ทหารพรานหญิงร้อง ถูก ส.อ. พยายามขืนใจ แต่ถูกบีบให้ลาออก เครียดทิ้ง จม. ลาโลก


           สิ้นศรัทธา อดีตทหารพรานหญิง ถูกรุ่นพี่บุกบ้านพักทหาร พยายามขืนใจ ร้องเรียนกลับถูกบีบให้ลาออกจากราชการ ส่วนคนทำได้เลื่อนขั้น สิ้นหวังจนทิ้งจดหมายลาตาย

ทหารพรานหญิงถูก สอ. พยายามขืนใจ

           วานนี้ (22 ธันวาคม 2566) เฟซบุ๊ก กันจอมพลัง ช่วยสู้ ของ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของทหารพรานหญิงจากชายแดนใต้ ซึ่งถูกทหารรุ่นพี่บุกเข้าบ้านพักในค่ายทหารตอนดึง และพยายามข่มขืนแต่ไม่สำเร็จ ทหารพรานหญิงต่อสู้จนหนีรอดมาได้ และมีการแจ้งความร้องเรียนกับผู้ใหญ่ในหน่วย แต่เรื่องกลับเงียบ บอกเป็นเรื่องส่วนตัว จากนั้นเมื่อร้องเรียนยังแอปฯ ของหน่วยงาน ในอีก 3 วันต่อมา กลับมีเอกสารมาถึงและบีบให้เธอต้องเซ็นลาออกจากราชการ เพราะผู้ใหญ่ไม่ปลื้ม ในขณะที่ผู้ก่อเหตุกลับได้เลื่อนยศ ทำให้เธอเครียดหนักจนทิ้งจดหมายลาตาย พยายามจะแขวนคอ แต่แฟนหนุ่มมาช่วยไว้ทัน

           สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธอรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งที่คอยปกป้องประเทศอยู่ชายแดนใต้มา 7 ปี ทำงานให้ผู้ใหญ่ทุกอย่าง แต่วันนี้เมื่อเธอถูกกระทำกลับไม่มีใครปกป้อง และเคยเห็นความดีที่เคยทำเลย

           ต่อมา กัน จอมพลัง พาอดีตทหารพรานหญิงรายดังกล่าว พร้อมนำเอกสารหลักฐานเป็นคลิปภาพและเเชตข้อความ มาร้องเรียนขอความเป็นธรรม โดยเปิดเผยว่า หลังจากเกิดเรื่องขึ้นที่บ้านพักใน จ.พิษณุโลก อดีตทหารพรานหญิงได้ร้องเรียนหน่วยงานต้นสังกัดแล้ว แต่ต้นสังกัดกลับบอกว่าเรื่องเกิดขึ้นในบ้านพัก เป็นเรื่องส่วนบุคคล หน่วยต้นสังกัดไม่เกี่ยว หลังจากนั้นจึงไปร้องเรียนกับหน่วยงานของคู่กรณี แต่เรื่องกลับเงียบ

           จนเมื่อเธอเข้าไปร้องเรียนผ่านแอปฯ ของหน่วยงาน แค่ 3 วันต่อมากลับมีหนังสือมาให้เซ็นลาออก ในขณะที่คู่กรณีได้รับการเลื่อนยศ จากสิบเอก เป็นจ่าสิบตรี
 
           ทั้งนี้ กัน จอมพลัง ระบุว่า ได้รับรายงานว่าไม่มีมีผู้ถูกกระทำแบบนี้แค่คนเดียว หน่วยกลัวเสียชื่อเสียง ผู้เสียหายถูกเซ็นใบลาออก แล้วผู้ก่อเหตุได้เซ็นใบลาออกแล้วหรือยัง บทลงโทษก็เบา

           วันนี้อยากให้กองทัพบกปกป้องชั้นผู้น้อย และความปลอดภัยของทหารหญิง และเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของหน่วยด้วย ต้องทำเป็นบรรทัดฐานที่ดีกับเรื่องแบบนี้ เเละเรื่องนี้ไม่ควรไกล่เกลี่ย เพราะไม่ใช่สามีภรรยากันและบุกมากระทำในยามวิกาล
 
ทหารพรานหญิงถูก สอ. พยายามขืนใจ

           ทางด้าน นางสาวชลลดา อายุ 28 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งป่วยเป็นโรคซึมเศร้าระยะรุนแรง หลังจากเข้ารับราชการที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.00 น. เธอได้วิดีโอคอลคุยกับแฟนที่ไปออกราชการ จากนั้นกลับมีเบอร์แปลกโทร. เข้ามาเยอะมาก ระหว่างนั้นได้ยินเสียงเหมือนคนมากระแทกประตู กลอนประตูรัว ๆ ด้วยความกลัว จึงวิ่งเข้าไปที่ห้องชั้นบน พยายามนั่งตั้งสติ และวิ่งลงไปในครัวเพื่อหยิบมีด

           ตอนนั้นถือมีดไปมือสั่นไป จะร้องไห้ เมื่อแหวกผ้าม่านก็ผงะเพราะเห็นประตูเปิดอ้า เธอตะโกนถามไปว่าใครมาทำอะไร แต่คู่กรณีไม่ตอบ ค่อย ๆ หันหน้ามาแสยะยิ้มให้ เธอเห็นว่าเป็นคนรู้จักก็สอบถามไปว่ามีอะไร ทางนั้นก็อ้างว่าแค่อยากมายินดีที่น้องได้คบกัน จะขอหอมและกอดเธอ เข้าอ้างว่าตัวเองจะย้ายหน่วยแล้ว

           ด้วยความที่เธอมีแฟนแล้ว มันก็ไม่ใช่เวลาจะมาทำเรื่องแบบนี้ตอนกลางคืน เธอคิดว่าอาการของเขาเมาหรืออาจจะแกล้งเมา แต่ยังมีสติครบถ้วน เธอจึงเดินไปกลางบ้าน เอามีดวางไว้ และหันไปดันเขาออกจากบ้าน แต่เขากลับเดินตามเข้ามาในบ้านแล้วไล่หอม ไล่กอด ดึงแขน ซึ่งน่าสะอิดสะเอียนมาก เธอจึงวิ่งสลัดตัวเข้าไปในครัว

           จากนั้นเธอพยายามเข้าไปหยิบมีด จี้อีกฝ่ายให้ออกจากบ้านไป แต่กลับถูกอีกฝ่ายคว้ามีดแล้วมาให้เธอถือ ท้าให้เธอแทงเขา สุดท้ายเธอจึงเอามีดไปวางไว้หลังครัว แล้ววิ่งออกจากบ้านไปตะโกนให้คนช่วย อีกฝ่ายจึงวิ่งไปนอกบ้าน เธอก็คิดว่าจบแล้วจึงโทร. ไปบอกให้แฟนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วปิดบ้าน กลับไปหลบที่ชั้นบน

           แต่คู่กรณียังขี่มอเตอร์ไซค์มาหน้าบ้าน กระหน่ำโทร. มาหาเธอ ตอนนั้นเธอกลัวมาก ได้แต่ขังตัวเองอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องนอน แต่ชายคนนี้ยังไม่ไป จนแฟนติดต่อรุ่นพี่อีกคนมาช่วยล็อกบ้าน ทำเหมือนเธอไม่อยู่ในบ้านแล้ว และทราบว่ารุ่นพี่คนนั้นเห็นว่าคู่กรณีนอนขวางอยู่หน้าบ้าน ราวจะขังไม่ให้เธอออกไปไหน
 
           ขณะเดียวกัน กัน จอมพลัง ยังได้เผยภาพจดหมายลาตาย ที่ผู้เสียหายเขียนไว้ ก่อนตัดสินใจแขวนคอแต่แฟนหนุ่มมาช่วยไว้ได้ เนื้อความในจดหมายขออโหสิกรรมจากผู้มีพระคุณและผู้บัญชาการ พี่ ๆ ที่คอยช่วยเหลือ พร้อมขอให้นำศพของตนตั้งบำเพ็ญกุศลใน จ.พิษณุโลก

           ใจความตอนหนึ่งระบุว่า "ในชีวิตรั้วทหารไม่มีธรรมให้กับข้าพเจ้า เพราะฉะนั้นข้าพเจ้ามิขอใช้ชีวิตในสังคมอุบาทว์นี้อีกต่อไปได้อีก ข้าพเจ้าขอลาจากวงจร หมดสิ้นความศรัทธาในผู้บังคับบัชญาทุกคน มิอาจทนเห็นได้อีกต่อไป ข้าพเจ้าขอไปตามทางของทำการอัตวินิบาตกรรมในครั้งนี้ เพื่อยุติทุกอย่างในชีวิตนี้ โลกทหารอันโหดร้าย ใจดำ ขาดสันติธรรม ข้าพเจ้าหมดสิ้นซึ่งแล้วความศรัทธา"

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ทหารพรานหญิงร้อง ถูก ส.อ. พยายามขืนใจ แต่ถูกบีบให้ลาออก เครียดทิ้ง จม. ลาโลก โพสต์เมื่อ 23 ธันวาคม 2566 เวลา 14:15:12 10,262 อ่าน
TOP
x close