x close

ตำรวจเผยคดี ลุงพล น้องชมพู่ อาจเกิดจากน้ำผึ้งหยดเดียว แก้ผิดวิธี จนทำน้องตาย

             ตำรวจ เผยสาเหตุลุงพล เป็นผู้ต้องหาคดี น้องชมพู่ คือน้ำผึ้งหยดเดียว เมื่อพลาดตั้งแต่แรก แก้ปัญหาผิดวิธีก็มีปัญหา ส่วนป้าแต๋น ลั่น จะอยู่ข้างลุงพล เอฟซีกอดให้กำลังใจ

          หนึ่งในหลักฐานสำคัญที่เป็นสิ่งมัดตัวนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ว่าเป็นผู้ต้องหาคดีน้องชมพู่ นำไปสู่การจำคุกรวม 20 ปี นั่นคือ เส้นผมปริศนาที่เจอในรถสามารถเชื่อมโยงกับเส้นผมจุดเกิดเหตุ ส่วนนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ศาลยกฟ้อง

อ่านข่าว : เปิดหลักฐานสำคัญมัดตัว ลุงพล ที่ตำรวจไม่บอกสื่อ จนดิ้นหนีไม่ได้ นำสู่การจำคุกลุงพล 20 ปี

          ล่าสุด วันที่ 21 ธันวาคม 2566 เฟซบุ๊ก โหนกระแส รายงานว่า ทางแฟนคลับได้จัดบายศรีสู่ขวัญที่ลานพญานาคให้กับลุงพล ป้าแต๋น เพื่อเรียกขวัญทั้ง 2 คน หลังจากนั้น ลุงพล กล่าวกับทุกคนว่า วันนี้มีกำลังใจที่ดีขึ้น หลังจากที่เมื่อวานตนเข้าไปนั่งฟังคำพิพากษา น้อมรับในสิ่งที่ตัดสิน แล้วก็ขอบคุณที่หลายคนเป็นห่วงว่า ลุงกับป้าไปออกสื่อต่าง ๆ แล้วจะมีผลกระทบเกี่ยวกับการที่จะต้องสู้กันในชั้นอุทธรณ์ ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีในคำแนะนำต่าง ๆ มากมาย วันนี้ก็จะเห็นได้ว่า ลุงแทบจะไม่มีน้ำตาออกมาเลย เพราะสิ่งที่ลุงได้รับ


          ทันทีที่พูดจบประโยคดังกล่าว ลุงพลก็มีอาการสะอื้น พูดต่อไม่ออก แล้วก็ลุกขึ้นเพื่อคืนไมโครโฟน ส่วนทางป้าแต๋น กล่าวกับทุกคนว่า อยากจะบอกว่า ลุงกับป้า ไม่ว่าข่าวจะออกมายังไง คอมเมนต์จะออกมายังไง เอฟซีทุกท่านรู้ว่า ลุงพลป้าแต๋นสู้กับสื่อโซเชียลข้างนอกกับคอมเมนต์ที่ไม่ดีมา 3 ปี เพราะฉะนั้นเราไม่สนใจในข้อความเหล่านั้น อะไรที่ทำลายความรู้สึก เราไม่สนใจทั้งนั้น ขอให้เอฟซีทุกคนสบายใจได้ พร้อมสู้กันในศาลอุทธรณ์ แล้วก็ป้าไม่มีความคิดทิ้งลุงไปไหน เพราะป้ารู้ดีที่สุดว่าลุงพลไม่ได้ทำ ไม่ได้เข้าป่ายาง 9 โมง ไม่ได้อะไรทั้งนั้น เอฟซีทุกท่านไม่ต้องห่วงลุงพลจะท้อ เพราะมีป้าอยู่ข้าง ๆ ป้าจะไม่ทำให้ลุงเสียกำลังใจ

          พูดจบ เอฟซีลุงพลก็เข้ามาสวมกอดให้กำลังใจทั้ง 2 คนจนทั้งหมดหลั่งน้ำตาออกมา


เปิดสภาพเส้นผมน้องชมพู่ หลักฐานมัดตัวชิ้นสำคัญ


          ส่วนในรายการ โหนกระแส ก็มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว มีการเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ปู่มหามุนี แม่น้องชมพู่ ฯลฯ มาร่วมรายการด้วย ในตอนหนึ่ง พ.ต.อ. เผด็จ งามละม่อม รองผู้บังคับการปราบปราม ในฐานะเจ้าหน้าที่สืบสวนคดีน้องชมพู่ มีการพูดถึงประเด็นเส้นผม

          ทั้งนี้ เส้นผมที่เป็นหลักฐานมัดตัวลุงพลนั้น ลุงพลอ้างว่า ช่วงนั้นน้องชมพู่ก็ชอบไปเที่ยวไหนต่อไหนกับลุงพลและญาติคนอื่น ๆ จึงเป็นไปได้ที่เส้นผมจะตกที่รถของลุงพล หากแต่ว่า ตำรวจเอาแต่ค้นรถของลุงพล ไม่ค้นรถคนอื่น


          ด้าน พ.ต.อ. เผด็จ กล่าวว่า ในเรื่องของเส้นผมนั้น ตนมองว่าคนร้ายมีความเชื่อทางไสยศาสตร์ เส้นผมของคนเราสามารถหลุดร่วงได้ตามธรรมชาติได้อยู่แล้ว แต่เส้นผมของน้องชมพู่ที่เจอในรถลุงพล และเส้นผมที่เจอในจุดที่พบศพน้อง มีลักษณะเฉพาะ กล่าวคือ ในจุดพบศพน้องมีการตัดเส้นผมไปกระจุกหนึ่ง แล้วเศษในการตัดก็ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ เราเก็บมาได้ 50 เส้น ในการตัดนั้นคนร้ายได้ใช้มีดสับเส้นผม แต่ด้วยความที่สับบนดิน การสับครั้งแรกจะยังไม่ขาด จึงต้องสับครั้งที่ 2 สิ่งนี้กลายเป็นเอกลักษณ์ ผมคนร่วงจากธรรมชาติได้ แต่มันจะแตกต่างจากการถูกตัด เราจึงต้องไปหาว่ามันไปอยู่ที่อื่นไหม และมาพบที่รถนายไชย์พล

          ศาลระบุว่า ในรถพบผม 16 เส้น ทางกระบวนการเราต้องคัดแยกผมที่หลุดออกมาจากธรรมชาติกับผมที่ถูกตัด เพื่อพิสูจน์ มันมีรอยที่ถูกตัดตรงกับในจุดเกิดเหตุ สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของเส้นผมที่ตรวจเจอคือ จะมีรอยที่ขาด 1 จุด และมีรอยที่เหมือนถูกฟันแต่ไม่ขาดอีก 1 จุด รวม 2 จุด พบทั้งในรถนายไชย์พลและที่เกิดเหตุ

          นอกจากนี้ การเจอรองเท้ากับของเล่นในที่เกิดเหตุก็มีส่วนช่วยได้มาก เพราะถ้าน้องไปเอง ของเหล่านี้น่าจะถูกทิ้งกลางทาง แสดงว่าต้องมีอุ้มไปหรือยินยอมให้พาไปด้วย

จุดเริ่มต้นคดี น้องชมพู่


          หนุ่ม กรรชัย ถามตำรวจว่า ในมุมของตำรวจมองว่าจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ มาจากตรงไหน ทำไมต้องพาน้องไปข้างบน ตำรวจสรุปสำนวนยังไง ซึ่งตำรวจก็ตอบว่า เรื่องนี้อาจจะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวก็ว่าได้ เริ่มต้นคือ นายไชย์พลมีนัดไปส่งพระที่ต่างอำเภอ และมีเจตนาดีมารับน้องเพราะอยากไปเที่ยวด้วยกัน แต่เกิดเหตุไม่คาดฝัน อาจจะเกิดจากการที่น้องงอแง และลุงพลใจร้อน คุมสติตัวเองไม่ไหว จึงพาน้องไปทิ้งไว้ในป่า พอกลับมาจากการส่งพระ ก็เห็นคนตามหาน้องกันทั่ว สิ่งที่นายไชย์พลถามทุกคนคือ ทำไมแม่น้องชมพู่ต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย ทำไมต้องเรียกคนมาช่วยหาเยอะแยะ

          จากนั้นนายไชย์พลก็หายไปราว ๆ 2 ชั่วโมง ประมาณบ่าย 2 ถึง 4 โมงเย็น ส่วนคนอื่น ๆ ที่ตามหาเด็ก ก็มักจะไปกันเป็นกลุ่ม ป้องกันการหลงป่า กระทั่งมีพยานเห็นว่า นายไชย์พล เดินลงจากป่าตอน 4 โมงเย็นมาคนเดียว มันก็ไม่สมเหตุสมผลว่า ทำไมหายไปคนเดียว 2 ชั่วโมง ซึ่งทางตำรวจเชื่อว่า ในช่วงที่หายไปนั้น ลุงพลได้พาร่างน้องไปทิ้งไว้บนเขา โดยที่น้องมีชีวิตอยู่ ถ้าหากพากลับมาหาแม่ เรื่องก็จบ แต่เขาไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขาทำผิดไปแล้ว



          ในเรื่องของแรงจูงใจที่เป็นปริศนา ต้องบอกว่า เด็กอ่อนประมาณ 3 ขวบ เวลางอแงก็จะมีผู้ใหญ่บางคนจัดการอารมณ์ตัวเองไม่ได้ หงุดหงิด ไม่สามารถจัดการให้เด็กหยุดร้องได้ หรือจัดการตัวเองได้ ก็เผลอกระทำกับเด็กไป พอพลาดไปแล้ว วิธีการแก้ปัญหาของเขาจากเรื่องเล็กก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ ผมจึงบอกว่า น้ำผึ้งหยดเดียว แทนที่จะแก้ด้วยการเอามาคืน กลับเอาไปหลบไม่ให้ใครรู้

          สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตคือ การขาดน้ำ ขาดอาหาร ส่วนร่องรอยบาดแผลระบุไม่ได้ว่าถูกทำร้ายหรือไม่ เพราะมีส่วนเน่าช่วงปากและลำคอ ถ้าหากจะมีร่องรอยถูกทำร้ายก็น่าจะอยู่จุดนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ตำรวจเผยคดี ลุงพล น้องชมพู่ อาจเกิดจากน้ำผึ้งหยดเดียว แก้ผิดวิธี จนทำน้องตาย อัปเดตล่าสุด 21 ธันวาคม 2566 เวลา 17:01:54 185,789 อ่าน
TOP