เปิดชีวิต ลุงจบปริญญาเอก พลิกผันกลายเป็นคนเร่ร่อน ทั้งที่เคยทำงานได้เงินปีละ 4.8 ล้าน เผยจุดตกต่ำ ตอนนี้อยากกลับประเทศ ชาวเน็ตสะท้อนใจชะตากรรม
ภาพจาก wenxuecity.com
วันที่ 6 มกราคม 2567 เว็บไซต์ SHINE รายงานเรื่องราวของชายคนหนึ่ง ที่ชะตาชีวิตพลิกผัน จากบัณฑิตปริญญาเอกผู้มีหน้าที่การงานดี ถึงขั้นได้รับเงินปีละ 4.5-4.8 ล้านบาท แต่ปัจจุบันกลายมาเป็นคนเร่ร่อนไร้ทางไป ต้องอาศัยนอนตามท้องถนนในนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้เรื่องราวของเขากำลังตกเป็นที่สนใจ เมื่อมีบล็อกเกอร์รายหนึ่งนำคลิปของชายคนนี้มาเผยแพร่บนโลกออนไลน์
ในคลิปยาว 9 นาที 38 วินาที เผยให้เห็น ซุน เว่ยตง ชายวัย 54 ปี บอกเล่าให้บล็อกเกอร์ฟังว่า เขามาจากเมืองเจียงอิน มณฑลเจียงซู ประเทศจีน และใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐฯ นานกว่า 30 ปีแล้ว เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านฟิสิกส์ จากมหาวิทยาลัยฝูตาน ในจีน ก่อนจะมาศึกษาต่อจนคว้าปริญญาโทกับปริญญาเอกในสหรัฐฯ
ภาพจาก Weibo
ซุน เว่ยตง เผยว่า ตนเองเคยทำงานเป็นนักวิจัยอยู่ 2 ปี หลังเรียนจบปริญญาเอก จากนั้นก็กลายมาเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ในบริษัทย่าน Wall Street อีก 2 ปี โดยมีค่าตอบแทนปีละ 130,000-140,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4.5-4.8 ล้านบาท ตอนนี้มีสถานะเป็นพลเมืองอเมริกัน
อย่างไรก็ตาม ชีวิตของเขาพลิกผันกลายมาเป็นคนไร้บ้านในปี 2550 และย้ายไปอยู่ที่บรุกลิน ซึ่งตอนแรกเขาอาศัยนอนตามร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ในช่วงเย็น ก่อนจะออกมานอนตามท้องถนนในเวลาต่อมา
"ในช่วงฤดูร้อน ผมจะนอนบนม้านั่งริมถนน แต่ตอนนี้เป็นฤดูหนาว มันหนาวเกินไป ผมเลยต้องลงไปที่สถานีรถไฟใต้ดิน ผมมักจะกินขนมปังเป็นมื้อเช้าและกลางวัน และไม่ได้กินอะไรตอนเย็น" ซุน เว่ยตง กล่าว
ภาพจาก Weibo
ซุน เว่ยตง ยอมรับว่าชีวิตดำดิ่งสู่ตกต่ำระส่ำระส่ายในเวลาไม่นาน หลังการหย่าร้างอันแสนสาหัส เขาต้องเผชิญความยากลำบาก ในขณะที่ตัวเองเริ่มเกิดความหลงใหลในความเหงาและภาพลวงตา เขาไม่อาจแยกได้ว่าอะไรคือภาพลวงตา และความเป็นจริง
ก่อนหน้านี้ตำรวจเคยบอกให้เขาไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์แล้ว แต่เขาปฏิเสธเนื่องจากสถานสงเคราะห์เหล่านั้นอยู่ห่างไกล
เมื่อบล็อกเกอร์โน้มน้าวให้เขาไปหางาน ซุน เว่ยตง ก็ย้ำว่าอยากจะพักต่ออีกสักหลายเดือน แล้วจากนั้นก็จะได้รับการจ้างงานอย่างง่ายดาย
ภาพจาก Weibo
ทั้งนี้ หลังจากคลิปของ ซุน เว่ยตง ถูกโพสต์บนโลกออนไลน์
อดีตเพื่อนร่วมชั้นหลายคนก็จำเขาได้ ต่อมาทางสมาคมศิษย์เก่าฝูตานแห่งสหรัฐฯ
ในนิวยอร์ก ยังได้ออกแถลงการณ์ ยืนยันว่า ซุน เว่ยตง
เป็นศิษย์เก่าของสถาบันจริง
และขณะนี้มีการจัดตั้งทีมอาสาสมัครมาเพื่อช่วยเหลือเขาแล้ว
ภาพจาก Weibo
ทางสมาคมฯ เผยว่า ได้ไปเยี่ยมซุน เว่ยตง และย้ายเขาไปอยู่ยังที่พักชั่วคราวแล้วในวันต่อมา ด้วยความช่วยเหลือจากศิษย์เก่าคนอื่น ๆ และผู้คนจากเมืองเจียงอิน
สื่อท้องถิ่นเผยข้อมูลจากอดีตเพื่อนร่วมชั้นของ ซุน เว่ยตง ยืนยันว่าเขาเป็นนักเรียนที่โดดเด่น หลังจากเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมปลายชื่อดังที่สุดในเมืองเจียงอิน เพียงแค่ 1 ปี ก็สามารถเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยฝูตานได้ ในโครงการเด็กกิฟต์เมื่อปี 2528 จากนั้น ซุน เว่ยตง ก็ได้รับทุนไปเรียนต่อที่สหรัฐฯ
ภาพจาก Weibo
ทั้งนี้ สื่อท้องถิ่นชี้ว่า ซุน เว่ยตง มีความปรารถนาที่จะกลับมาประเทศจีน ขณะที่ชาวเน็ตหลายคนที่ได้อ่านเรื่องราวของเขา ต่างกล่าวว่ารู้สึกเสียดายที่คนมีการศึกษาดีเช่นนี้ กลายมาเป็นคนเร่ร่อน บางคนยังถกกันถึงต้นเหตุของหายนะในชีวิตเขา ตลอดจนเรื่องสุขภาพจิต
"ฉันสงสัยเหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่เรื่องราวของเขาทำให้ฉันนึกได้อีกครั้งว่าการเรียนรู้เชิงวิชาการเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ในการเติบโตตลอดชีวิตคนคนหนึ่ง" ชาวเน็ตรายหนึ่ง ระบุ ขณะที่อีกคนชี้ว่า "การมีความสามารถรอบด้าน รวมถึงความสามารถในการรับมือกับความล้มเหลว คือสิ่งที่สำคัญกว่า"
ขอบคุณข้อมูลจาก SHINE
ภาพจาก wenxuecity.com
วันที่ 6 มกราคม 2567 เว็บไซต์ SHINE รายงานเรื่องราวของชายคนหนึ่ง ที่ชะตาชีวิตพลิกผัน จากบัณฑิตปริญญาเอกผู้มีหน้าที่การงานดี ถึงขั้นได้รับเงินปีละ 4.5-4.8 ล้านบาท แต่ปัจจุบันกลายมาเป็นคนเร่ร่อนไร้ทางไป ต้องอาศัยนอนตามท้องถนนในนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้เรื่องราวของเขากำลังตกเป็นที่สนใจ เมื่อมีบล็อกเกอร์รายหนึ่งนำคลิปของชายคนนี้มาเผยแพร่บนโลกออนไลน์
ในคลิปยาว 9 นาที 38 วินาที เผยให้เห็น ซุน เว่ยตง ชายวัย 54 ปี บอกเล่าให้บล็อกเกอร์ฟังว่า เขามาจากเมืองเจียงอิน มณฑลเจียงซู ประเทศจีน และใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐฯ นานกว่า 30 ปีแล้ว เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านฟิสิกส์ จากมหาวิทยาลัยฝูตาน ในจีน ก่อนจะมาศึกษาต่อจนคว้าปริญญาโทกับปริญญาเอกในสหรัฐฯ
ภาพจาก Weibo
ซุน เว่ยตง เผยว่า ตนเองเคยทำงานเป็นนักวิจัยอยู่ 2 ปี หลังเรียนจบปริญญาเอก จากนั้นก็กลายมาเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ในบริษัทย่าน Wall Street อีก 2 ปี โดยมีค่าตอบแทนปีละ 130,000-140,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4.5-4.8 ล้านบาท ตอนนี้มีสถานะเป็นพลเมืองอเมริกัน
อย่างไรก็ตาม ชีวิตของเขาพลิกผันกลายมาเป็นคนไร้บ้านในปี 2550 และย้ายไปอยู่ที่บรุกลิน ซึ่งตอนแรกเขาอาศัยนอนตามร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ในช่วงเย็น ก่อนจะออกมานอนตามท้องถนนในเวลาต่อมา
"ในช่วงฤดูร้อน ผมจะนอนบนม้านั่งริมถนน แต่ตอนนี้เป็นฤดูหนาว มันหนาวเกินไป ผมเลยต้องลงไปที่สถานีรถไฟใต้ดิน ผมมักจะกินขนมปังเป็นมื้อเช้าและกลางวัน และไม่ได้กินอะไรตอนเย็น" ซุน เว่ยตง กล่าว
ภาพจาก Weibo
ซุน เว่ยตง ยอมรับว่าชีวิตดำดิ่งสู่ตกต่ำระส่ำระส่ายในเวลาไม่นาน หลังการหย่าร้างอันแสนสาหัส เขาต้องเผชิญความยากลำบาก ในขณะที่ตัวเองเริ่มเกิดความหลงใหลในความเหงาและภาพลวงตา เขาไม่อาจแยกได้ว่าอะไรคือภาพลวงตา และความเป็นจริง
ก่อนหน้านี้ตำรวจเคยบอกให้เขาไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์แล้ว แต่เขาปฏิเสธเนื่องจากสถานสงเคราะห์เหล่านั้นอยู่ห่างไกล
เมื่อบล็อกเกอร์โน้มน้าวให้เขาไปหางาน ซุน เว่ยตง ก็ย้ำว่าอยากจะพักต่ออีกสักหลายเดือน แล้วจากนั้นก็จะได้รับการจ้างงานอย่างง่ายดาย
ภาพจาก Weibo
ภาพจาก Weibo
ทางสมาคมฯ เผยว่า ได้ไปเยี่ยมซุน เว่ยตง และย้ายเขาไปอยู่ยังที่พักชั่วคราวแล้วในวันต่อมา ด้วยความช่วยเหลือจากศิษย์เก่าคนอื่น ๆ และผู้คนจากเมืองเจียงอิน
สื่อท้องถิ่นเผยข้อมูลจากอดีตเพื่อนร่วมชั้นของ ซุน เว่ยตง ยืนยันว่าเขาเป็นนักเรียนที่โดดเด่น หลังจากเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมปลายชื่อดังที่สุดในเมืองเจียงอิน เพียงแค่ 1 ปี ก็สามารถเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยฝูตานได้ ในโครงการเด็กกิฟต์เมื่อปี 2528 จากนั้น ซุน เว่ยตง ก็ได้รับทุนไปเรียนต่อที่สหรัฐฯ
ภาพจาก Weibo
ทั้งนี้ สื่อท้องถิ่นชี้ว่า ซุน เว่ยตง มีความปรารถนาที่จะกลับมาประเทศจีน ขณะที่ชาวเน็ตหลายคนที่ได้อ่านเรื่องราวของเขา ต่างกล่าวว่ารู้สึกเสียดายที่คนมีการศึกษาดีเช่นนี้ กลายมาเป็นคนเร่ร่อน บางคนยังถกกันถึงต้นเหตุของหายนะในชีวิตเขา ตลอดจนเรื่องสุขภาพจิต
"ฉันสงสัยเหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่เรื่องราวของเขาทำให้ฉันนึกได้อีกครั้งว่าการเรียนรู้เชิงวิชาการเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ในการเติบโตตลอดชีวิตคนคนหนึ่ง" ชาวเน็ตรายหนึ่ง ระบุ ขณะที่อีกคนชี้ว่า "การมีความสามารถรอบด้าน รวมถึงความสามารถในการรับมือกับความล้มเหลว คือสิ่งที่สำคัญกว่า"
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก SHINE