มหากาพย์ สาวโดนพรากแม่พรากลูกกับเด็กวัย 1 ขวบ หลังติด ตม. เกาหลี พูดเท่าไรก็ไม่รับฟัง


           สาวติด ตม. เกาหลี ทรมานใจ จากที่ตั้งใจจะพาลูกไปเคานต์ดาวน์กัน กลับเป็นวันที่ร้ายที่สุด ครอบครัวโดนจับแยก ลูกก็ร้อง แม่ก็ใจจะขาด พูดกับ ตม. เท่าไรก็ไม่ฟัง

ติด ตม. เกาหลี

           ตม. เกาหลีใต้ ขึ้นชื่อสุด ๆ ว่าเพ่งเล็งคนไทย และหลายต่อหลายครั้งก็มีประสบการณ์จากคนที่ติด ตม. เกาหลีและถูกส่งกลับไทย มาให้ได้ยินกันบ่อย ๆ ซึ่งล่าสุด 2 มกราคม 2566 สาวคนหนึ่งได้ออกมาเผยประสบการณ์สุดสยอง กับการติด ตม. เกาหลี แต่ครั้งนี้แย่ที่สุด เพราะเธอถูกพรากลูกพรากแม่

           ทั้งนี้ เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง ได้ออกมาเล่าประสบการณ์ติด ตม. เกาหลี ที่แย่ที่สุดในหัวอกคนเป็นแม่ ว่า เธอและครอบครัว ตั้งใจที่จะพาลูกไปเที่ยวที่เกาหลีใต้ในช่วงวันหยุดปีใหม่ เล่นหิมะและเคานต์ดาวน์ที่นั่น เธอทุ่มเงินค่าตั๋วเครื่องบินไปกว่า 60,000 บาท จองโรงแรมอีก 20,000 กว่าบาท ซื้อเสื้อผ้ากันหิมะอีก 40,000-50,000 บาท ตั้งใจว่าจะไปเที่ยว

           หลังจากที่เธอลง KETA มีการอนุมัติเรียบร้อยก่อน 24 ชั่วโมง เธอก็มั่นใจว่าน่าจะผ่านเข้าแน่นอนเพราะเธอเคยบินเข้า-ออกเกาหลีเป็นสิบรอบ วันก่อนบิน เธอก็มีการขอที่นั่งกว้างเพราะมีเด็ก เมื่อลูกเข้าไปในเกตก็พยายามให้ลูกเล่น เพื่อที่เวลาอยู่บนเครื่องลูกจะได้นอน ตอนขึ้นเครื่องก็ขึ้นเป็นคนสุดท้าย เมื่อเครื่องขึ้นปุ๊บให้ลูกกินนม เครื่องแลนดิ้งแล้วลูกจะได้ไม่หูอื้อ และพบว่าลูกตื่นเต้นมาก ๆ ไม่ยอมนอน เพิ่งจะมานอนช่วง 2-3 ชั่วโมงก่อนที่เครื่องจะลง

ติด ตม. เกาหลี

นาทีระทึก เข้า ตม. ทั้งบ้าน พ่อ-ลูก ผ่าน แต่แม่ไม่ผ่าน สู่การเข้าห้องเย็น ใจคิดถึงแต่ลูกอย่างเดียว


           เมื่อเครื่องลงตอนเวลา 23.10 น. เธอก็พาลูกไปเปลี่ยนแพทเพิร์สและเข้า ตม. พร้อมกันหมดทั้งครอบครัว โดยที่ทาง ตม. ให้สามีและลูกของเธอผ่าน ส่วนเธอนั้นไม่ผ่าน ตม.

           เมื่อถึงตอนที่สัมภาษณ์ เธอก็บอกว่าพาลูกกับสามีมาเคานต์ดาวน์ด้วยกัน ทาง ตม. ก็มีการพิมพ์เอกสารออกมาและให้เธอเซ็นชื่อเพื่ออนุญาติให้สัมภาษณ์เป็นภาษาไทย ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลา 07.10 น. เท่ากับว่าเธอรอมาแล้วกว่า 8 ชม.

           ด้านเจ้าหน้าที่ได้สัมภาษณ์เธอเป็นภาษาไทย โดยมีคนไทยที่แปลอยู่ในสาย มีการถามถึงครั้งสุดท้ายที่มา เธอก็บอกว่าจำไม่ได้ เพราะบินครั้งสุดท้ายเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว เมื่อตำรวจไม่พอใจกับคำตอบ ก็ไม่อนุญาตให้เธอเข้าประเทศ

           เธอจึงเขียนภาษาไทยและกดแปลภาษาเกาหลีให้ ตม. อ่าน แต่ทาง ตม. ก็ตอบปฏิเสธอย่างเดียว เธอรู้สึกไม่โอเคมาก ๆ เพราะลูกบินมาหลายชั่วโมง ไม่ได้นอน ไม่ได้อาบน้ำ และต้องมารอเธอที่ติด ตม. หลายชั่วโมง แทนที่จะได้กินข้าว อาบน้ำ พักผ่อน เธอกลับต้องมาอยู่ในห้องที่มีคนติด ตม. เหมือนกันกว่า 30-40 คน

ติด ตม. เกาหลี

นาทีปะทะกับเจ้าหน้าที่ โวยหนักต้องการให้กลับพร้อมกันทั้งครอบครัว แต่เจ้าหน้าที่ไม่มีใครรับฟัง


           จากนั้น เจ้าหน้าที่ก็บอกให้รอในห้องพักเพื่อรอเจ้าหน้าที่จากสายการบินมารับเพื่อส่งตัวกลับประเทศไทย ตอนนั้นเธอไม่พอใจอย่างมาก เพราะหากเธอไม่ได้เข้าประเทศ เธอก็จะกลับไทยพร้อมกับสามี จะให้ลูกวัย 1 ขวบไปเที่ยวโดยไม่มีแม่ไม่ได้ พาสปอร์ตของลูก เงิน ทั้งหมดก็อยู่ที่เธอ

           เมื่อเจ้าหน้าที่มารับ เธอก็พิมพ์ภาษาไทยแปลเป็นภาษาเกาหลี และอธิบายว่าลูกกับสามีรออยู่ที่ข้างหน้า ช่วยไปรับพวกเขามาให้หน่อย เพราะเธอจะกลับไทยพร้อมครอบครัว แต่เจ้าหน้าที่ก็ทำเป็นมึน เธอก็เลยโวยวาย เจ้าหน้าที่พาเธอเดินไปที่หนึ่ง เธอก็ไม่ยอมอีก และบอกว่าจะให้ลูกกับสามีกลับด้วย จะไม่กลับคนเดียว เลยเกิดการที่เธอปะทะกับเจ้าหน้าที่อีกคน จนเจ้าหน้าที่คนแรกมาบอกว่าคนนี้ไม่ใช่ผู้จัดการ

           เมื่อผู้จัดการมาถึง เธอก็บอกว่าต้องการให้ลูกและสามีกลับบ้านด้วยกัน และวิดีโอคอลหาสามีว่าอยู่ตรงไหน ทางผู้จัดการก็ช่วยประสานให้และบอกให้สามีและลูกไปรอที่หน้าเกต

ติด ตม. เกาหลี

ความทรมานเมื่ออยู่ข้างใน เจ้าหน้าที่ตะคอกให้กินข้าว โดนยึดพาสปอร์ต


           จากนั้น เจ้าหน้าที่ก็พาตัวเธอมาไว้ที่ห้องใต้ดิน และยึดพาสปอร์ตไว้ เธอไม่สามารถซื้ออะไรได้เลย ชีวิตเหมือนเป็นนักโทษ ในห้องนั้นมีคนประมาณ 30 คน แยกชาย-หญิง และเจ้าหน้าที่ให้เธอถือหน้าพาสปอร์ตที่ถ่ายเอกสารเอาไว้ เพื่อเอาไปแลกข้าว เจ้าหน้าที่ตะคอกบอกให้เธอไปแลกข้าว เธอก็บอกว่าไม่เอา ไม่กิน พอไม่กินก็มีคนมาเก็บไป

           ส่วนคนที่อยู่ในนั้นก็บอกให้เธอเขียนใบอุทธรณ์ เธอก็เลยเขียนไปส่ง และเจ้าหน้าที่บอกว่าให้รอผลพรุ่งนี้เช้า ทั้งที่เธอมีไฟล์ตบินตอน 17.30 น.

บทสรุปสุดท้าย สู้ถึงที่สุดจนได้เจอหน้าลูกหน้าสามี จากนี้ไม่เอาแล้วเที่ยวเกาหลี แบนทุกสิ่งถาวร


           จนเวลา 14.30 น. สามีได้บอกว่าเช็กอินไม่ได้ ทั้งที่เธอได้ไฟล์ตบินแล้ว เธอก็ไม่ยอมอีกจึงเดินไปหาเจ้าหน้าที่ กดแปลภาษาให้ฟัง แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่สนใจและตะโกนว่า ไม่ เธอก็เลยไปหาหัวหน้า และโวยวายว่าสามีและลูกไม่ได้เช็กอิน เจ้าหน้าที่ก็ถามว่า คุณต้องการกลับเมืองไทยใช่ไหม เธอก็บอกว่าใช่ เจ้าหน้าที่จึงถอนใบคำร้องอุทธรณ์ออกมาเพื่อให้เธอเซ็น

           ในส่วนของเคาน์เตอร์เช็กอินก็ไม่ฟัง ไม่คุย ไม่อะไรทั้งนั้น จนกระทั่งทางเคาน์เตอร์ได้ยินสายที่หัวหน้าที่เจ้าหน้าที่ไปคุย จึงทำให้สามีเช็กอินได้

           จนเวลา 16.00 น. หัวหน้าการบินก็มารับให้เธอไปที่เกต จนเธอได้เจอกับลูกและสามี ตอนนั้นรีบวิ่งสุด ๆ เพราะคิดถึงลูกมาก ตั้งใจว่าจะพาลูกมาเล่นหิมะ มามีความทรงจำดี ๆ แต่ต้องเจอกับอะไรก็ไม่รู้ และเมื่อขึ้นเครื่องบิน เธอก็ได้ไปนั่งแถวหลังสุด เจ้าหน้าที่ไม่คืนพาสปอร์ตให้ เมื่อมาถึงประเทศไทย เธอได้ออกเป็นคนสุดท้าย และพาเธอลงไปอีกทาง ทำประวัติเข้าประเทศ ก่อนที่จะรับกระเป๋าและกลับบ้าน

ติด ตม. เกาหลี

           นอกจากนี้ เธอยังได้เสริมว่า ก่อนหน้านี้เธอได้เจรจากับสายการบินว่าจะไม่ขอกลับไทย แต่จะขอไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นแทน เพราะคิดว่านั่งเครื่องมาตั้งนาน นั่งเครื่องอีก 2 ชั่วโมง 50 นาทีก็ถึงญี่ปุ่นแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอม และเธอต้องกลับไทย

           "บอกตรง ๆ เสียความรู้สึก หนักอก จุกอก โกรธแค้นสุด ๆ กับประเทศเกาหลี ไปหลายครั้งผ่านตลอด ครั้งนี้ไปกับลูกเล็กไม่ให้ผ่าน และครอบครัวเราต้องมาเจออะไรแบบนี้เลวร้ายมาก ไม่สามารถให้อภัยได้ แบนเกาหลี ตลอดชีวิตจนตาย

           ต่อไปนี้สินค้าอะไรที่มาจากเกาหลีเลิกซื้อ คนเกาหลีเข้ามาที่นี่ไม่สนใจและไม่ให้ค่า อาหารเกาหลีที่ว่าดีเลิกกินและบริโภค ศิลปินที่ชื่นชอบหนังและซีรีส์เลิกเสพ สินค้าเด็กและที่เคยซื้อใช้ทั้งบ้านเลิกซื้อ  

           ทำกับเราครั้งนี้ เราไม่โอเคสุด ๆ ทำร้ายจิตใจและความตั้งใจเรามากที่สุด เรายังถามกับตัวเองว่า เรื่องอะไรที่ต้องมาอยู่จุด ๆ นี้ กูทำผิดอะไร กูแค่จะพาลูกกู 1 ขวบไปสร้างประสบการณ์ดี ๆ ความทรงจำดี ๆ และยอมเสียเงินแพงกว่าปกติด้วย  เสียงร้องของลูกที่มันร้องหาแล้วแค่เดินผลักประตูออกไปแล้วก็ได้กอดกับลูกแล้วอะ"

           ล่าสุดพบว่า เรื่องนี้คดีพลิก เพราะมีคนไปสืบพบว่าในอดีตนั้น เธอเข้าออกเกาหลีใต้เป็นสิบครั้ง แต่ละครั้งอยู่ 90 วัน เกือบครบโควตา และเคยมี่โพสต์ที่เธอเป็นนายหน้าหาผีน้อยไปทำงาน รับหิ้วของเข้าเกาหลี

           อ่านเพิ่มเติม คดีพลิก สาวติด ตม. เกาหลี โดนพรากลูกพรากแม่ พบเป็นเอเจนท์หาผีน้อย โป๊ะแตกเพราะผัว !

ติด ตม. เกาหลี



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มหากาพย์ สาวโดนพรากแม่พรากลูกกับเด็กวัย 1 ขวบ หลังติด ตม. เกาหลี พูดเท่าไรก็ไม่รับฟัง อัปเดตล่าสุด 2 มกราคม 2567 เวลา 16:56:42 63,881 อ่าน
TOP
x close