แชร์ประสบการณ์ งานสบาย รายได้ดี เงินเดือน 17,000 แทบไม่ต้องทำอะไร มีอยู่จริง !

          คำว่างานสบายรายได้ดี หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่ามีจริง เพราะความสบาย มันต้องแลกกับรายได้ที่ค่อนข้างน้อย ชีวิตไม่มีความสุข ถ้าหากอยากได้รายได้เยอะ ก็ต้องทำงานที่เพิ่มมากขึ้น
          จากนั้นเจ้าของโพสต์ก็เริ่มอธิบายนิสัยตัวเองว่า เป็นคนที่ไม่ได้อยากก้าวหน้า ไม่ได้อยากรวย อยากทำงานสบาย ๆ นั่งทำงานในห้องแอร์ งานไม่เยอะ รายได้ไม่เยอะ เน้นสบายเป็นหลัก ฉะนั้นงานที่เลือกคือ ต้องเน้นงานที่ไม่ค่อยมีลูกค้า เช่น ร้านหนังสือตามสาขาต่างจังหวัด ร้านรองเท้าในห้างต่างจังหวัด ซึ่งงานเหล่านี้บางทีจ้างสาขาละ 1 คน รายได้อยู่ที่ประมาณ 12,000 - 17,000 บาท ตนให้คำนิยามอาชีพนี้ว่า ยามในห้องแอร์ รายได้ดีกว่ายามทั่วไป แถมสบายกว่าด้วย ส่วนร้านแว่นก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่เข้าข่ายอาชีพประเภทนี้ แต่รับเฉพาะผู้หญิง

          ส่วนงานที่ห้ามทำเด็ดขาด ถ้ารักสบาย นั่นคือ งานตามร้านอาหารในห้าง หรืองานในร้านสะดวกซื้อ งานแบบนี้เหนื่อยมาก และรายได้ไม่ต่างจากงานยามในห้องแอร์ด้วยซ้ำ งานเหล่านั้นจะรีดพลังงานไปจนหมด พร้อมกับคำถามที่ว่า เกิดมาเพื่ออะไร

          กลับมาเรื่องงานยามในห้องแอร์ ส่วนมากคนจะอยู่กันนาน ไม่ค่อยออก เพราะติดความสบาย ไม่สามารถทำงานที่อื่นได้ บางคนเกษียณกับงานที่นี่ก็มี หรือถ้าลาออกจากงานเหล่านี้ ก็แทบเป็นการลาออกครั้งสุดท้ายในชีวิต

          อย่างไรก็ตาม งานยามในห้องแอร์ ใช่ว่าจะหาสมัครกันได้ง่าย ๆ เพราะตำแหน่งว่างน้อย คนไม่ค่อยลาออก บางคนพอแม่ทำงานส่งลูกเรียนจบ ก็ให้ลูกมาสมัครต่อ หรือถ้ามีตำแหน่งก็จะรีบเรียกญาติมาสมัคร จึงไม่ค่อยเจอใครเปิดรับ

          นอกจากนี้ เจ้าของเรื่องยังบอกว่า เคยคุยกับลูกค้าบางคนที่ทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราว ต่อสัญญาทุก 1 ปี ได้เงินน้อยกว่าตนอีก ไม่ถึง 1 หมื่นบาท แถมงานลำบากกว่าด้วย แต่หลายคนก็เลือกทำ เพราะพ่อแม่เขาภูมิใจที่ลูกทำงานในหน่วยราชการ มันเป็นเรื่องที่ประเมินด้วยตัวเลขไม่ได้ และเป็นความสุขของใครความสุขของมัน เราก็เจอจุดที่สบายใจแล้ว ลูกค้าก็พบพื้นที่ที่เขาสบายใจแล้วเช่นกัน

          ด้านชาวเน็ตอ่านแล้วก็ยอมรับว่า เจ้าของเรื่องเขียนได้ดีมาก ๆ สมกับที่ทำงานร้านหนังสือ แนะนำคนได้ดีกว่าไลฟ์โค้ชหลายคน แน่วแน่ในสิ่งที่อยากเป็น ไม่ต้องทะเยอทะยานไปเหมือนคนอื่น ชีวิตใครชีวิตมัน ไม่มีการตัดสินชีวิตของใคร

          ทว่าก็มีคนมองว่า ถ้ามีคนคิดแนวนี้เยอะไม่ดีแน่นอน ซึ่งก็มีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ฝั่งที่ไม่เห็นด้วยมองว่า สังคมต้องมีความหลากหลายถึงจะสมดุล ถ้าสมมติทุกคนอยากเป็นผู้บริหารกันหมด แล้วใครจะเป็นพนักงาน และการที่เจ้าของโพสต์คิดแบบนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดเลย

          มีอีกมุมหนึ่งที่มีคนมองว่า ถ้ามีเทคโนโลยีใหม่ คนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มแรกที่โดนดิสรัปชั่นหรือการตกงาน เพราะพนักงานเหล่านี้ไม่จำเป็นอีกต่อไป