เผยกลโกงเจ้าหน้าที่สรรพากรบางเสาธง จ.สมุทรปราการ 4 คน โกงยังไงถึงได้ 2 พันล้าน สุดท้ายโป๊ะ ร่ำรวยผิดปกติ ความผิดคือยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่สรรพากรในพื้นที่บางเสาธง จ.สมุทรปราการ 4 คน ร่ำรวยผิดปกติ มีทรัพย์สินร่วมกันกว่า 2 พันล้านบาท จนนำไปสู่การชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. นั้น
ล่าสุด วันที่ 7 ธันวาคม 2566 ข่าว 3 มิติ และ ข่าวช่องวัน รายงานถึงวิธีการทุจริตของเจ้าหน้าที่จนร่ำรวยกว่า 2 พันล้านบาทว่า เจ้าหน้าที่นำเงินภาษีของนิติบุคคลรายใหญ่ร่วม 30 บริษัทที่จะต้องหักค่าภาษีให้ตรงกับรายได้ ซึ่งเมื่อหักเงินแล้วจะมีส่วนต่าง แต่เจ้าหน้ากลับโอนส่วนต่างเข้าบัญชีส่วนตัวหลายครั้ง โดยเหตุการณ์เกิดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 เป็นต้นมา
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
1. เจ้าหน้าที่สรรพากรรู้จักกับผู้ประกอบการ และอาจมีการตกลงกันเรื่องคืนภาษี เพื่อให้จ่ายน้อยกว่าที่ควรจะจ่ายให้รัฐจริง
2. ตัวละครเรื่องนี้จะมีดังนี้ คือ (ก.) สรรพากร อ.บางเสาธง (ข.) ผู้ประกอบการ (ค.) ลูกน้อง 3 คน ที่ทำหน้าที่ถอนเงินออกจากบัญชี และโยกย้ายทรัพย์สินเหล่านั้น
3. ลักษณะการดำเนินการจะคล้ายแชร์ลูกโซ่ คือ นำเงินผู้ประกอบการรายใหม่มาจ่ายคืนผู้ประกอบการรายเดิม
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
4. เมื่อผู้ประกอบการ A จ่ายภาษี เจ้าหน้าที่จะปรับภาษีลง และแก้ไขเช็กผู้ประกอบการ จากนั้นก็เอาเงินเข้าบัญชีตัวเอง
5. เมื่อจ่ายคืนภาษีผู้ประกอบการ A ก็จะนำเงินจากผู้ประกอบการ B มาจ่าย โดยแก้ไขเช็คให้เป็นชื่อของผู้ประกอบการ A แล้วทำวนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการ A ที่ถูกยักยอกเงินออกมาโวยวาย แค่อ้างว่า จะได้เงินคืนล่าช้า 5-6 เดือน
6. ส่วนเงินที่ได้จาก A ก็ทยอยให้ลูกน้องในเครือข่ายไปถอนเงิน นำเงินมาแบ่งกัน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
สำหรับสาเหตุที่ทำให้เรื่องนี้โป๊ะขึ้นมา เป็นผลมาจากกรมสรรพากร
ส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบหลังเกิดคดียักยอกทรัพย์ ผลการตรวจสอบพบว่า
ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ มีเงินมากกว่าสถานะและเงินเดือนที่ได้รับ
หลักพันล้าน อีกทั้ง ป.ป.ช. มีอำนาจในการอายัดทรัพย์ตามกฎหมายไม่เกิน 1 ปี
จึงหยิบคดีส่วนนี้มาพิจารณาก่อน
เบื้องต้น ได้เรียกผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คนมาชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อพิสูจน์ทรัพย์ แต่ไม่มีใครมาชี้แจง จึงสรุปผลการสอบสวนคดีร่ำรวยผิดปกติ เสนอเรื่องคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทั้ง 4 ราย โดยยังไม่มีการออกหมายจับ
ภาพจาก ข่าว 3 มิติ
หลังจากนี้ ป.ป.ช. จะส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุด เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยจะขอให้ศาลสั่งทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดิน และดำเนินคดีอาญา ฐานกระทำการทุจริตต่อหน้าที่
ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. เคยพบความผิดคดีทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ความเสียหาย 3 พันล้านบาทในปี 2555-2559 ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาเมื่อปี 2564 ให้จำคุกตลอดชีวิตอดีตอธิบดีกรมสรรพากร และจำเลยรวม 4 คน ส่วนวิธีการทุจริตคือ ทำเอกสารเท็จเพื่อขอคืนภาษีนำไปซื้อทองคำ แล้วก็ยึดทองคำแท่งจำนวน 77 แท่ง หนัก 7 พันบาทตกเป็นของแผ่นดิน
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าว 3 มิติ, ข่าวช่องวัน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่สรรพากรในพื้นที่บางเสาธง จ.สมุทรปราการ 4 คน ร่ำรวยผิดปกติ มีทรัพย์สินร่วมกันกว่า 2 พันล้านบาท จนนำไปสู่การชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. นั้น
ล่าสุด วันที่ 7 ธันวาคม 2566 ข่าว 3 มิติ และ ข่าวช่องวัน รายงานถึงวิธีการทุจริตของเจ้าหน้าที่จนร่ำรวยกว่า 2 พันล้านบาทว่า เจ้าหน้าที่นำเงินภาษีของนิติบุคคลรายใหญ่ร่วม 30 บริษัทที่จะต้องหักค่าภาษีให้ตรงกับรายได้ ซึ่งเมื่อหักเงินแล้วจะมีส่วนต่าง แต่เจ้าหน้ากลับโอนส่วนต่างเข้าบัญชีส่วนตัวหลายครั้ง โดยเหตุการณ์เกิดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 เป็นต้นมา
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
วิธีการจะมีดังนี้
1. เจ้าหน้าที่สรรพากรรู้จักกับผู้ประกอบการ และอาจมีการตกลงกันเรื่องคืนภาษี เพื่อให้จ่ายน้อยกว่าที่ควรจะจ่ายให้รัฐจริง
2. ตัวละครเรื่องนี้จะมีดังนี้ คือ (ก.) สรรพากร อ.บางเสาธง (ข.) ผู้ประกอบการ (ค.) ลูกน้อง 3 คน ที่ทำหน้าที่ถอนเงินออกจากบัญชี และโยกย้ายทรัพย์สินเหล่านั้น
3. ลักษณะการดำเนินการจะคล้ายแชร์ลูกโซ่ คือ นำเงินผู้ประกอบการรายใหม่มาจ่ายคืนผู้ประกอบการรายเดิม
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
4. เมื่อผู้ประกอบการ A จ่ายภาษี เจ้าหน้าที่จะปรับภาษีลง และแก้ไขเช็กผู้ประกอบการ จากนั้นก็เอาเงินเข้าบัญชีตัวเอง
5. เมื่อจ่ายคืนภาษีผู้ประกอบการ A ก็จะนำเงินจากผู้ประกอบการ B มาจ่าย โดยแก้ไขเช็คให้เป็นชื่อของผู้ประกอบการ A แล้วทำวนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการ A ที่ถูกยักยอกเงินออกมาโวยวาย แค่อ้างว่า จะได้เงินคืนล่าช้า 5-6 เดือน
6. ส่วนเงินที่ได้จาก A ก็ทยอยให้ลูกน้องในเครือข่ายไปถอนเงิน นำเงินมาแบ่งกัน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
พบสรรพากรส่งเรื่อง ป.ป.ช. ตรวจสอบ มีเงินเป็นพันล้าน โดยไม่มีใครกล้ามาชี้แจง
เบื้องต้น ได้เรียกผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คนมาชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อพิสูจน์ทรัพย์ แต่ไม่มีใครมาชี้แจง จึงสรุปผลการสอบสวนคดีร่ำรวยผิดปกติ เสนอเรื่องคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทั้ง 4 ราย โดยยังไม่มีการออกหมายจับ
ภาพจาก ข่าว 3 มิติ
หลังจากนี้ ป.ป.ช. จะส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุด เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยจะขอให้ศาลสั่งทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดิน และดำเนินคดีอาญา ฐานกระทำการทุจริตต่อหน้าที่
ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. เคยพบความผิดคดีทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ความเสียหาย 3 พันล้านบาทในปี 2555-2559 ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาเมื่อปี 2564 ให้จำคุกตลอดชีวิตอดีตอธิบดีกรมสรรพากร และจำเลยรวม 4 คน ส่วนวิธีการทุจริตคือ ทำเอกสารเท็จเพื่อขอคืนภาษีนำไปซื้อทองคำ แล้วก็ยึดทองคำแท่งจำนวน 77 แท่ง หนัก 7 พันบาทตกเป็นของแผ่นดิน
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าว 3 มิติ, ข่าวช่องวัน