พ่ออาสากู้ภัยวัย 13 เผยลูกบอกรัก ก่อนถูกคนเมาชน เศร้าความฝันลูกอยู่แค่เอื้อม

          พ่อน้องทู อาสากู้ภัยวัย 13 เผยลูกชายมาบอกรัก ก่อนเกิดเหตุสลด ไปเข้าฝันพี่ที่ทำงานด้วยกัน กู้ภัยจุกอกเด็กอนาคตไกลต้องตาย เพราะถูกคนเมาชน

          คืบหน้าวันที่ 20 มกราคม 2567 โหนกระแส รายงานว่า พ่อของน้องทู ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 18.30 น. ลูกชายได้มาบอกรักพ่อ ซึ่งตนก็คิดว่าเป็นแค่การบอกรักทุกวันปกติ เพราะตนอยู่กับลูกตลอด ก่อนเกิดเหตุลูกชายที่อาบน้ำเสร็จเดินมาบอกให้ตนช่วยหวีผมให้หน่อย อยากจะหล่อ ตอนนั้นตนหวีผมไปทางซ้ายให้ แต่ย่าแย้งว่าให้หวีขวาขึ้น ลูกชายจึงให้ตนหวีตามที่ย่าบอก

          ทั้งนี้ พ่อไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น อีกไม่กี่เดือนลูกก็จะขึ้น ม.1 ซึ่งทางโรงเรียนก็อยากให้ลูกเป็นนักกีฬาพายเรือ รวมถึงการพากย์เรือซึ่งเป็นความฝันของลูกชาย

 
          ยอมรับว่าตอนที่มีคนโทร. มาแจ้งว่าลูกถูกรถชน ตนยังคิดว่าเป็นแค่แผลถลอก เมื่อรู้เรื่องตนก็รีบไปยังจุดเกิดเหตุทันที เห็นว่ามีรถยนต์จอดอยู่จึงรีบไปหาร่างน้องก่อน เพราะหาไม่เจอในตอนแรก เพิ่งมาทราบว่าร่างน้องกระเด็นออกมา จนตอนนี้ลูกชายยังไม่ได้เข้าฝันตน แต่ไปเข้าฝันพี่ที่น้องทำงานด้วย ตอนนี้อยากบอกลูกว่ารักลูกมาก ไม่อยากให้ลูกมีห่วง ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี

          ด้าน อาสาสมัครกู้ภัยกล่าวว่า ตนฝันเห็นน้องทูเดินวนไปวนมาจนตนสะดุ้งตื่นและหลับไปอีกรอบก็ฝันเหมือนเดิมอีกครั้ง มั่นใจว่าน้องมาขอให้ช่วยเหลือ เพราะคงไม่รู้ว่าจะไปยังไง ยังเด็กอยู่ด้วย จึงคิดว่าต้องรีบไปเชิญดวงวิญญาณน้องกลับมา


          ขณะที่รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ทางช่อง 3 ได้เปิดภาพวงจรปิดจากนาทีเกิดเหตุ ตอนรถฟอร์ดสีส้ม จอดเสียอยู่เลนขวาสุดโดยมี น้องทู ยืนโบกรถไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน แต่จู่ ๆ ก็มีรถเก๋งฮอนด้าแอคคอร์ด สีขาว ขับชนท้ายรถฟอร์ดสีส้ม จนไปชนร่างน้องกระเด็นข้ามไปอีกฝั่ง ทำให้รถเบนซ์ที่ขับสวนมาเบรกไม่ทัน ชนและทับร่างของน้อง เสียชีวิต
 
          ทั้งนี้ พบว่าคนขับรถฮอนด้าแอคคอร์ด เป็นชายค่อนข้างมีอายุ อยู่ในสภาพเดินเซ คล้ายคนเมา มีกลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้ง แต่เจ้าตัวไม่ยอมเป่าเครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์ ได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระแทก กู้ภัยจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล
 
          โดย นายณัฐวุฒิ จันทร์คง อาสาสมัครกู้ภัยที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตนรู้สึกจุกอยู่ในอก ความฝันของน้องทูคือการได้ทำงานเป็นอาสากู้ภัยแบบเต็มตัว ส่วนคนขับรถฮอนด้าแอคคอร์ดนั้นตนเห็นว่ามีอาการมึนเมา กลิ่นค่อนข้างชัดเจน ที่โรงพยาบาลยังกวักมือเรียกตน 3-4 รอบ แล้วพูดประมาณว่า ผมชนเหรอ ชนผมอะไร ถนนโล่งนะ ผมไม่ได้ชน และจะไม่ยอมให้เจาะเลือดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ จนตำรวจบอกว่าถ้าไม่ยอมเจาะก็จะฝากขังเลย จึงยอมให้เจาะ

          ขณะที่ พันตำรวจเอก พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผู้กำกับการ สภ.รัตนาธิเบศร์ เผยว่า ทางตำรวจได้ส่งตัวชายขับรถฮอนด้าแอคคอร์ดไปตรวจแอลกอฮอล์ที่โรงพยาบาลแล้ว ต้องรอผล 7 วัน ระหว่างนี้จะทำงานส่วนอื่น ๆ ก่อนเพื่อแจ้งข้อหา ส่วนคนขับรถเบนซ์ ยังไม่แจ้งข้อหา เพราะเป็นเหตุสุดวิสัย ตำรวจได้เรียกสอบปากคำในฐานะพยานแล้ว

ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเด่นเย็นนี้, โหนกระแส