ผู้บริหารทรู ออกมาพูดเอง โปรถูก ๆ ไปอยู่ที่ไหน ต่อแพ็กเกจราคาถูกไม่ได้ จริงไหม หลังจากการควบรวมระหว่างทรูและดีแทค ยืนยันแพ็กเกจถูกมี แต่เอามาโฆษณาทั้งหมดเป็นพันแพ็กเกจไม่ได้
วันที่ 19 ธันวาคม 2566 ในช่วงหนึ่งของรายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอ ได้มีการพูดคุยกับนายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แพ็กเกจโทรศัพท์แต่ละค่ายมีเยอะมาก ของทรูและดีแทค ทั้งแพ็กเกจเก่า-ใหม่ มีเกือบพันแพ็กเกจ แต่เวลาจะโฆษณาขาย เราไม่สามารถโชว์ทั้งพันแพ็กเกจให้ได้ เราจึงต้องเลือกแพ็กเกจมาตรฐาน ที่ดูจากพฤติกรรมการใช้งานหลักมานำเสนอให้ลูกค้า เช่น หากลูกค้าโทร. ด้วยเสียงเป็นหลัก หรือโทร. โดยใช้เน็ตเป็นหลัก หรือส่ง SMS เป็นหลัก ก็จะออกแบบแพ็กเกจให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า และเอาแพ็กเกจหลักไปอยู่ในเว็บ ไปไว้ตามดีลเลอร์หรือที่ทรูช็อป แต่เราไม่สามารถเอาทั้งพันโปรไปโชว์ได้ จึงเป็นที่มาของโปรลับ คนหาว่าถ้าไม่ถามก็ไม่บอก ซึ่งไม่เป็นความจริง เราอยากขายทุกโปร แต่เราไม่รู้จะโฆษณาทุกโปรอย่างไร
ส่วนที่มีข้อครหาว่า หากโปรราคาถูกหมดแล้ว จะไม่มีการต่อโปรให้ลูกค้า ทางนายจักรกฤษณ์ เผยว่า เรามีทั้งแพ็กเกจเติมเงินและรายเดือน แต่ละแพ็กเกจจะมีรอบบิล และลูกค้าจะทราบตอนเลือก เมื่อหมดรอบบิลนั้น จะมี SMS ไปแจ้งลูกค้าว่าโปรนี้ครบรอบบิลแล้ว รอบต่อไประบบจะต่อโปรให้ ซึ่งโปรที่จะต่อให้จะเป็นโปรที่เราคัดเลือกมาแล้วว่าเหมาะกับลูกค้า
เราไม่มีการบังคับให้ลูกค้าเปลี่ยนโปร เราไม่มีนโยบายนั้น แต่หากแพ็กเกจนั้นหมด ลูกค้าก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกโปรโมชั่นใหม่ตามที่ลูกค้าต้องการ หรือให้สิทธิ์ลูกค้าใช้แพ็กเกจเดิมได้ต่อไป โดยลูกค้าต้องกดหมายเลขที่เราแจ้งใน SMS เพื่อคอนเฟิร์มว่าจะใช้แพ็กเกจเดิม
ด้านช่อง 3 รายงานว่า นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการ กสทช.
กล่าวถึงประเด็นเรื่องค่าบริการที่ตามเงื่อนไขต้องลดลง 12%
โดยใช้การเฉลี่ยราคาด้วยการถ่วงน้ำหนักตามจำนวนผู้ใช้บริการ
มีการปฏิบัติตามแล้ว แต่เรื่องคุณภาพสัญญาณนั้นพบว่า มีการยุบเสาสัญญาณ
โดยการย้ายเสาที่ยุบไปยังเสาที่มีพื้นที่ครอบคลุมมากกว่า
แต่ไม่ได้ยุบสถานีสัญญาณ ซึ่งทาง กสทช.
ได้ขอให้ผู้ให้บริการแจ้งต่อผู้บริโภคก่อนที่จะมีการเคลื่อนย้ายสถานีสัญญาณ
เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากการใช้งาน และทำแผนแจ้ง กสทช.
ล่วงหน้า หากย้ายแล้วจะมีการส่งทีมงานไปตรวจสอบ
ทั้งนี้ กสทช. เผยว่า หลังจากที่มีการควบรวมกิจการระหว่างทรูและดีแทคแล้ว มีเรื่องร้องเรียนเพิ่มมากขึ้นจาก 500 เป็น 600 เรื่อง โดยพบว่าข้อร้องเรียนส่วนใหญ่เป็นเรื่องข้อความโฆษณา การให้บริการ การคิดค่าบริการที่ผิดพลาด แต่มี 17 เรื่องเป็นเรื่องคุณภาพสัญญาณ ซึ่งจากการสุ่มตรวจสอบพบว่า ยังไม่พบพื้นที่บริการที่ไม่ได้มาตรฐาน
วันที่ 19 ธันวาคม 2566 ในช่วงหนึ่งของรายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอ ได้มีการพูดคุยกับนายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แพ็กเกจโทรศัพท์แต่ละค่ายมีเยอะมาก ของทรูและดีแทค ทั้งแพ็กเกจเก่า-ใหม่ มีเกือบพันแพ็กเกจ แต่เวลาจะโฆษณาขาย เราไม่สามารถโชว์ทั้งพันแพ็กเกจให้ได้ เราจึงต้องเลือกแพ็กเกจมาตรฐาน ที่ดูจากพฤติกรรมการใช้งานหลักมานำเสนอให้ลูกค้า เช่น หากลูกค้าโทร. ด้วยเสียงเป็นหลัก หรือโทร. โดยใช้เน็ตเป็นหลัก หรือส่ง SMS เป็นหลัก ก็จะออกแบบแพ็กเกจให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า และเอาแพ็กเกจหลักไปอยู่ในเว็บ ไปไว้ตามดีลเลอร์หรือที่ทรูช็อป แต่เราไม่สามารถเอาทั้งพันโปรไปโชว์ได้ จึงเป็นที่มาของโปรลับ คนหาว่าถ้าไม่ถามก็ไม่บอก ซึ่งไม่เป็นความจริง เราอยากขายทุกโปร แต่เราไม่รู้จะโฆษณาทุกโปรอย่างไร
ที่บอกว่าเราขายแต่โปรแพง จริง ๆ ไม่ใช่ โปรของเรามีตั้งแต่ 100 บาท และมีโปรรายวัน รายเดือน รายสัปดาห์
ส่วนที่มีข้อครหาว่า หากโปรราคาถูกหมดแล้ว จะไม่มีการต่อโปรให้ลูกค้า ทางนายจักรกฤษณ์ เผยว่า เรามีทั้งแพ็กเกจเติมเงินและรายเดือน แต่ละแพ็กเกจจะมีรอบบิล และลูกค้าจะทราบตอนเลือก เมื่อหมดรอบบิลนั้น จะมี SMS ไปแจ้งลูกค้าว่าโปรนี้ครบรอบบิลแล้ว รอบต่อไประบบจะต่อโปรให้ ซึ่งโปรที่จะต่อให้จะเป็นโปรที่เราคัดเลือกมาแล้วว่าเหมาะกับลูกค้า
เราไม่มีการบังคับให้ลูกค้าเปลี่ยนโปร เราไม่มีนโยบายนั้น แต่หากแพ็กเกจนั้นหมด ลูกค้าก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกโปรโมชั่นใหม่ตามที่ลูกค้าต้องการ หรือให้สิทธิ์ลูกค้าใช้แพ็กเกจเดิมได้ต่อไป โดยลูกค้าต้องกดหมายเลขที่เราแจ้งใน SMS เพื่อคอนเฟิร์มว่าจะใช้แพ็กเกจเดิม
กสทช. แจงเรื่องคุณภาพสัญญาณ ยอมรับมีการยุบเสาจริง แต่ไม่ได้ยุบสถานีสัญญาณ

ทั้งนี้ กสทช. เผยว่า หลังจากที่มีการควบรวมกิจการระหว่างทรูและดีแทคแล้ว มีเรื่องร้องเรียนเพิ่มมากขึ้นจาก 500 เป็น 600 เรื่อง โดยพบว่าข้อร้องเรียนส่วนใหญ่เป็นเรื่องข้อความโฆษณา การให้บริการ การคิดค่าบริการที่ผิดพลาด แต่มี 17 เรื่องเป็นเรื่องคุณภาพสัญญาณ ซึ่งจากการสุ่มตรวจสอบพบว่า ยังไม่พบพื้นที่บริการที่ไม่ได้มาตรฐาน