สาวนักกินจุ เปิดเคล็ดลับเขมือบหนัก 10,000 แคลอรี แต่หุ่นยังฟิตเป๊ะ รับไม่ได้ออกกำลังกายหนัก แค่ต้องวางแผนและตั้งเป้าหมาย

ภาพจาก Instagram katinaeatskilos
วันที่ 22 ธันวาคม 2566 เว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ รายงานเรื่องราวของ คาทินา เดอ จาร์เน็ต นักกินจุสาววัย 32 ปี จากประเทศออสเตรเลีย ที่ออกมาเปิดเผยเคล็ดลับของเธอในการรักษาหุ่นสุดฟิตไว้ได้ แม้ว่าเธอจะเป็นสาวกินดุที่สามารถเขมือบอาหารจานยักษ์ทะลุ 10,000 แคลอรี ได้ในคราวเดียว และทำคอนเทนต์แนวท้ากินจุให้ชาวเน็ตได้ชมอย่างต่อเนื่องก็ตาม
ในขณะที่คนทั่วไป การจะกินอาหารปริมาณมากในครั้งเดียวนั้นเป็นเรื่องยาก และยากยิ่งกว่าในการรักษารูปร่างไว้ แต่สำหรับคาทินาซึ่งเป็นที่รู้จักบนโลกออนไลน์ในชื่อ Katina Eats Kilos และมีผู้ติดตามใน YouTube ถึง 689,000 ซับ สามารถกินอาหารได้ครั้งละ 2.2 กิโลกรัม ไม่ว่าจะเป็นพิซซ่า สเต๊ก เบอร์เกอร์ หรือแม้แต่คุกกี้ แต่ก็ยังคงรักษาหุ่นไว้ได้เป็นอย่างดี
![นักกินจุ นักกินจุ]()
ภาพจาก Instagram katinaeatskilos
ด้วยความสูง 157 เซนติเมตร เธอจำเป็นต้องฝึกฝนและทำให้มั่นใจว่าจะสามารถกินอาหารทั้งหมดได้โดยที่ไม่ทำอะไรเกินตัว คาทินายอมรับว่าเธอสนุกกับการเป็นคนตัวเล็กเช่นนี้ เพราะมันตลกดีตอนที่เธอเดินเข้าไป และได้เห็นสีหน้าช็อก ๆ และขนลุก ของคนอื่นตอนที่เธอสามารถกินอาหารทั้งหมดนั่นได้
ในฐานะนักกินจุ คาทินาเปิดใจว่าต่อให้เธอรักการกินแค่ไหน แต่การกินอาหารที่มีน้ำหนักมากกว่า 2.7 กิโลกรัมนั้น จะทำให้เธออึดอัดมาก ยิ่งเมื่อเป็นการกินแบบมีเวลาจำกัดแล้วก็ยิ่งเป็นเรื่องท้าทาย
"30 นาทีในการแข่งขัน คุณจะเริ่มเจ็บปวด ต่อให้นั่นเป็นอาหารที่คุณชอบ มันก็ไม่ได้มีรสชาติดีอีกต่อไปแล้ว" คาทินา เผย
แม้คนอื่น ๆ อาจคิดว่า การที่เธอกินจุขนาดนี้ จะต้องมีตารางการออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงและเข้มข้นเพื่อรักษารูปร่าง คาทินายอมรับว่าเธอไม่ได้ใช้เวลาอยู่ในยิมนานนัก และไม่ได้เปลี่ยนการกินอาหารก่อนแข่งขันด้วย แม้แต่ก่อนจะไปท้ากินจุ เธอก็ยังฟาดอาหารเช้ามื้อใหญ่หรือแม้แต่กินขนมเข้าไป
![นักกินจุ นักกินจุ]()
ภาพจาก Instagram katinaeatskilos
"ถ้าฉันหิวเกินไป ท้องไส้จะปั่นป่วนค่ะ แถมฉันก็จะอารมณ์ไม่ดีด้วย" คาทินา กล่าว
ในทางกลับกัน เพื่อที่จะรักษาสุขภาพและสมดุลของร่างกาย เธอมีแนวปฏิบัติที่ค่อนข้างง่ายในการดูแลตัวเอง นั่นก็คือการกินสลัดจานใหญ่ที่มีสารอาหารเข้มข้น เดินเยอะ ๆ และยกน้ำหนัก ซึ่งแม้ว่าน้ำหนักของเธออาจจะมีผันผวนบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ยังทำให้เธอรักษาหุ่นฟิต ๆ ไว้ได้
นอกจากนี้ หญิงสาวยังโฟกัสไปที่การนับแคลอรีต่อสัปดาห์
มากกว่าแคลอรีที่ได้รับต่อวัน โดยมีเป้าหมายเฉลี่ยวันละ 2,100 แคลอรี
ซึ่งเธอจะจัดแผนการกินเป็นระยะเวลา 7 วัน
เพื่อให้มั่นใจว่าแคลอรีที่ได้รับระหว่างการท้ากินจุนั้น
จะมาเป็นพลังงานให้เธอได้ตลอดทั้งสัปดาห์
![นักกินจุ นักกินจุ]()
ภาพจาก Instagram katinaeatskilos
ตามปกติเธอจะกินอาหาร 1 มื้อใหญ่ต่อวัน ในช่วงที่ไปท้ากินจุ โดยมักจะเป็นสลัดจานใหญ่ที่มีโปรตีนเน้น ๆ ตามด้วยการดื่มโซดาเยอะ ๆ เพื่อขยายกระเพาะของเธอ นอกจากนี้การรักษาความชุ่มชื้นให้ร่างกายก็เป็นสิ่งสำคัญ
คาทินาชี้ว่า เธอเป็นคนชอบยกน้ำหนัก และยังออกกำลังกายโดยเน้นกลุ่มกล้ามเนื้อต่าง ๆ วันละ 90 นาที โดยจะออกกำลังกายเพียง 5 วันต่อสัปดาห์ และพักผ่อนในวันหยุด ซึ่งแม้ว่าเธอจะไม่ได้ออกกำลังกายแบบหนักมาก แต่เธอก็ยังหาทางขยับร่างกายในทางอื่นแทน นั่นคือการตั้งเป้าเดินให้ได้วันละ 10,000 ก้าว หรืออาจจะมากถึง 20,000 ก้าว เมื่อต้องไปสำรวจสถานที่ใหม่ ๆ
นับว่าเป็นเคล็ดลับสำหรับสาวคนนี้ ที่แม้จะไม่ได้เน้นการออกกำลังกายในยิมนัก แต่การดูแลการกินและการขยับร่างกายในรูปแบบอื่นก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน นอกจากนี้ หญิงสาวยังชี้จุดสำคัญว่าสำหรับเธอแล้ว ไม่ได้มองการออกกำลังกายและการยกน้ำหนักว่าเป็นการลงโทษตัวเอง แต่เธอมองเป็นเหมือนรางวัล ที่เธอกินอาหารไปเพื่อจะได้นำมาใช้ออกกำลังกาย และเธอที่เคยเป็นนักเพาะกายมาก่อน ก็ยังชื่นชอบการยกน้ำหนักมาก ๆ ด้วย
![นักกินจุ นักกินจุ]()
ภาพจาก Instagram katinaeatskilos
ขอบคุณข้อมูลจาก New York Post

ภาพจาก Instagram katinaeatskilos
วันที่ 22 ธันวาคม 2566 เว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ รายงานเรื่องราวของ คาทินา เดอ จาร์เน็ต นักกินจุสาววัย 32 ปี จากประเทศออสเตรเลีย ที่ออกมาเปิดเผยเคล็ดลับของเธอในการรักษาหุ่นสุดฟิตไว้ได้ แม้ว่าเธอจะเป็นสาวกินดุที่สามารถเขมือบอาหารจานยักษ์ทะลุ 10,000 แคลอรี ได้ในคราวเดียว และทำคอนเทนต์แนวท้ากินจุให้ชาวเน็ตได้ชมอย่างต่อเนื่องก็ตาม
ในขณะที่คนทั่วไป การจะกินอาหารปริมาณมากในครั้งเดียวนั้นเป็นเรื่องยาก และยากยิ่งกว่าในการรักษารูปร่างไว้ แต่สำหรับคาทินาซึ่งเป็นที่รู้จักบนโลกออนไลน์ในชื่อ Katina Eats Kilos และมีผู้ติดตามใน YouTube ถึง 689,000 ซับ สามารถกินอาหารได้ครั้งละ 2.2 กิโลกรัม ไม่ว่าจะเป็นพิซซ่า สเต๊ก เบอร์เกอร์ หรือแม้แต่คุกกี้ แต่ก็ยังคงรักษาหุ่นไว้ได้เป็นอย่างดี

ภาพจาก Instagram katinaeatskilos
ในฐานะนักกินจุ คาทินาเปิดใจว่าต่อให้เธอรักการกินแค่ไหน แต่การกินอาหารที่มีน้ำหนักมากกว่า 2.7 กิโลกรัมนั้น จะทำให้เธออึดอัดมาก ยิ่งเมื่อเป็นการกินแบบมีเวลาจำกัดแล้วก็ยิ่งเป็นเรื่องท้าทาย
"30 นาทีในการแข่งขัน คุณจะเริ่มเจ็บปวด ต่อให้นั่นเป็นอาหารที่คุณชอบ มันก็ไม่ได้มีรสชาติดีอีกต่อไปแล้ว" คาทินา เผย
แม้คนอื่น ๆ อาจคิดว่า การที่เธอกินจุขนาดนี้ จะต้องมีตารางการออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงและเข้มข้นเพื่อรักษารูปร่าง คาทินายอมรับว่าเธอไม่ได้ใช้เวลาอยู่ในยิมนานนัก และไม่ได้เปลี่ยนการกินอาหารก่อนแข่งขันด้วย แม้แต่ก่อนจะไปท้ากินจุ เธอก็ยังฟาดอาหารเช้ามื้อใหญ่หรือแม้แต่กินขนมเข้าไป

ภาพจาก Instagram katinaeatskilos
"ถ้าฉันหิวเกินไป ท้องไส้จะปั่นป่วนค่ะ แถมฉันก็จะอารมณ์ไม่ดีด้วย" คาทินา กล่าว
ในทางกลับกัน เพื่อที่จะรักษาสุขภาพและสมดุลของร่างกาย เธอมีแนวปฏิบัติที่ค่อนข้างง่ายในการดูแลตัวเอง นั่นก็คือการกินสลัดจานใหญ่ที่มีสารอาหารเข้มข้น เดินเยอะ ๆ และยกน้ำหนัก ซึ่งแม้ว่าน้ำหนักของเธออาจจะมีผันผวนบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ยังทำให้เธอรักษาหุ่นฟิต ๆ ไว้ได้

ภาพจาก Instagram katinaeatskilos
ตามปกติเธอจะกินอาหาร 1 มื้อใหญ่ต่อวัน ในช่วงที่ไปท้ากินจุ โดยมักจะเป็นสลัดจานใหญ่ที่มีโปรตีนเน้น ๆ ตามด้วยการดื่มโซดาเยอะ ๆ เพื่อขยายกระเพาะของเธอ นอกจากนี้การรักษาความชุ่มชื้นให้ร่างกายก็เป็นสิ่งสำคัญ
คาทินาชี้ว่า เธอเป็นคนชอบยกน้ำหนัก และยังออกกำลังกายโดยเน้นกลุ่มกล้ามเนื้อต่าง ๆ วันละ 90 นาที โดยจะออกกำลังกายเพียง 5 วันต่อสัปดาห์ และพักผ่อนในวันหยุด ซึ่งแม้ว่าเธอจะไม่ได้ออกกำลังกายแบบหนักมาก แต่เธอก็ยังหาทางขยับร่างกายในทางอื่นแทน นั่นคือการตั้งเป้าเดินให้ได้วันละ 10,000 ก้าว หรืออาจจะมากถึง 20,000 ก้าว เมื่อต้องไปสำรวจสถานที่ใหม่ ๆ
นับว่าเป็นเคล็ดลับสำหรับสาวคนนี้ ที่แม้จะไม่ได้เน้นการออกกำลังกายในยิมนัก แต่การดูแลการกินและการขยับร่างกายในรูปแบบอื่นก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน นอกจากนี้ หญิงสาวยังชี้จุดสำคัญว่าสำหรับเธอแล้ว ไม่ได้มองการออกกำลังกายและการยกน้ำหนักว่าเป็นการลงโทษตัวเอง แต่เธอมองเป็นเหมือนรางวัล ที่เธอกินอาหารไปเพื่อจะได้นำมาใช้ออกกำลังกาย และเธอที่เคยเป็นนักเพาะกายมาก่อน ก็ยังชื่นชอบการยกน้ำหนักมาก ๆ ด้วย

ภาพจาก Instagram katinaeatskilos
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก New York Post