ อ.ป๋องแป๋ง อีก เมื่อเริ่มทำรายการ 2 องศา โดยจะให้ อ.ป๋องแป๋ง เป็นแขกรับเชิญ ออกแบบการทดลองต่าง แต่กลายเป็นว่าช่วงนี้ไม่เกิดเพราะติดปัญหาเรื่องการถ่ายทำ สิ่งที่ อ.ป๋องแป๋ง ทำคือเงียบใส่ โทร. ไปไม่รับ ไม่ตอบไลน์ ทั้งที่ไม่มีการคอนเฟิร์มใด ๆ ไม่ใช่การนัดให้ไปถ่ายทำแล้วเทกอง แค่คุยกันคร่าว ๆ ว่าอยากทำแบบนี้ เท่านั้น
สุดท้าย ปาล์มได้ไปคุยกับคุณอาบัน และเข้าใจว่า อ.ป๋องแป๋ง เป็นคนยังไง และ อ.ป๋องแป๋ง เอาปาล์มไปพูดในทางไม่ดี จนปาล์มปลดล็อกปมในใจว่าปาล์มผิดเองหรือเปล่า และพบว่าเหตุการณ์ระเบิดอารมณ์นั้น คนอื่นก็เจอเหมือนกัน สิ่งที่ปาล์มเจอมาอาจจะเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับเหยื่อคนอื่น ๆ ของเขา และต้องชื่นชมน้อง ป. ที่ออกมา Call out เล่าความจริงที่เกิดขึ้น