TangBadVoice นักร้องดัง เล่าชีวิตวัยเด็ก คิดว่าที่บ้านไม่รวยมาตลอด ก่อนได้รู้คุณปู่คือเจ้าของพัดลมฮาตาริ เป็นทายาทธุรกิจหมื่นล้าน
![อากงจุน]( "อากงจุน")
ภาพจาก instagram tangtawanwad_
เรียกว่าเป็นศิลปินรุ่นใหม่ที่มีผลงานอย่างต่อเนื่องสำหรับ TangBadVoice หรือ ตั้ง ตะวันวาด วนวิทย์ ก่อนที่จะมีคนสังเกตว่า จากภาพของ อากงจุน หรือ จุน วนวิทย์ เจ้าของบริษัทพัดลมฮาตาริ ที่บริจาคเงิน 900 ล้านบาทให้มูลนิธิรามาธิบดี เมื่อปี 2565 นั้น ปรากฏว่ามี ตั้ง ปรากฏร่วมเฟรมด้วย เนื่องจากที่จริงแล้วเขานั้นเป็นหลานอีกคนหนึ่งของเจ้าของบริษัทฮาตาริ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 TangBadVoice เปิดใจกับรายการ ริมเบียง Podcast Ep.2 จากช่องยูบทูบ 4 MILLION ตอน "Tangbadvoice" ทายาทหมื่นล้าน สู่เส้นทางความฝันที่สร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง โดยช่วงหนึ่ง ตั้ง เล่าถึงแง่มุมที่ตนเองในตอนเด็ก ครั้งได้ไปบ้านปู่ครั้งแรกก็ตกใจกับความยิ่งใหญ่ เพราะเพิ่งจะรู้ตัวว่าคุณปู่เป็นเจ้าของธุรกิจระดับประเทศ
เมื่อถามว่าจริง ๆ แล้วเป็นอะไรกับฮาตาริ ตั้ง เล่าว่า จริง ๆ ตนถือว่าเป็นหลาน คุณปู่เป็นเจ้าของ ให้จินตนาการ อากง คือ นักธุรกิจคนจีนที่อยู่ไทย ส่วนพ่อนั้นมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบอื่น พ่อกับแม่ของตนจึงไม่ได้มีส่วนในการทำธุรกิจนี้ กว่าจะรู้ว่าคนครอบครัวทำธุรกิจฮาตาริ ก็ประมาณ 4-5 ขวบแล้ว
ทั้งนี้ ปู่มีลูก 4 คน พี่น้องทุกคนก็ทำธุรกิจฮาตาริหมด ยกเว้นพ่อของตน ซึ่งพ่อของตนเป็นนักแปลหนังสือศาสนาและปรัชญา เป็นคนเดียวในตระกูลที่ไม่ได้ทำธุรกิจกับครอบครัวเลย เช่นเดียวกับตนเองที่มีวันนี้ก็มาจากที่ต่อสู้มาด้วยตัวเองตลอด การเลี้ยงดูของพ่อแม่นั้น ห่างไกลจากคำว่าสปอยล์ลูกมาก เป็นประมาณว่าตนอยากได้อะไรก็ต้องไปทำมา
จุดเริ่มต้นที่พ่อนั้นออกจากกรุงเทพฯ มาอยู่เชียงใหม่ ตอนแรกพ่อได้มาทำงานให้กับนิตยสาร ก่อนจะมาคบหากับแม่ จึงตัดสินใจจะอยู่ที่เชียงใหม่ถาวรแล้วทิ้งที่บ้านเลย มาเริ่มจาก 0 และแทบไม่มีเงินเลย
ตอนเด็ก ตนจำได้ว่า แม่จะทำไข่พะโล้หม้อใหญ่ ๆ หม้อหนึ่ง และจะมีกล้วยน้ำว้าอยู่เสมอ ตนก็ใช้ชีวิตอยู่กินมาแบบนี้่ คือเดินไปตักไข่พะโล้ กับกินกล้วยทุกมื้อ ช่วงเช้าแม่จะซื้ออย่างอื่นมาให้กินบ้าง เช่น ปลาท่องโก๋ ก็เข้าใจว่าที่บ้านคือประมาณนี้
จนประมาณ 4 ขวบ แม่บอกว่าจะพาไปเจอปู่ พอบินไปกรุงเทพฯ เดินเข้าบ้าน แบบอึ้ง นี่บ้านปู่เหรอ จึงถามแม่ว่าปู่ของตั้งทำอะไรอะ ก่อนจะรู้ว่าปู่ทำพัดลมฮาตาริ ตอนนั้น จำได้ว่าหลานทุกคนมานั่งที่โต๊ะอาหาร เป็นโต๊ะหมุนแบบจีน ๆ นั่งกินข้าวพร้อมกัน ซึ่งตนยังเข้ากับญาติไม่ค่อยได้ ฟีลแบบไม่รู้จะเชื่อมต่อกับไลฟ์สไตล์เขายังไง พวกเขาดู UBC แต่ตนยังดีดลูกแก้วอยู่ที่บ้าน ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าพวกเขาคุยเรื่องอะไรกัน
ภาพจาก instagram tangtawanwad_
เรียกว่าเป็นศิลปินรุ่นใหม่ที่มีผลงานอย่างต่อเนื่องสำหรับ TangBadVoice หรือ ตั้ง ตะวันวาด วนวิทย์ ก่อนที่จะมีคนสังเกตว่า จากภาพของ อากงจุน หรือ จุน วนวิทย์ เจ้าของบริษัทพัดลมฮาตาริ ที่บริจาคเงิน 900 ล้านบาทให้มูลนิธิรามาธิบดี เมื่อปี 2565 นั้น ปรากฏว่ามี ตั้ง ปรากฏร่วมเฟรมด้วย เนื่องจากที่จริงแล้วเขานั้นเป็นหลานอีกคนหนึ่งของเจ้าของบริษัทฮาตาริ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 TangBadVoice เปิดใจกับรายการ ริมเบียง Podcast Ep.2 จากช่องยูบทูบ 4 MILLION ตอน "Tangbadvoice" ทายาทหมื่นล้าน สู่เส้นทางความฝันที่สร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง โดยช่วงหนึ่ง ตั้ง เล่าถึงแง่มุมที่ตนเองในตอนเด็ก ครั้งได้ไปบ้านปู่ครั้งแรกก็ตกใจกับความยิ่งใหญ่ เพราะเพิ่งจะรู้ตัวว่าคุณปู่เป็นเจ้าของธุรกิจระดับประเทศ
เมื่อถามว่าจริง ๆ แล้วเป็นอะไรกับฮาตาริ ตั้ง เล่าว่า จริง ๆ ตนถือว่าเป็นหลาน คุณปู่เป็นเจ้าของ ให้จินตนาการ อากง คือ นักธุรกิจคนจีนที่อยู่ไทย ส่วนพ่อนั้นมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบอื่น พ่อกับแม่ของตนจึงไม่ได้มีส่วนในการทำธุรกิจนี้ กว่าจะรู้ว่าคนครอบครัวทำธุรกิจฮาตาริ ก็ประมาณ 4-5 ขวบแล้ว
ทั้งนี้ ปู่มีลูก 4 คน พี่น้องทุกคนก็ทำธุรกิจฮาตาริหมด ยกเว้นพ่อของตน ซึ่งพ่อของตนเป็นนักแปลหนังสือศาสนาและปรัชญา เป็นคนเดียวในตระกูลที่ไม่ได้ทำธุรกิจกับครอบครัวเลย เช่นเดียวกับตนเองที่มีวันนี้ก็มาจากที่ต่อสู้มาด้วยตัวเองตลอด การเลี้ยงดูของพ่อแม่นั้น ห่างไกลจากคำว่าสปอยล์ลูกมาก เป็นประมาณว่าตนอยากได้อะไรก็ต้องไปทำมา
จุดเริ่มต้นที่พ่อนั้นออกจากกรุงเทพฯ มาอยู่เชียงใหม่ ตอนแรกพ่อได้มาทำงานให้กับนิตยสาร ก่อนจะมาคบหากับแม่ จึงตัดสินใจจะอยู่ที่เชียงใหม่ถาวรแล้วทิ้งที่บ้านเลย มาเริ่มจาก 0 และแทบไม่มีเงินเลย
ตอนเด็ก ตนจำได้ว่า แม่จะทำไข่พะโล้หม้อใหญ่ ๆ หม้อหนึ่ง และจะมีกล้วยน้ำว้าอยู่เสมอ ตนก็ใช้ชีวิตอยู่กินมาแบบนี้่ คือเดินไปตักไข่พะโล้ กับกินกล้วยทุกมื้อ ช่วงเช้าแม่จะซื้ออย่างอื่นมาให้กินบ้าง เช่น ปลาท่องโก๋ ก็เข้าใจว่าที่บ้านคือประมาณนี้
จนประมาณ 4 ขวบ แม่บอกว่าจะพาไปเจอปู่ พอบินไปกรุงเทพฯ เดินเข้าบ้าน แบบอึ้ง นี่บ้านปู่เหรอ จึงถามแม่ว่าปู่ของตั้งทำอะไรอะ ก่อนจะรู้ว่าปู่ทำพัดลมฮาตาริ ตอนนั้น จำได้ว่าหลานทุกคนมานั่งที่โต๊ะอาหาร เป็นโต๊ะหมุนแบบจีน ๆ นั่งกินข้าวพร้อมกัน ซึ่งตนยังเข้ากับญาติไม่ค่อยได้ ฟีลแบบไม่รู้จะเชื่อมต่อกับไลฟ์สไตล์เขายังไง พวกเขาดู UBC แต่ตนยังดีดลูกแก้วอยู่ที่บ้าน ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าพวกเขาคุยเรื่องอะไรกัน
ภาพที่จำได้คือ บนโต๊ะอาหารมีเมนูหมูที่อาม่าทำ ซึ่งน่ากินมาก
แต่ตนไม่กล้ากิน กลัวว่ามันจะหมด เพราะเราชินกับการใช้ชีวิตที่บ้านว่า
ถ้าของกินหมดก็คือหมด นั่งดูหลาน ๆ ตักไปเกือบหมด อาม่า
จึงหยิบชิ้นสุดท้ายในจานให้ตั้งกิน
ตั้งจึงบอกว่าถ้าให้ชิ้นนี้กับตั้งหมูมันก็จะหมดจานเลยนะ ปรากฏว่า อาม่า
ก็เรียกให้นำมาเติมให้ใหม่ นาทีนั้นรู้สึกแปลกใจมาก ถึงขั้นเทียบว่า
เราไม่ได้นั่งอยู่บ้านอาม่า แต่นั่งอยู่ฮอกวอตส์ ที่อาหารงอกเองขึ้นมาได้
ซึ่งตนก็ไม่ได้ชินกับสไลฟ์สไตล์แบบนี้
