เจ้าชายอับดุล มาทีน เสร็จสิ้นพิธีฉลองเสกสมรส อานิชา อิซา เผยภาพเคียงคู่กันมาตั้งแต่วัยเยาว์ สู่คู่ครองชีวิตเคียงข้างกันโดยสมบูรณ์แบบ
ภาพจาก Instagram tmski
เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2567 เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า พระราชพิธีฉลองเสกสมรสระหว่าง เจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งราชวงศ์บรูไน และ อานิชา อิซา คาเลบิก พระชายา ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการและเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ ภายหลังจากมีพระราชพิธีเสกสมรส ไปเมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา โดยพระราชพิธีทั้งหมดจัดขึ้นตามธรรมเนียมทั้งทางราชประเพณีและทางศาสนาเป็นระยะเวลา 10 วัน นับตั้งแต่วันที่ 7-16 มกราคม 2567
โดยสมเด็จพระราชาธิบดี สุลต่าน ฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ และสมเด็จพระราชินีซาเลฮา ทรงเป็นประธานในพระราชพิธีพระราชทานฉลองเสกสมรส ซึ่งจัดขึ้นที่พระราชวังอิสตานา นูรุล อิมาน อันกว้างใหญ่ ในโอกาสนี้ มีสมาชิกราชวงศ์จากต่างแดน อาทิ ราชวงศ์จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน และภูฏาน รวมทั้งผู้นำรัฐบาลและแขกผู้มีเกียรติจากเอเชีย และตะวันออกกลางเข้าร่วม
ภาพจาก Instagram tmski
เจ้าชายมาทีน ทรงสวมชุดพิธีการ ในขณะที่อานิชา อิซา สวมชุดยาวสีขาวงดงาม ประดับอัญมณีและเครื่องเพชรเปล่งประกาย พร้อมด้วยผ้าคลุมศีรษะ และมงกุฎเพชร ภายหลังจากเสร็จสิ้นพิธีภายใน ทั้งสองได้ปรากฏตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกในฐานะคู่สมรสโดยสมบูรณ์ โดยได้ขึ้นรถ Rolls-Royce แบบเปิดประทุนเคลื่อนขบวนแห่ผ่านเมืองหลวงบันดาร์เสรีเบกาวัน ต่อหน้าฝูงชนจำนวนหลายพันที่ไปยืนเฝ้ารอชื่นชมตลอดเส้นทาง
เจ้าชายมาทีน ทรงได้โพสต์คลิปวิดีโอทางอินสตาแกรมเผยให้เห็นบรรยากาศพระราชพิธีสุดยิ่งใหญ่ พร้อมทั้งภาพคู่ของพระองค์และพระชายา ซึ่งพบเจอกันมาตั้งแต่สมัยเป็นวัยเยาว์ และได้นั่งเคียงคู่กันตั้งแต่วันนั้น จนมาสู่วันที่ได้กลายเป็นคู่ครองในชีวิตในวันนี้
ภาพจาก Instagram tmski
เจ้าชายมาทีน ทรงระบุว่าแคปชั่นในโพสต์ว่า "ขอบคุณสำหรับการร่วมเฉลิมฉลองในวันพิเศษของเรา มันมีความหมายมากสำหรับเรา"
ส่วนตัวอานิชา หลังจบการศึกษาจาก The University of Bath ประเทศอังกฤษ ก็ได้ดำเนินธุรกิจร่วมกับเพื่อน และอยู่ในแวดวงสังคมชั้นสูง เพียบพร้อมด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างาม ก่อนหน้านี้ เธอและเจ้าชายมาทีนได้คบหากันมาหลายปี แต่ไม่มีการเปิดเผยสู่สาธารณะมากนัก จนกระทั่งมีประกาศพิธีเสกสมรสขึ้นในที่สุด
ภาพจาก Instagram tmski
ภาพจาก Instagram tmski
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก South China Morning Post, People, Daily Mail