สาวตามหาโจร เพื่อมอบเงินให้ หลังโดนขโมยกระเป๋าตังค์ ทำให้เข้าใจ ดีลกับโจรง่ายกว่าดีลกับตำรวจ

         สาวประกาศตามหาโจรที่ขโมยกระเป๋าเงินไป เพื่อมอบเงินให้ หลังจากยอมแพ้ระบบราชการไทยหาหลักฐานให้ก็แล้ว ส่งเอกสารให้ก็แล้ว แจ้งความก็แล้ว แต่กลับโดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงกับเข้าใจว่าจุดนี้ สู้ดีลกับโจรง่ายกว่าดีลกับตำรวจ

         เวลาที่กระเป๋าสตางค์หาย สิ่งที่ร้อนใจที่สุดอาจจะไม่ใช่เงินสด แต่เป็นบัตรต่าง ๆ ที่อยู่ในนั้น ตั้งแต่บัตรเครดิต บัตรประชาชน ใบขับขี่ และกว่าจะไปติดต่อทำใหม่ก็ยุ่งยาก โดยเฉพาะการที่ต้องไปฝ่าอภิมหาขั้นตอนของระบบราชการ ที่อาจไม่ใช่แค่เสียเวลา แต่เสียกำลังใจคนที่เพิ่งสูญเสียของมีค่าไปหยก ๆ

         ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่ง ได้ออกมาเผยประสบการณ์กระเป๋าสตางค์หาย แต่สิ่งที่เธอทำนั้นไม่ใช่การประนามคนเอาเงินไป มิหนำซ้ำ เธอกลับขอให้โจรเอากระเป๋าเงินมาคืน แล้วจะมอบเงินให้อย่างงาม เพราะการที่เธอไปพึ่งตำรวจนั้น นอกจากจะพึ่งไม่ได้ ยังทำให้กำลังใจหดหายไปด้วย

         สาวคนนี้บอกว่า เธอทำงานด้านการช่วยเหลือสังคม เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2566 กระเป๋าสตางค์ของเธอหาย เธอจึงไปลงบันทึกประจำวันว่า กระเป๋าเงินหล่นหาย และขอหนังสือเพื่อไปยื่นขอดูกล้องวงจรปิดที่ร้าน จนพบว่ากระเป๋าเงินไม่ได้หล่น แต่มีคนขโมยกระเป๋าเงินของเธอไป

         ความพยายามของเธอไม่ลดละ เมื่อวันต่อมา เธอได้สวมบทนักสืบ ลงพื้นที่อีกครั้ง เพื่อไปดูว่ามุมจากกล้องวงจรปิดตรงไหนจะชัดที่สุด จากนั้นก็ไปแจ้งกับตำรวจ หากพบว่ามีหลักฐานอะไรเพิ่มเติมจะส่งให้ทางไลน์ตำรวจ

         ในวันที่ 19 ธันวาคม 2566 เธอพบอีกว่า มีการนำบัตรแรบบิทไปซื้อของ เธอจึงไปขอดูกล้องด้วยตัวเองจากร้าน เมื่อได้รูปคนทำมาก็ส่งไปให้ตำรวจ แต่ตำรวจกลับเงียบ

         วันที่ 20 ธันวาคม 2566 เธอได้ขอตำรวจธุรการให้ทำหนังสือส่งไปที่บริษัทที่คาดว่าคนร้ายน่าจะทำงานอยู่ เมื่อทำหนังสือเสร็จ เธอต้องตรวจเอกสารเอง ส่งเอกสารเอง และติดต่อบริษัทนั้นเอง แต่กลายเป็นว่าคนร้ายไม่ได้ทำงานที่นั่น ทำให้เรื่องนี้ต้องติดต่อไปถึงหัวหน้าตำรวจที่รับปากว่าอาทิตย์หน้าเรื่องจบแน่นอน และหัวหน้าตำรวจบอกว่ามีการสอบปากคำออนไลน์ได้

         วันที่ 25 ธันวาคม 2566 ตำรวจโทร. มาตอน 21.00 น. เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี จนเธอก็งงว่าเรื่องนี้ตำรวจต้องรู้ไม่ใช่เหรอ เธอถามกลับว่าจะสามารถเข้าแจ้งความวันไหนได้บ้าง ไปพรุ่งนี้ได้ไหม ตำรวจก็บอกว่าได้ ทำให้วันที่ 26 ธันวาคม เธอไป สน. เพื่อแจ้งความ แต่กลับพบว่าตำรวจไม่รับแจ้งความเพราะร้อยเวรที่ลงบันทึกประจำวันไม่อยู่ และให้มาใหม่อีกครั้งในวันที่ 27 ธันวาคม ตอน 20.00 น. เธอไป สน. ทั้งหมด 4 ครั้ง เจอร้อยเวรคนนี้แค่วันแรก จากนั้นก็โทร. หาแต่ไม่เคยติดเลย ส่วนเรื่องสอบปากคำออนไลน์นั้น สารวัตรบอกว่าไม่มี  เธอคุยกับตำรวจไป 7 คน ความคืบหน้ากว่า 10 วันยังคงเป็นบันทึกประจำวันว่ากระเป๋าสตางค์หล่นหาย ตำรวจก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่หาเพิ่มเติมได้นอกจากที่เธอส่งไปให้เอง