x close

พ่อเลี้ยงสาว 17 เล่าเหตุจากอีกมุม ยันลูกกลัวถูก สมรักษ์ พาเข้า รร. - โต้ปลอมบัตร ปชช.

          พ่อสาว 17 รับลูกหลอกว่าไปเที่ยว แต่เข้าผับ เป็นพฤติกรรมไม่ดี แต่บอบช้ำพอแล้ว ยันลูกกลัวถูก สมรักษ์ พาเข้าโรงแรม โต้ปลอมบัตร ปชช. อัยการลั่น "สมรักษ์" ผิดแน่นอน

พ่อเลี้ยงสาว 17 เล่าเหตุจากอีกมุม

          กรณี "สมรักษ์ คำสิงห์" โดนเยาวชนอายุ 17 ปี จากจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งความพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองขอนแก่น ว่าล่วงละเมิดทางเพศ ทำอนาจาร หลังไปเที่ยวผับแห่งหนึ่งที่จังหวัดขอนแก่น แม้สมรักษ์จะตั้งทนายสู้กลับ โดยยืนยันว่าอีกฝ่ายสมยอม และตนเองก็แค่ถอดเสื้อผ้า เพราะหลังรู้ว่าอายุแค่ 17 ก็หลับไป ทำให้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเป็นอย่างมาก


          รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 12 ธันวาคม 2566 ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้สัมภาษณ์ พ่อเลี้ยงของเด็ก 17, ตา, กัน จอมพลัง, วัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พูดคุยในประเด็นดังกล่าว

 พ่อเลี้ยงสาว 17 เล่าเหตุจากอีกมุม 

- มุมพ่อ ได้คุยกับลูกมาแล้ว ลูกเล่าให้ฟังยังไง ?


          พ่อ :
ทางแม่ของเพื่อนคนที่ไปด้วยกัน แกโทร. มาหาทางแฟนผม บอกว่าน้องโดนคุณสมรักษ์ลวนลามในโรงแรมและถอดเสื้อผ้า ทางคุณแม่เลยโทร. ไปหาน้อง ทีแรกน้องก็ไม่รับ จนสาย ๆ 3 โมง น้องเขาถึงรับ แต่บอกไม่หมด แกไม่กล้าบอกหมด กลัวทางแม่ต่อว่าว่าไปเที่ยว

- น้องบอกที่บ้านว่าจะไปสอบ บ้านเราอยู่อีกจังหวัด ?


          พ่อ : ตัวผมอยู่อยุธยา น้องอยู่กาฬสินธ์ุ บ้านคุณตา วันรุ่งขึ้นน้องต้องไปสอบที่ขอนแก่น  

- น้องไปสอบจริง ๆ แต่คืนนั้นน้องแวะไปสถานบันเทิงก่อน ?

          พ่อ : ทีแรกคุณยายจะไม่ให้ไป ถ้าไปทีต้องเหมารถคนแถวบ้านเพื่อพาน้องไปก็หลายพันอยู่ จากกาฬสินธุ์ไปขอนแก่น ค่ารถก็เยอะ พอดีน้องที่ไปด้วยกันเขาจะไปสอบที่เดียวกันพอดี คุณยายเลยฝากว่าเอาน้องไปด้วย เพราะตอนเช้าคงไม่มีใครไปส่งน้องเขา

พ่อเลี้ยงสาว 17 เล่าเหตุจากอีกมุม

น้องบอกเพื่อนชวนเที่ยว เข้าใจว่าจะไปห้าง ไม่ได้ตั้งใจจะไปผับ

- จากนั้นน้องมาเล่าให้ฟังยังไง ?

           พ่อ :
น้องบอกว่าน้องไม่ตั้งใจจะไปเที่ยวสถานบันเทิงวันนั้น น้องเข้าใจว่าจะไปตามห้าง ถึงไม่ได้พกบัตรประชาชนไป

- ใครพาน้องไป ?

          พ่อ : ก็เพื่อนคนที่ไปสอบด้วยกัน คนเดียว เป็นผู้หญิง เขาเปิดโรงแรมพักอยู่ที่เดียวกัน

- เพื่อนของน้องชวนไปเที่ยว น้องเลยคิดว่าไปเที่ยวห้าง ตอนนั้นกี่โมง ?

          พ่อ : น้องบอกว่าออกไป 5 โมง ร่วม 6 โมง แต่ไม่รู้ไปไหนก่อน

พ่อเลี้ยงสาว 17 เล่าเหตุจากอีกมุม

- ที่แน่ ๆ มีคลิปไปอยู่ที่นั่น หลังจากนั้นยังไง ?

          พ่อ : ก่อนเข้าไปเขาถามเพื่อนว่าไม่ได้เอาบัตรประชาชนมา อยู่ในกระเป๋าที่ห้องที่โรงแรม เพื่อนเขาก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวเคลียร์ให้ น้องคนนั้นไปเที่ยวที่นี่บ่อย เหมือนเขาจะทำให้เข้าให้ได้ เขาก็เลยบอกว่าเขานึกขึ้นได้ว่าเคยถ่ายรูปบัตรประชาชนจะเอาไปซีร็อกซ์ มีอยู่ในโทรศัพท์ เพื่อนเขาก็บอกว่าได้ ก็เลยพาเดินไปแล้วยื่นให้ผับดู เห็นน้องบอกว่าเข้าได้ ไปเลย ๆ มีการ์ดกวักให้น้องเข้าไปเลย

- บัตรประชาชนไม่มีการตัดแต่งเติมเลย ?

          พ่อ : ไม่มีครับ น้องบอกว่าจะเอาเวลาที่ไหนไปปรับแต่ง เขาไม่คิดว่าจะไปเที่ยวสถานที่แบบนั้นด้วย

- เจ้าของร้านแถลงข่าว เปิดภาพจากกล้องวงจรปิด พ่อกับตาเห็นแล้วใช่ไหม ?

          พ่อ :
เห็นแล้วครับ

- เจ้าของร้านชื่อคุณนุ แถลงว่าการ์ดของร้านบอกว่าบัตรประชาชนน้องถูกแก้มาจนทำให้ดูเป็นอายุ 20 ตั้งข้อสังเกตไม่ได้โทษร้าน เพื่อความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ที่บอกว่าดูแล้วอายุ 20 แต่หน้ายังไม่ได้มองเลย นี่ไม่ได้เข้าข้างน้องนะ แต่พูดเป็นกลาง ๆ แต่มุมว่าสุดท้ายเด็กอายุ 17 เข้าสถาบันเทิงเหมาะไหม มันก็ไม่เหมาะ มันไม่ได้ เพราะสถานบันเทิงเขาไม่ให้เข้า แต่เรื่องเดือดร้อนมาถึงเขาแล้ว เขาอาจจำเป็นต้องออกแนวนี้หรือเปล่า หรือข้อเท็จจริงจากการ์ดอีกเรื่องหนึ่งหรือเปล่า ตอบไม่ได้ แต่ภาพที่เห็นคือไม่มีการมองซ้ำ มองปุ๊บเดินเข้า นี่ไม่ได้เข้าข้างนะ ?

          กัน : ผมมีทางแก้ปัญหา วันนี้อ่านจากข่าว บอกน้องปลอมตัวเลขในรูปภาพ วันนี้ผมไปหาท่านชาดา ไทยเศรษฐ์ ขอให้ท่านช่วยหน่อย ผมแฟร์ ๆ สองฝั่งนะ ถ้าสมมติเขาบอกน้องปลอมบัตรประชาชนเข้า ถ้าท่านมีภาพ ท่านก็เอาออกมาเลย น้องถูกดำเนินคดีเลยถ้ามี แต่ถ้าไม่มีคุกกี้นะพี่ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ผมขอให้ท่านชาดาไปหาข้อเท็จจริงแล้ว เขาบอกไปกัน 4 คน 3 คนใช้โทรศัพท์ มี 1 คนใช้บัตรประชาชนจริงซึ่งอายุน้อยกว่าเขาด้วย อันนี้ต้องไปตรวจสอบว่าจริงไม่จริง

- มุมเด็กไปเที่ยวก็อีกมุมหนึ่ง มุมสมรักษ์อนาจารก็อีกมุมหนึ่ง เพราะเรื่องอนาจาร อายุ 17 ปี ถามท่านอัยการเลย โดนไหม ?

          วัชรินทร์ : ผมมาก็ไม่ได้รู้จักใครเหมือนกัน และเข้าใจคุณหนุ่มมากว่าเป็นการทำโหนกระแสที่ลำบากใจมาก เพราะต้องมีสองฝ่ายมองไม่ตรงกัน การกระทำอนาจารกฎหมายแบ่งแล้ว ไม่เกิน 15 ยินยอมไม่ยินยอมผิดหมด แล้วนี่คือเด็กเล็กมาก และเกิน 15 ไม่เกิน 18 มีจุดอยู่ที่ว่ามีทั้งเด็กยอมไปและไม่ยอมไป เด็กยอมไปก็ผิด เด็กไม่ยอมไปก็ผิด แต่โทษต่างกัน ถ้ายอมไปโทษจะเบากว่า อยู่ที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318 กับ 319

พ่อเลี้ยงสาว 17 เล่าเหตุจากอีกมุม

พ่อยอมรับลูกไม่ดีที่ไปผับ แต่ยันไม่ได้ปลอมแปลงบัตร ปชช.

- สิ่งที่สมรักษ์กระทำความผิด จะบอกว่าตัวเองพลาดคงไม่ได้ กรณีลูกไปเที่ยวพ่อมองยังไง ?

          พ่อ : ผมก็มองว่าไม่ดีที่ลูกเขาไปสถานที่แบบนั้น ผมก็ยอมรับว่าลูกผมไม่ดี ที่ไปสถานที่ที่เขาไม่ให้เยาวชนเข้าไป แต่เรื่องบัตรประชาชน มั่นใจว่าไม่มีการปลอมแปลงแน่นอน ที่เขาบอกว่าไปเที่ยวห้างก็เหมือนทางลูกเราหลอกเราว่าไปเที่ยวกับเพื่อน ไปเที่ยวตามห้าง เขาอาจไปจริง แต่หลังจากนั้นเราก็ไม่รู้ว่าเขาไปไหนต่อ ก็ไม่เหมาะสมที่เขาจะไปที่นั่น

- น้องบอกเข้าไปโดยน้องยื่นให้ดูจากมือถือ ถ้าสังเกตการ์ดดูเสร็จก็ให้เข้า ตรงนี้ท่านมองแบบไหน ?

          วัชรินทร์ : เป็นการพูดกันสองทางสองฝ่าย เด็กบอกตัวเองใช้บัตรโดยไม่ได้แก้ไข พ.ศ. เกิด แต่ทางร้านที่เราฟังจากข่าวบอกว่ามีการแก้ไข พ.ศ. เกิด ก็เป็นเรื่องการยันกันของคนสองคน ก็ต้องตรวจสอบ ร้านก็ต้องหาหลักฐานมายันกัน ถ้าเด็กแก้ พ.ศ. เกิด เด็กอาจโดนเรื่องปลอมเอกสารราชการ และใช้เอกสารราชการปลอม เด็กอาจโดนดำเนินคดีได้ แต่ถ้าเด็กยืนยันว่าไม่ได้ปลอม แต่ร้านยืนยันว่าเขาปลอม ตรงนี้ก็เป็นเรื่องที่ทางร้านต้องตรวจสอบและเอาหลักฐานมายันกัน

- จะยันกันได้ยังไง ดูแล้วปล่อยเข้าไปเลย ผมว่าพลาดนะ ?

          วัชรินทร์ : ถ้าดูตามภาพ คนตรวจสอบคือใคร ต้องเอาการ์ดทางร้านมาสอบสวนว่ามีการปลอมจริงหรือไม่อย่างไร คนนี้ก็ต้องมาให้การ ถ้ามีการกล่าวหาน้องนะ ทางสถานบริการก็ต้องไปแจ้งความว่าน้องใช้บัตรประชาชนปลอม โดยมีการ์ดคนนี้มายันว่าเป็นการปลอม ส่วนน้องก็ต้องแก้ว่าเราไม่ได้ทำการปลอมบัตร ก็เป็นเรื่องของสองคน ถูกไหมครับ น้องเองอาจต้องใช้พยานที่เป็นเพื่อน ๆ ที่ไปด้วยกัน อย่างที่คุณกันบอก เพื่อนที่ไปด้วยกันใช้บัตรจริงทั้งที่อายุไม่ถึงหรือไม่อย่างไร ตรงนี้ก็ต้องพิสูจน์กัน

พ่อเลี้ยงสาว 17 เล่าเหตุจากอีกมุม

- ตอนนี้สังคมมองสองมุม คนเข้าใจมุมน้องก็มี ว่าน้องถูกละเมิด อนาจาร แต่อีกมุมขออภัยที่ต้องพูดคำนี้ เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในสังคม น้องอายุ 17 ก็ไม่น่าจะไปสถานบันเทิงแห่งนั้น รวมถึงเรื่องการแต่งตัว ผมถือว่าพ่อพูดดี พ่อพูดชัดเจน พ่อบอกว่าลูกพ่อก็ไม่ถูก ?

          พ่อ : ใช่ครับ ที่ไปเที่ยวสถานที่แบบนั้น

- เรื่องชุดพ่อมองยังไง ?


          พ่อ : ล่อแหลม เป็นชุดที่ไม่ควรใส่ไปเที่ยวที่แบบนั้น

- อันนี้พ่อก็ยอมรับความเป็นจริง แต่มุมผม เรื่องชุดไม่ได้ติดหรอก มีประเด็นแค่อายุ 17 แล้วไปเที่ยวนั่นแหละ เรื่องชุดไม่ได้ติดใจ ?

          วัชรินทร์ : เป็นปัญหาที่เราต้องไปพิจารณาเรื่องข้อกฎหมาย ส่วนเด็กคนนี้ทำถูกหรือไม่ก็แล้วแต่สังคมมอง แต่ทางนักกฎหมายมองก็ต้องมองข้อแรก เด็กคนนี้อายุไม่เกิน 18 พอไม่เกินมันติดปัญหาแน่นอน มาตรา 319 มีคำพิพากษาฎีกาเยอะแยะ การพาเด็กไปเพื่อการอนาจาร เด็กจะยอมหรือไม่ก็เป็นความผิดมาตรา 319 โทษจำคุกแน่นอน คนถูกกล่าวหาก็ต้องสู้ เคยมีคนต่อสู้ได้ ต้องสู้ว่าไม่รู้ การไม่รู้คือไม่มีเจตนา หลักกฎหมายเป็นแบบนั้น กฎหมายถือว่าไม่รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิด แปลง่าย ๆ คือไม่รู้ไม่มีเจตนา เขาสู้ว่าไม่รู้ว่าเด็กอายุไม่เกิน 18 ก็เป็นเรื่องที่ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาต้องยกขึ้นมาต่อสู้ ถามว่ามีไหมที่เคยสู้ได้และศาลยกฟ้อง มี แต่ต้องอาศัยข้อเท็จจริงว่ามีการถามตั้งแต่แรก ตั้งแต่ในร้านหรือเปล่าว่าอายุเท่าไหร่ ถ้ารู้แต่แรก ถ้าตามข่าวที่เราได้ยินมา ถ้าเขาพูดแบบนี้ก็เป็นข้อเท็จจริงที่เห็นได้ชัดว่ารู้ตั้งแต่อยู่ในผับ ฉะนั้นอายุเป็นตัวสำคัญที่สุด ถ้าอายุเกิน 18 เราคงไม่ต้องมานั่งพูดตรงนี้

- พูดอะไรเยอะก็กลายเป็นเบลมเหยื่อ อีกมุมก็ต้องต่อสู้กันไป มุมหนึ่งพ่อก็ยอมรับว่าลูกเขาไม่ถูกต้อง อยากพูดอะไรอีกไหม ?

          พ่อ :
ก็กราบขอโทษสังคมนะครับที่ลูกสาวผมอาจทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไปเที่ยวสถานที่แบบนั้น กราบขอโทษแทนลูกสาวผมด้วย แต่ส่วนคดีก็อีกส่วนหนึ่ง อยากให้สังคมมองว่าคดีก็ส่วนคดีความ การทำตัวหรือพฤติกรรมไม่ดีก็อีกส่วนหนึ่ง ไม่อยากให้เอามารวมกัน แล้วทำให้น้องสภาพจิตใจแย่ลง

พ่อเลี้ยงสาว 17 เล่าเหตุจากอีกมุม

เหตุการณ์ในผับ เด็กบอกแต่แรกว่าอายุ 17

- ลูกได้เล่าให้ฟังไหม ข้างในผับเกิดอะไรขึ้น ?

          พ่อ : ที่น้องเขาเล่าให้ฟัง ก่อนน้องเจอสมรักษ์ น้องเดินไปเข้าห้องน้ำ ออกมาก็เจอสมรักษ์ ก็ขอถ่ายรูป เพราะเห็นว่าเป็นดารา สมรักษ์ก็ถามน้องว่าอายุเท่าไหร่ น้องก็บอกอายุ 17 สมรักษ์ก็บอกว่าเข้ามาได้ยังไง น้องบอกให้การ์ดดูบัตรประชาชนแล้วเขาก็ให้เข้ามาได้ เขาก็พยักหน้า บอกว่าถ้ามีเรื่องอะไรให้เดินมาหาเขา เขาจะเป็นหุ้นส่วนที่นี่แล้ว แล้วน้องก็กลับไปที่โต๊ะที่เขานั่งกันอยู่ จากนั้นเขาก็อยู่กันจนผับเลิก ออกมากับเพื่อน 4 คน อีก 2 คนไปก่อนล่วงหน้า อีกคนที่มาด้วยกันตั้งแต่แรกบอกให้รออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวไปเอารถก่อน แต่สักพักน้องเขาเห็นว่าเพื่อนที่ไปเอามอเตอร์ไซค์ออกไปกับแฟนเขากลับไปก่อน น้องเขาอยู่คนเดียว ก็ไม่รู้จะกลับที่พักยังไง จนมาเจอการ์ด เขาก็คิดว่าน่าจะปลอดภัยที่สุดแล้ว เพราะเป็นการ์ดที่ร้าน เขาเลยให้การ์ดที่ร้านไปส่งที่โรงแรมที่พักหน่อย การ์ดก็ไปเอามอเตอร์ไซค์ออกมา

- น้องอยู่อีกจังหวัด แต่มาขอนแก่น บอกที่บ้านว่าจะมาสอบ เช่าโรงแรมนอนกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง มีข่าวว่าไปนั่งที่โต๊ะสมรักษ์ จริง ๆ ไปนั่งที่โต๊ะสมรักษ์ไหม ?

          พ่อ : ไม่ ๆ แค่ถ่ายรูปเฉย ๆ แล้วกลับไปที่โต๊ะ น้องยืนยันได้ว่าไม่เคยไปนั่งแช่ อาจไปแค่ขอถ่ายรูปแล้วกลับที่โต๊ะ

- ตอนแรกมีข่าวว่าน้องไปนั่งที่โต๊ะสมรักษ์เลย ?

          พ่อ : น้องไปถ่ายรูปแล้วกลับไปนั่งโต๊ะ ไปคุยกับเพื่อนว่าเมื่อกี้ถ่ายรูปกับดารามา

- แล้วยังไงต่อ ?

          พ่อ : จนน้องบอกการ์ดให้ไปส่งที่พักที่โรงแรมให้หน่อย การ์ดก็บอกว่ารอแป๊บหนึ่งไปเอารถก่อน เขาเดินไปเอารถบิ๊กไบค์ น้องก็ขึ้น สักพักน้องบอกว่าสมรักษ์ขึ้นคร่อมด้านหลัง น้องก็งงว่ามาได้ไง เขาบอกไปเลย ๆ เดี๋ยวไปส่งที่โรงแรมเอง น้องก็เห็นว่าเวลาไปจอดที่หน้าโรงแรมที่คุณสมรักษ์เขาเปิดไว้แล้ว น้องก็บอกว่าอ้าว ไม่ใช่โรงแรมที่น้องอยู่นี่ เขาบอกตอนเช้าเดี๋ยวพี่ไปส่ง ให้ลงที่นี่ การ์ดที่พาน้องไปก็ไล่ให้น้องลง ๆ ลงไปได้แล้ว แล้วเขาก็กลับ แล้วน้องมารู้ทีหลังว่าการ์ดคนนี้ก็เป็นการ์ดของสมรักษ์

พ่อเลี้ยงสาว 17 เล่าเหตุจากอีกมุม

- ทำไมน้องไปเรียกการ์ดคนนี้มา ?

          พ่อ : ตอนนั้นน้องไม่เห็นใคร ไม่รู้จักใคร มันตี 3 แล้ว ไว้ใจใครไม่ได้ ไว้ใจได้ที่สุดน่าจะเป็นการ์ดที่อยู่ในร้าน น้องถึงให้เขาไปส่งตอนนั้น

- น้องเล่าให้พ่อฟังแบบนี้ ขี่มอเตอร์ไซค์ซ้อนสามเข้าไป จากภาพข่าว เท่าที่นักข่าวมีการเห็นภาพมา แต่ไม่มีภาพหลุดออกมานะ เหมือนตอนเดินเข้าไปโรงแรมไม่มีการยื้อยุดฉุดกระชาก ?

          พ่อ : น้องบอกไม่ได้ยื้อฉุดกระชาก สมรักษ์บอกว่าไปที่ห้อง ผมก็ถามว่าทำไมไม่วิ่งหนี ไม่ร้องให้คนช่วย เขาบอกว่าหนูกลัว ถ้าวิ่งไม่พ้นจะถูกสมรักษ์ทำร้าย ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่ากลัวโดนทำร้าย เขาให้ทำอะไรก็ต้องยอมหมด

- สมรักษ์เลยพาไปบนห้อง ?

          พ่อ : หลังเข้าไปในห้อง น้องบอกว่ากอดรัดฟัดเหวี่ยงล่วงเกิน ไม่ได้คุยไม่ได้อะไร  

- ตอนนั้นสมรักษ์หลับ ?

          พ่อ : เขาบอกเขากับสมรักษ์ไม่ได้หลับกันเลย ที่แอบถ่ายกันได้ ช่วงสมรักษ์เผลอ ช่วงเสร็จอะไรแล้ว น้องวิ่งไปล้างในห้องน้ำ เหมือนสมรักษ์เผลออะไรสักอย่าง แต่ไม่ได้หลับ เขาก็แอบถ่าย เพราะรู้ว่าโดนกระทำแล้ว จะเอาไปเป็นหลักฐานว่าคนคนนี้กระทำเขา ไม่ใช่พูดไปลอย ๆ ไม่มีหลักฐานว่าใครเป็นคนทำ น้องเขาบอกว่าที่ถ่ายให้เห็นภาพ ถ่ายให้รู้ว่าคนคนนี้ทำเขา

พ่อเลี้ยงสาว 17 เล่าเหตุจากอีกมุม

- จากนั้นยังไงต่อ ?

          พ่อ : เขาก็บอกสมรักษ์ว่าเขาหิว ขอไปเอาข้าวมากินหน่อย แล้วน้องถึงหนีออกมาได้ สมรักษ์บอกว่ารีบไปรีบมานะ น้องออกมาได้ก็รีบแชตให้มารับว่าโดนตรงนี้

- ลูกส่งให้ทางเพื่อน เพื่อบอกว่าเกิดอะไรขึ้น ให้มารับหน่อย เขากลัว เพื่อนก็ไปรับ ตอนลงมาเอาข้าวไม่หนีไปเลย ?

          พ่อ : ก็ไปเลยครับ ไม่เข้าไปอีกเลย

- ไม่ตรงกับที่บอกว่าสมรักษ์นอนหลับอยู่ก็เลยหนีมา ?

          พ่อ : ไม่ครับ ออกมาจากตรงนั้นได้ก็รีบส่งแชตและรีบออกมาเลยครับ

- จากนั้นไปไหนต่อ ?

          พ่อ : ไปโรงแรมที่น้องพักก่อน น้องคนที่ไปรับเห็นน้องร้องไห้ตลอดเวลา เขาเลยถามไปโรงพักไหม ตอนออกจากโรงแรมจะตี 5 แล้ว เพื่อนเขาก็พาไปแจ้งความทันที ทีแรกน้องเขาไม่กล้าไป กลัวพ่อแม่ ยาย จะรู้ว่าไปเที่ยวแล้วเจอแบบนี้

พ่อเลี้ยงสาว 17 เล่าเหตุจากอีกมุม

ครอบครัวยันไม่ได้หวังเงิน แต่จะเอาเรื่องถึงที่สุด

          กัน : หลายคนถกเถียงว่าวางงานหรือเปล่า ทำไมถูกกระทำแล้วรีบไปเลย จริง ๆ แล้วคนมีเคสลักษณะนี้ รีบไปกับทิ้งเวลาแล้วค่อยไป อันไหนดีกว่ากัน

          วัชรินทร์ : จะตอบอย่างนั้นก็ไม่ได้ แล้วแต่พฤติการณ์ของแต่ละคน ถ้าอย่างวางงานก็ต้องถามคุณพ่อตรง ๆ เพราะมีกระแสว่าแบล็กเมลหรือเปล่า มีการเรียกร้องเอาเงินเอาทองหรือเปล่า ขณะนี้มีการเจรจาเรื่องเงินทองไหม

          พ่อ : ไม่มีครับ

          วัชรินทร์ : สอง พฤติการณ์ลูกสาวก่อนเกิดเหตุเรื่องนี้เคยมีมาก่อนหน้านี้ไหม เคยมีเรื่องทำนองนี้กับคนอื่นไหม

          พ่อ : ยืนยันว่าไม่มีแน่นอน

          วัชรินทร์ : ก็เป็นเหตุผลอย่างหนึ่ง เป็นข้อพิสูจน์ว่าเด็กไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้มาก่อน อย่างที่เคยมีคดี ปรากฏว่าพฤติกรรมแบบนี้ เคยทำกับผู้ชายคนนี้แบบนี้ แล้วมาทำกับคนนี้ มันเอานำมาสืบได้ พฤติกรรมครั้งเก่า ๆ ที่เคยทำมา เมื่อคุณพ่อบอกว่าไม่เคยทำเลย การไปแจ้งความเร็วช้าก็มีผลเหมือนกัน มีเรื่องปุ๊บแชตหาเพื่อนทันที เพื่อนก็มารับทันที ตี 5 ยังรู้สึกเสียใจแล้วไปแจ้งความวันรุ่งขึ้นช่วงสาย ๆ หน่อย ก็เป็นการแจ้งความทันที มีเหมือนกันที่ทิ้งระยะเวลาแล้วไปแจ้งความ ก็จะเป็นข้อต่อสู้ของผู้ถูกกล่าวหาว่าทำไมไม่แจ้งตั้งแต่แรก ทิ้งระยะเวลาไปตั้งนาน แต่บางครั้งศาลท่านไม่ได้มองนะว่าแจ้งความช้าหรือเร็ว เพราะผู้เสียหายที่เป็นผู้หญิงอาจเกิดความอับอาย ความกลัว อาจใช้เวลาครุ่นคิดแล้วไปแจ้ง ไม่ได้มีประเด็นเท่าไหร่ แต่ถ้าไปแจ้งอีก 2-3 เดือน มันก็น่าคิด อันนี้คือทันทีทันใดครับ

- นี่คือมุมมองอัยการ ?

          กัน : คนถามเยอะมาก อยากได้เงินเขาหรือเปล่า พ่อว่าไง

          พ่อ : ไม่อยากได้แน่นอน ไม่เอาเงิน อยากเอาเรื่องให้ถึงที่สุด คุณตาคุณยายเขามีอาชีพกรีดยาง เขาทำไว้ตั้ง 10 ไร่ ทำนาปลูกข้าวอีก 5 ไร่ เขาก็ขายได้ทุกอาทิตย์ ไม่ต้องการเงินครับ

          กัน : ก็ตัดเรื่องทำแบบนี้หวังเงินหรือเปล่า ซึ่งคุณพ่อยืนยันว่าไม่เอาเงิน

          พ่อ : เอาเรื่องให้ถึงที่สุด

พ่อเลี้ยงสาว 17 เล่าเหตุจากอีกมุม

- ตารู้จักสมรักษ์ไหม ?

          ตา : รู้จักครับ เป็นนักมวยเก่า ตอนเป็นนักมวยชื่นชอบ แต่ตอนนี้ไม่ชอบแล้ว

- เสียใจไหมเกิดเรื่องแบบนี้ ?

          ตา : เสียใจ ยายร้องไห้อยู่หน้าบ้าน ตามารู้ทีหลัง เพราะเห็นยายร้องไห้อยู่หน้าบ้าน

          พ่อ : ตาเพิ่งมารู้ว่าหลานโดนแบบนี้ เขาก็เสียใจ

- ถ้าสมรักษ์บอกให้เคลียร์ เอาเงินไปจะได้จบ ?

          ตา :
ไม่เอาครับ

          กัน : มีบางคนบอกว่าเขาจะถูกแบล็กเมลหรือเปล่า ทางกฎหมายต้องเป็นยังไง

          วัชรินทร์ :
เหมือนแจ้งความเพื่อเรียกเอาเงินเอาทอง อยากต่อรอง อยากได้เงินได้ทอง แต่ถ้าคุณพ่อกับคุณตายืนยันว่าไม่ต้องการเงิน ต้องการดำเนินคดีก็ดำเนินคดีไป แต่ตามกฎหมายถึงยอมความก็ยอมไม่ได้ สมมติรับเงินก็ไม่จบ ต้องไปที่ศาล เรื่องนี้ตำรวจทำสำนวนเสร็จ สอบผู้เสียหาย เรียกสมรักษ์มาแจ้งข้อหา เขาก็มีสิทธิ์ขอประกันตัว อัยการจะพิจารณาจากสำนวนหลักฐานแล้วสั่งฟ้อง แต่ถ้าสมมติสั่งไม่ฟ้องก็ต้องส่งไปยังผู้บัญชาการภูธรภาค 4 ถ้าเห็นแย้งกับคำสั่งก็ต้องส่งไปอัยการสูงสุดชี้ขาด นี่คือกฎหมาย แต่ถ้าอัยการจังหวัดสั่งฟ้องก็ไปที่ศาลจังหวัดขอนแก่น เพราะถึงจ่ายเงินก็ยอมความไม่ได้ สุดท้ายต้องไปจบตรงศาล คุณสมรักษ์อาจสู้ 2 วิธี หนึ่ง ไม่รู้ว่าเด็กอายุ 17 คิดว่าเกิน 18 แล้วเลยทำแบบนี้ นี่คือการสู้ด้วยการบอกว่าไม่รู้ข้อเท็จจริง ไม่รู้ว่าอายุน้อย ก็ไปสู้กัน แล้วแต่ศาลจะมอง ถ้าสู้ชนะก็ยกฟ้อง แต่ถ้าสู้ไม่ได้ก็มีโทษจำคุก

พ่อเลี้ยงสาว 17 เล่าเหตุจากอีกมุม

- ชนะมุมไหน ?

          วัชรินทร์ : คิดเอาเองว่าเกิน 18 แน่ อย่างที่เขาบอกว่าเข้าผับมาได้ต้องเกิน 20 ไปแล้ว แต่ก็ติดปัญหาคือรู้ตั้งแต่ในผับหรือเปล่า

- สมรักษ์พูดเองว่าถามว่ารู้ไหมอายุ 17 ก็เขาบอกตั้งแต่แรกว่าอายุ 17 แต่ไม่เชื่อ ?

          วัชรินทร์ : การสู้เรื่องอายุถามว่าสู้ได้ไหม สู้ได้ แต่จะสู้ลำบาก บอกผู้ชายเอาให้ปลอดภัย ถ้าเจอเด็กอย่าไปยุ่งเลยดีกว่า เรามองเขาเป็นลูกหลานดีกว่า อย่าไปสนใจเลย เรื่องพาไปโรงแรมก็ชัดเจน

- พ่ออยากให้เป็นมุมไหน ?

          พ่อ : อยากฝากสังคมว่าอย่ามองน้องในแง่ไม่ดี เพราะแค่นี้น้องก็บอบช้ำพอแล้ว ให้หยุดคอมเมนต์ต่าง ๆ นานาที่ทำให้น้องรู้สึกแย่ ผมยอมรับว่าลูกผมผิดจริงที่ไปสถานที่แบบนั้น ก็จะกลับไปอบรมให้มากกว่านี้

- กรณีการต่อสู้ ถ้ามีภาพน้องเดินไปโรงแรม โดยสมรักษ์ไม่ได้ฉุดกระชากลากถู ยอมขึ้นไปแต่โดยดี แบบนี้เอาไปต่อสู้ได้ไหม ?

          วัชรินทร์ :
ไม่ได้เลย อย่างที่เรียนแต่ต้น เรื่องนี้ติดเรื่องอายุ เรื่องยินยอมพร้อมใจมักไปสู้ในคดีข่มขืน ผู้หญิงสมยอม แต่เรื่องนี้สู้ไม่ได้ เนื่องจากเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี ถึงเด็กจูงมือพาไปก็คุกได้ เพราะเขาห้าม

- ถ้ามองว่าเป็นกระบวนการ ถ้าผมเป็นเด็กผู้หญิง ถ้าต้องการเงิน ต้องเรียกสมรักษ์ตั้งแต่ตอนนั้น ว่าคุณละเมิดฉันตั้งแต่ตอนนั้น ฉันถ่ายภาพ เอาเงินมา ถ้าไม่ได้เงินฉันแจ้งความ แต่ผู้หญิงไม่ได้เรียกเงินและไปแจ้งความเลย ยังไงก็เป็นคดีอาญาแผ่นดิน มันถอนแจ้งความไม่ได้ ให้เงินทีหลังก็ไม่ได้ วันนี้เป็นประเด็นคนละเรื่องที่จะไปเอาเงินแล้ว ถ้าจะเอาเงินต้องขอเงินตั้งแต่วินาทีนั้นเลย ?


          วัชรินทร์ : กรณีนี้ถ้าน้อง 17 ไปให้การต่อหน้าพนักงานสอบสวน ต่อหน้าอัยการ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ ต่อหน้าพ่อแม่ตายายหรือใครก็ตามที่เขาไว้ใจ ถ่ายวิดีโอไว้เลย แล้วมันไปใช้ในชั้นศาล เคยมีนะ ตอนถ่ายวิดีโอไว้แล้วเคลียร์ยังไม่ได้ พอขึ้นศาลผู้ต้องหาก็ไปเคลียร์กับเด็กเอาเงินไปจ่ายชดใช้ ถามว่าจบไหมก็ไม่จบ เพราะอัยการเอาวิดีโอที่นำสืบในชั้นสอบสวนไปแสดงในศาล ว่าในชั้นสอบสวนให้การยืนยันเลย ชี้ตัวเลย ว่าคนนี้เป็นคนทำแบบนี้ ๆ ถ้าเปลี่ยนคำให้การไปช่วยผู้ต้องหาก็ไม่ได้ หรือในชั้นศาลตามหาตัวเด็กไม่เจอ เด็กอาจโดนข่มขู่แล้วกลัวหนีไป แต่ก็ยังโดน ติดคุกมาหลายรายแล้ว

          กัน : มีคนมาหาคุณยายที่บ้าน เรียกให้ไปเคลียร์ ยายยังไม่ไปเลย

          พ่อ : เขาบอกตำรวจนอกเครื่องแบบจะมารับไปหาน้องที่โรงพยาบาล น้องตรวจร่างกายอยู่ แต่พอรับไปแล้วไม่ไปโรงพยาบาล จะไปโรงพัก ยายก็ถามว่าไหนจะพาไปหาหลานที่โรงพยาบาล เขาก็บอกว่าจะพาไปเคลียร์ ยายบอกถ้าจะให้เคลียร์อะไร เขาไปไม่ได้ เขาไม่มีตังค์ ยายบอกไม่ต้องกลัว เย็นนี้มีแน่นอนตังค์อะ

          กัน : หมดเวลาเคลียร์แล้ว ปล่อยให้เป็นเรื่องกระบวนการที่ถูกต้อง เล่นกันตามกติกา ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เห็นว่าคุณสมรักษ์กังวลว่าถูกวางยาหรือเปล่า เดี๋ยวพาไปตรวจก็ได้นะ ส่วนของร้านบอกเด็กปลอมบัตรตามข่าว มีภาพเอามาเลย

          ทั้งนี้ หนุ่ม กรรชัย ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งหนึ่งที่อยากขอวิงวอน ไม่ว่าฝ่ายหญิงจะหนีเที่ยว แต่งตัวไม่เรียบร้อย โกหกที่บ้านอะไรก็แล้วแต่ แต่วันนี้ถ้าพูดตรงไปตรงมา ผู้เสียหายถือว่าเป็นเหยื่อ ฉะนั้นอย่าไปเบลมเหยื่อ ถ้าคุณด่าคนนี้ผิด ๆ วันหนึ่งศาลตัดสินเขาไม่ผิดคุณจะทำยังไง คุณกลับมาแก้ไม่ได้นะ หรือสิ่งที่คุณพูดแล้วน้องเห็นขึ้นมา เขาไปฆ่าตัวตายขึ้นมา สุดท้ายคุณก็พิมพ์ว่าเสียใจด้วยนะ วันนี้คุณด่า กับอีกวันที่คุณพิมพ์เสียใจด้วยนะ สิ่งที่ทำได้วันนี้หยุดการพิมพ์ด่า ครหา ค่อนแคะ ปล่อยให้เป็นกระบวนการยุติธรรม พูดตรง ๆ ผมเป็นคนชอบเสื-ก แต่ต้องเสื-กอย่างมีจริยธรรม

พ่อเลี้ยงสาว 17 เล่าเหตุจากอีกมุม

พ่อเลี้ยงสาว 17 เล่าเหตุจากอีกมุม

พ่อเลี้ยงสาว 17 เล่าเหตุจากอีกมุม

พ่อเลี้ยงสาว 17 เล่าเหตุจากอีกมุม

พ่อเลี้ยงสาว 17 เล่าเหตุจากอีกมุม

พ่อเลี้ยงสาว 17 เล่าเหตุจากอีกมุม

พ่อเลี้ยงสาว 17 เล่าเหตุจากอีกมุม

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พ่อเลี้ยงสาว 17 เล่าเหตุจากอีกมุม ยันลูกกลัวถูก สมรักษ์ พาเข้า รร. - โต้ปลอมบัตร ปชช. อัปเดตล่าสุด 13 ธันวาคม 2566 เวลา 15:06:12 16,176 อ่าน
TOP