แม่สุดห่วง ได้ยินเสียงกรีดร้องตอนลูกทำการบ้าน แอบดูยิ่งช็อก เจอลูกทำท่าแปลกพิลึก งานนี้ปรึกษาครูด่วน ไขปริศนากระจ่าง ความจริงที่มองข้าม
ไม่ว่าพ่อแม่คนไหนก็คงรู้สึกกังวล เมื่ออยู่ ๆ ก็พบว่าลูกแสดงพฤติกรรมแปลก ๆ ที่ชวนให้ห่วงไม่ได้ว่า เกิดอะไรผิดปกติกับลูกขึ้นกันแน่ แม่ชาวจีนรายหนึ่งก็เช่นกัน เธอรู้สึกกังวลสุด ๆ เมื่อพบว่าลูกสาวมักส่งเสียงกรีดร้องดังมากจากห้องเสมอ ทุกครั้งที่ทำการบ้าน แถมยังล็อกห้องไว้ไม่ให้ใครเข้าไป จนแม่ต้องหาทางแอบดู แล้วก็ต้องช็อกยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้เห็นภาพของลูกสาวในห้อง
จากรายงานของเว็บไซต์ Phu Nu & Phap Luat คุณแม่ชาวจีนรายนี้เล่าลงในกลุ่มผู้ปกครองว่า ลูกสาวเรียนอยู่ชั้น ป.1 ทุกครั้งที่ลูกทำการบ้าน เธอมักจะได้ยินเสียงร้องโหยหวนอยู่เสมอ ไม่รู้ว่าลูกสาวมีปัญหาอะไรกันแน่ แถมลูกยังมักจะล็อกห้องตอนทำการบ้านด้วย
ดังนั้นเย็นวันหนึ่งเธอจึงแอบเข้าไปในห้อง เพื่อจะสังเกตพฤติกรรมของลูกสาว แล้วก็ต้องช็อกเมื่อเห็นว่า แทนที่ลูกจะนั่งทำการบ้านเหมือนเด็กทั่วไป ลูกสาวของเธอกลับขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ เท้าอีกข้างวางไว้บนโต๊ะ ในขณะที่ก้มตัวลงมาเขียนสมุดการบ้านด้วยท่าทีจริงจังและตั้งใจมาก
ท่าทีประหลาดของลูกสาว ทำให้แม่กังวลว่าเป็นผลจากการสอนที่โรงเรียน หรือลูกถูกเพื่อนรังแกหรือไม่ วันรุ่งขึ้นเมื่อจึงรีบไปโรงเรียนเพื่อพูดคุยกับคุณครูของลูกสาว แต่คุณครูยืนยันว่า เด็กหญิงเรียนดี มีคะแนนระดับท็อปเสมอ เมื่อลองให้คุณครูตรวจดูสมุดการบ้านของลูกสาว ก็พบว่าเด็กหญิงทำออกมาได้ปกติ ลายมือเป็นระเบียบเรียบร้อย เห็นได้ชัดว่าลูกขยันและตั้งใจเรียนมาก
เห็นแบบนี้คุณแม่ก็ยิ่งงงหนัก จึงเล่าเรื่องพฤติกรรมแปลก ๆ ของลูกสาวให้ครูฟัง เมื่อฟังแล้วครูก็สับสนเช่นกัน และตกลงที่จะช่วยสังเกตดูพฤติกรรมของเด็กหญิงขณะอยู่ที่โรงเรียนด้วย ว่าจะมีท่าทีแปลก ๆ เหมือนตอนอยู่บ้านหรือไม่
เมื่อผ่านไป 1 สัปดาห์
ครูที่สังเกตดูการเรียนของเด็กหญิงในห้องอยู่ตลอด
ก็ได้นัดพบกับผู้ปกครองอีกครั้ง ยืนยันว่าเด็กหญิงสนใจการเรียนมาก
และมักจะเข้าร่วมการพูดคุยเกี่ยวกับบทเรียน ไม่มีอะไรผิดปกติทั้งนั้น
ซึ่งนั่นทำให้ทุกคนยังคงไม่รู้คำตอบว่า
เหตุใดเด็กหญิงจึงมีท่าทีเช่นนั้นตอนทำการบ้านที่บ้าน
แต่ในที่สุด ครูก็นึกถึงความเป็นไปได้หนึ่งขึ้นมา เธอจึงไปดูที่นั่งของเด็กหญิงในห้องเรียน และพบว่าในคลิปที่แม่ถ่ายมาจากบ้านนั้น สภาพของโต๊ะเก้าอี้มีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง และพบว่าปัญหาที่แท้จริงอยู่ที่ท่านั่งของเด็ก
กลายเป็นว่าสาเหตุที่เด็กยกเท้ามาวางไว้บนโต๊ะ เพราะเก้าอี้ที่บ้านไม่เหมือนกับที่โรงเรียน ทั้งไม่แข็งแรงพอ นั่งแล้วอึดอัด แถมไม่มีที่วางแขน ทำให้เด็กหญิงต้องทำท่าแปลก ๆ เพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย
เมื่อกลับไปบ้าน แม่ได้พูดคุยกับลูกสาว ซึ่งลูกสาวก็บอกว่าอยากจะได้เก้าอี้ที่เหมาะกับตัวเองให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้มีสมาธิทำการบ้าน และนั่นทำให้พ่อกับแม่รู้สึกเสียใจ ที่เข้าใจลูกสาวผิดและไม่เคยใส่ใจความต้องการของลูกสาวมาก่อน จนลูกสาวรู้สึกไม่สบายตัวตอนทำการบ้าน
ในที่สุดพ่อแม่ก็ซื้อเก้าอี้ตัวใหม่ให้ตามที่ลูกสาวอยากได้ นับจากนั้นเด็กหญิงก็สามารถอ่านหนังสือและทำการบ้านได้อย่างแฮปปี้ ไม่ต้องเมื่อยตัวอีกแล้ว
เหตุการณ์ครั้งนี้กลายมาเป็นเรื่องเตือนใจผู้ปกครอง ให้ใช้เวลาใส่ใจลูกและสนใจความต้องการของพวกเขาให้มากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจส่งผลต่อพัฒนาการของลูก แม้แต่การเลือกโต๊ะและเก้าอี้ก็มีความสำคัญมากเช่นกัน เพราะหากท่าทางการนั่งของเด็กไม่เหมาะสม ก็อาจส่งผลต่อท่าทางและร่างกายของเด็กได้
ขอบคุณข้อมูลจาก Phu Nu & Phap Luat
ไม่ว่าพ่อแม่คนไหนก็คงรู้สึกกังวล เมื่ออยู่ ๆ ก็พบว่าลูกแสดงพฤติกรรมแปลก ๆ ที่ชวนให้ห่วงไม่ได้ว่า เกิดอะไรผิดปกติกับลูกขึ้นกันแน่ แม่ชาวจีนรายหนึ่งก็เช่นกัน เธอรู้สึกกังวลสุด ๆ เมื่อพบว่าลูกสาวมักส่งเสียงกรีดร้องดังมากจากห้องเสมอ ทุกครั้งที่ทำการบ้าน แถมยังล็อกห้องไว้ไม่ให้ใครเข้าไป จนแม่ต้องหาทางแอบดู แล้วก็ต้องช็อกยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้เห็นภาพของลูกสาวในห้อง
จากรายงานของเว็บไซต์ Phu Nu & Phap Luat คุณแม่ชาวจีนรายนี้เล่าลงในกลุ่มผู้ปกครองว่า ลูกสาวเรียนอยู่ชั้น ป.1 ทุกครั้งที่ลูกทำการบ้าน เธอมักจะได้ยินเสียงร้องโหยหวนอยู่เสมอ ไม่รู้ว่าลูกสาวมีปัญหาอะไรกันแน่ แถมลูกยังมักจะล็อกห้องตอนทำการบ้านด้วย
ดังนั้นเย็นวันหนึ่งเธอจึงแอบเข้าไปในห้อง เพื่อจะสังเกตพฤติกรรมของลูกสาว แล้วก็ต้องช็อกเมื่อเห็นว่า แทนที่ลูกจะนั่งทำการบ้านเหมือนเด็กทั่วไป ลูกสาวของเธอกลับขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ เท้าอีกข้างวางไว้บนโต๊ะ ในขณะที่ก้มตัวลงมาเขียนสมุดการบ้านด้วยท่าทีจริงจังและตั้งใจมาก
ท่าทีประหลาดของลูกสาว ทำให้แม่กังวลว่าเป็นผลจากการสอนที่โรงเรียน หรือลูกถูกเพื่อนรังแกหรือไม่ วันรุ่งขึ้นเมื่อจึงรีบไปโรงเรียนเพื่อพูดคุยกับคุณครูของลูกสาว แต่คุณครูยืนยันว่า เด็กหญิงเรียนดี มีคะแนนระดับท็อปเสมอ เมื่อลองให้คุณครูตรวจดูสมุดการบ้านของลูกสาว ก็พบว่าเด็กหญิงทำออกมาได้ปกติ ลายมือเป็นระเบียบเรียบร้อย เห็นได้ชัดว่าลูกขยันและตั้งใจเรียนมาก
เห็นแบบนี้คุณแม่ก็ยิ่งงงหนัก จึงเล่าเรื่องพฤติกรรมแปลก ๆ ของลูกสาวให้ครูฟัง เมื่อฟังแล้วครูก็สับสนเช่นกัน และตกลงที่จะช่วยสังเกตดูพฤติกรรมของเด็กหญิงขณะอยู่ที่โรงเรียนด้วย ว่าจะมีท่าทีแปลก ๆ เหมือนตอนอยู่บ้านหรือไม่
แต่ในที่สุด ครูก็นึกถึงความเป็นไปได้หนึ่งขึ้นมา เธอจึงไปดูที่นั่งของเด็กหญิงในห้องเรียน และพบว่าในคลิปที่แม่ถ่ายมาจากบ้านนั้น สภาพของโต๊ะเก้าอี้มีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง และพบว่าปัญหาที่แท้จริงอยู่ที่ท่านั่งของเด็ก
กลายเป็นว่าสาเหตุที่เด็กยกเท้ามาวางไว้บนโต๊ะ เพราะเก้าอี้ที่บ้านไม่เหมือนกับที่โรงเรียน ทั้งไม่แข็งแรงพอ นั่งแล้วอึดอัด แถมไม่มีที่วางแขน ทำให้เด็กหญิงต้องทำท่าแปลก ๆ เพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย
เมื่อกลับไปบ้าน แม่ได้พูดคุยกับลูกสาว ซึ่งลูกสาวก็บอกว่าอยากจะได้เก้าอี้ที่เหมาะกับตัวเองให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้มีสมาธิทำการบ้าน และนั่นทำให้พ่อกับแม่รู้สึกเสียใจ ที่เข้าใจลูกสาวผิดและไม่เคยใส่ใจความต้องการของลูกสาวมาก่อน จนลูกสาวรู้สึกไม่สบายตัวตอนทำการบ้าน
ในที่สุดพ่อแม่ก็ซื้อเก้าอี้ตัวใหม่ให้ตามที่ลูกสาวอยากได้ นับจากนั้นเด็กหญิงก็สามารถอ่านหนังสือและทำการบ้านได้อย่างแฮปปี้ ไม่ต้องเมื่อยตัวอีกแล้ว
เหตุการณ์ครั้งนี้กลายมาเป็นเรื่องเตือนใจผู้ปกครอง ให้ใช้เวลาใส่ใจลูกและสนใจความต้องการของพวกเขาให้มากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจส่งผลต่อพัฒนาการของลูก แม้แต่การเลือกโต๊ะและเก้าอี้ก็มีความสำคัญมากเช่นกัน เพราะหากท่าทางการนั่งของเด็กไม่เหมาะสม ก็อาจส่งผลต่อท่าทางและร่างกายของเด็กได้
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Phu Nu & Phap Luat
