สาวออกมาเผยประสบการ์ณติด ตม. เกาหลีใต้ โดนพรากลูกพรากแม่ สู้ยิบตาเพื่อให้ได้กลับไทยทั้งครอบครัว ก่อนที่คนจะขุดไปยันโพสต์ปี 2017 เคยเป็นเอเจนท์หาผีน้อยเกาหลี พลิกไม่รู้จะพลิกยังไง
จากกรณีที่สาวคนหนึ่ง ออกมาเผยประสบการณ์ติด ตม. เกาหลี ที่เธออ้างว่าลงเงินไปจำนวนมาก เพื่อพาลูกและสามีไปเที่ยวที่เกาหลีใต้ และกลายเป็นว่าทั้งครอบครัวมีเพียงเธอคนเดียวที่ไม่สามารถผ่าน ตม. เข้าไปได้ ต้องถูกส่งตัวกลับ นำไปส่มหากาพย์สู้ทุกทางเพื่อให้ลูกและสามีกลับพร้อมกัน พร้อมกับร่ายยาวโวยวาย ตม. จนถึงที่สุด
อ่านเพิ่มเติม มหากาพย์ สาวโดนพรากแม่พรากลูกกับเด็กวัย 1 ขวบ หลังติด ตม. เกาหลี พูดเท่าไรก็ไม่รับฟัง
แต่ล่าสุด เหมือนรถทัวร์จะได้ทีตีโค้ง จากที่จะไปลง ตม. เกาหลี ก็จะหันมาลงที่ตัวเธอแทน เพราะสามีของเธอได้โพสต์ภาพยืนยัน ถึงการไปเกาหลีนับสิบครั้ง และโชว์ตราปั๊มจาก ตม. แต่มีคนซูมสังเกตเห็นชัด ๆ เลยว่า การเข้า-ออก เกาหลีนั้น เป็นการอยู่แบบเต็มโควตา เช่นในปี 2019 ที่เข้าเกาหลีตั้งแต่เดือนมิถุนายน และออกจากเกาหลีเดือนกันยายน, เข้าเกาหลีเดือนตุลาคม ออกเดือนมกราคม, เข้าเกาหลีเดือนเมษายน ออกเดือนกรกฎาคม เรียกได้ว่าแต่ละครั้งที่เข้าออกนั้น แทบจะอยู่ที่เกาหลีครบทั้ง 90 วัน ทั้งสามีและภรรยา
ในตอนแรกเธอออกมาบอกว่า สาเหตุที่ไปอยู่ที่เกาหลีใต้ในแต่ละครั้งนาน
เพราะคุณแม่แต่งงานกับคนเกาหลี เลยไปหลายรอบ
และแต่ละรอบก็รับหิ้วของเป็นเรื่องปกติ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว
การหิ้วของโดยไม่เสียภาษี ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเป็นปกติ
นอกจากนี้ ยังมีคนไปขุดพบโพสต์ของเธอตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งเธอได้ประกาศตามหาผีน้อยเพื่อมาทำงานในร้านอาหารไทยอีสาน เงินเดือน 1.5 ล้านวอน หรือประมาณ 39,000 บาท โดยที่ร้านนั้นอยู่แทกู ย่านอุตสากรรมที่ขึ้นชื่อกันดีว่ามีคนไทยผีน้อยอยู่เป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังมีโพสต์ของเธออีกอันที่ประกาศรับหิ้วสินค้าจากไทยไปเกาหลี สินค้าจากเกาหลีกลับไทย ตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องประดับ ขนม รองเท้า สินค้าจิปาถะ ทอง ลอตเตอรี่ ของแห้ง ทองคำแท่ง โทรศัพท์ โน้ตบุ๊ก กล้องถ่ายรูปต่าง ๆ
หลังจากเรื่องนี้กลายเป็นโป๊ะแตกออกไปอย่างหนัก จนมีทัวร์เข้าไปลงที่ตัวเธออย่างหนัก และเธอได้ออกมาลบโพสต์ที่ตำหนิโวยวายการทำงานของ ตม. เกาหลีออกไป แต่ทัวร์ก็ยังไปลงที่โพสต์อื่น ๆ ของเธออีก หาว่าก่อนที่จะโทษตัวเอง ก็ลองโทษ ตม. ก่อน, จะลบโพสต์ทำไม กลับมาก่อนสิ หรือบางคนก็เอาโพสต์เดิมไปแปะไว้ตามคอมเมนต์เป็นอนุสรณ์ไว้ก็มี
จากกรณีที่สาวคนหนึ่ง ออกมาเผยประสบการณ์ติด ตม. เกาหลี ที่เธออ้างว่าลงเงินไปจำนวนมาก เพื่อพาลูกและสามีไปเที่ยวที่เกาหลีใต้ และกลายเป็นว่าทั้งครอบครัวมีเพียงเธอคนเดียวที่ไม่สามารถผ่าน ตม. เข้าไปได้ ต้องถูกส่งตัวกลับ นำไปส่มหากาพย์สู้ทุกทางเพื่อให้ลูกและสามีกลับพร้อมกัน พร้อมกับร่ายยาวโวยวาย ตม. จนถึงที่สุด
อ่านเพิ่มเติม มหากาพย์ สาวโดนพรากแม่พรากลูกกับเด็กวัย 1 ขวบ หลังติด ตม. เกาหลี พูดเท่าไรก็ไม่รับฟัง
แต่ล่าสุด เหมือนรถทัวร์จะได้ทีตีโค้ง จากที่จะไปลง ตม. เกาหลี ก็จะหันมาลงที่ตัวเธอแทน เพราะสามีของเธอได้โพสต์ภาพยืนยัน ถึงการไปเกาหลีนับสิบครั้ง และโชว์ตราปั๊มจาก ตม. แต่มีคนซูมสังเกตเห็นชัด ๆ เลยว่า การเข้า-ออก เกาหลีนั้น เป็นการอยู่แบบเต็มโควตา เช่นในปี 2019 ที่เข้าเกาหลีตั้งแต่เดือนมิถุนายน และออกจากเกาหลีเดือนกันยายน, เข้าเกาหลีเดือนตุลาคม ออกเดือนมกราคม, เข้าเกาหลีเดือนเมษายน ออกเดือนกรกฎาคม เรียกได้ว่าแต่ละครั้งที่เข้าออกนั้น แทบจะอยู่ที่เกาหลีครบทั้ง 90 วัน ทั้งสามีและภรรยา
นอกจากนี้ ยังมีคนไปขุดพบโพสต์ของเธอตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งเธอได้ประกาศตามหาผีน้อยเพื่อมาทำงานในร้านอาหารไทยอีสาน เงินเดือน 1.5 ล้านวอน หรือประมาณ 39,000 บาท โดยที่ร้านนั้นอยู่แทกู ย่านอุตสากรรมที่ขึ้นชื่อกันดีว่ามีคนไทยผีน้อยอยู่เป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังมีโพสต์ของเธออีกอันที่ประกาศรับหิ้วสินค้าจากไทยไปเกาหลี สินค้าจากเกาหลีกลับไทย ตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องประดับ ขนม รองเท้า สินค้าจิปาถะ ทอง ลอตเตอรี่ ของแห้ง ทองคำแท่ง โทรศัพท์ โน้ตบุ๊ก กล้องถ่ายรูปต่าง ๆ
หลังจากเรื่องนี้กลายเป็นโป๊ะแตกออกไปอย่างหนัก จนมีทัวร์เข้าไปลงที่ตัวเธออย่างหนัก และเธอได้ออกมาลบโพสต์ที่ตำหนิโวยวายการทำงานของ ตม. เกาหลีออกไป แต่ทัวร์ก็ยังไปลงที่โพสต์อื่น ๆ ของเธออีก หาว่าก่อนที่จะโทษตัวเอง ก็ลองโทษ ตม. ก่อน, จะลบโพสต์ทำไม กลับมาก่อนสิ หรือบางคนก็เอาโพสต์เดิมไปแปะไว้ตามคอมเมนต์เป็นอนุสรณ์ไว้ก็มี