สะพรึง คนไข้ปากบวมหลังเที่ยวพื้นที่ป่า นึกว่าเริม ที่แท้มีหนอน 3 ตัวอยู่ในนั้น หมอคีบออกมาตัวอย่างใหญ่ ชี้เป็นเคสหายาก
![สะพรึง ชายปากบวมหลังเที่ยวป่า]( "สะพรึง ชายปากบวมหลังเที่ยวป่า")
ภาพจาก 馬偕醫院
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เว็บไซต์ ctinews.com รายงานเคสสะพรึงของชายไต้หวัน อายุ 33 ปี ซึ่งเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศเปรู แต่หลังกลับมาไต้หวันได้ 2 สัปดาห์ก็เริ่มเกิดอาการผิดปกติ ริมฝีปากบวมเจ่อ จึงไปรับการตรวจที่คลินิกผิวหนังและได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเริม แต่รักษาไปได้ครึ่งเดือนอาการก็ไม่ดีขึ้น สุดท้ายเมื่อย้ายมาตรวจที่โรงพยาบาลอื่นจึงพบว่าแท้จริงแล้ว อาการบวมที่ริมฝีปากนั้นเป็นเพราะมีหนอนแมลง 3 ตัว เติบโตอยู่ในนั้น !
รายงานเผยว่า นายเฉิน เดินทางไปเปรูเมื่อกลางเดือนตุลาคม 2566 และพักอยู่ในพื้นที่ป่าดิบชื้นของมาชูพิกชู จนเมื่อเขากลับมาไต้หวันช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ก็พบว่ามีริมฝีปากของเขามีอาการบวมเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่เมื่อผ่านไป 2 สัปดาห์ ริมฝีปากของเขาก็บวมใหญ่ขึ้นและมีอาการเจ็บ
![สะพรึง ชายปากบวมหลังเที่ยวป่า]( "สะพรึง ชายปากบวมหลังเที่ยวป่า")
ภาพจาก 馬偕醫院
นายเฉินตัดสินใจไปคลินิกผิวหนัง และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเริม แต่ใช้ยาอยู่ระยะหนึ่งอาการก็ไม่ดีขึ้น จนกระทั่งเขาถูกส่งตัวมายังแผนกทันตกรรมของโรงพยาบาลเมคเคย์ เมมโมเรียล จึงได้พบความจริงสุดสะพรึงที่ซ่อนอยู่
คุณหมอหลิวฉงจี ผู้อำนวยการแผนกทันตกรรมของโรงพยาบาลดังกล่าว เผยว่า อาการระยะแรกของนายเฉินนั้นคล้ายกับรอยแมลงกัดทั่วไป ตุ่มเล็ก ๆ นั้นทำให้ง่ายที่จะสับสนว่าเป็นโรคเริม แต่นายเฉินเล่าว่าตอนเขามองกระจก กลับสังเกตเหมือนมีบางสิ่งขยับได้ และยังมีรอยแดง 3 จุดที่ริมฝีปาก จนเมื่อแผลมีสารคัดหลั่งไหลซึมออกมา จึงพบว่าแท้จริงแล้วมีไข่ของแมลงหายากอยู่ในนั้น ที่ฟักจนเป็นตัวอ่อน แพทย์ใช้เวลาไม่นานก็สามารถผ่าตัดนำหนอนแมลงทั้ง 3 ตัวออกมาจากริมฝีปากได้สำเร็จ
ทั้งนี้ คุณหมอหลิวฉงจีเผยว่า เคสพบตัวอ่อนแมลงในคนนั้นถือว่าหาพบได้ยากในไต้หวัน ก่อนหน้านี้มีเพียง 2 เคสที่เจอบนหนังศีรษะเท่านั้น เคสนี้จึงเป็นครั้งแรกที่เขาเคยเห็นเช่นกัน เดิมทีแพทย์จะนำหนอนออกมาในคลินิกผู้ป่วยนอก แต่คนไข้ทนไม่ไหว จึงต้องเปลี่ยนมาใช้วิธีการวางยาสลบในห้องผ่าตัด ก่อนผ่าตัดนำหนอนออกมาได้ 3 ตัว จากนั้นนายเฉินนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 1 คืน ก็สามารถกลับบ้านได้
สำหรับหนอนที่นำออกมานั้น มีการส่งไปตรวจทางพยาธิวิทยา และได้รับการระบุจากศาสตราจารย์เสี่ยวซูเฟิง จากห้องปฏิบัติการภาควิชากีฏวิทยา มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน ว่าเป็นตัวอ่อนของแมลง horse botfly ซึ่งหาได้ยากในไต้หวัน
ด้านคุณหมอหวงเหว่ยซิน แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ของโรงพยาบาลเมคเคย์ เมมโมเรียล เผยว่าแมลงดังกล่าวมักอยู่พื้นที่อเมริกากลางและอเมริกาใต้ จากเม็กซิโก ไปยังอาร์เจนตินา และทางตอนเหนือของชิลี ทั่วไปอาศัยอยู่ในเขตป่าร้อนชื้น แมลงดังกล่าวมักวางไข่ในท้องของสัตว์ขาปล้องอย่างเช่นยุง เมื่อยุงกัดโฮสต์ ไข่แมลงก็จะเข้าไปในบาดแผลด้วย และฟักเป็นตัวอ่อนในอุณหภูมิร่างกายโฮสต์ เนื่องจากแผลมักไม่เจ็บปวดจึงตรวจพบได้ยาก แต่ตราบเท่าที่กำจัดตัวอ่อนออกได้หมด แผลก็มักหายได้โดยมีภาวะแทรกซ้อนเพียงเล็กน้อย
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าพื้นที่เสี่ยงควรสวมเสื้อผ้าแขนขายาว สวมหมวกเพื่อให้ปกป้องคอและหนังศีรษะ อย่าใช้น้ำหอมหรือน้ำยาระงับกลิ่นกาย และให้ทายากันยุงบริเวณผิวหนังที่ไม่มีเสื้อผ้าปกปิด และเมื่อเดินทางกลับมาแล้วพบแผลคล้ายยุงกัดที่ยังไม่หาย ควรมาพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาโดยเร็วพร้อมแจ้งประวัติการเดินทางด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก ctinews.com, mnews.tw
ภาพจาก 馬偕醫院
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เว็บไซต์ ctinews.com รายงานเคสสะพรึงของชายไต้หวัน อายุ 33 ปี ซึ่งเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศเปรู แต่หลังกลับมาไต้หวันได้ 2 สัปดาห์ก็เริ่มเกิดอาการผิดปกติ ริมฝีปากบวมเจ่อ จึงไปรับการตรวจที่คลินิกผิวหนังและได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเริม แต่รักษาไปได้ครึ่งเดือนอาการก็ไม่ดีขึ้น สุดท้ายเมื่อย้ายมาตรวจที่โรงพยาบาลอื่นจึงพบว่าแท้จริงแล้ว อาการบวมที่ริมฝีปากนั้นเป็นเพราะมีหนอนแมลง 3 ตัว เติบโตอยู่ในนั้น !
รายงานเผยว่า นายเฉิน เดินทางไปเปรูเมื่อกลางเดือนตุลาคม 2566 และพักอยู่ในพื้นที่ป่าดิบชื้นของมาชูพิกชู จนเมื่อเขากลับมาไต้หวันช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ก็พบว่ามีริมฝีปากของเขามีอาการบวมเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่เมื่อผ่านไป 2 สัปดาห์ ริมฝีปากของเขาก็บวมใหญ่ขึ้นและมีอาการเจ็บ
ภาพจาก 馬偕醫院
นายเฉินตัดสินใจไปคลินิกผิวหนัง และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเริม แต่ใช้ยาอยู่ระยะหนึ่งอาการก็ไม่ดีขึ้น จนกระทั่งเขาถูกส่งตัวมายังแผนกทันตกรรมของโรงพยาบาลเมคเคย์ เมมโมเรียล จึงได้พบความจริงสุดสะพรึงที่ซ่อนอยู่
คุณหมอหลิวฉงจี ผู้อำนวยการแผนกทันตกรรมของโรงพยาบาลดังกล่าว เผยว่า อาการระยะแรกของนายเฉินนั้นคล้ายกับรอยแมลงกัดทั่วไป ตุ่มเล็ก ๆ นั้นทำให้ง่ายที่จะสับสนว่าเป็นโรคเริม แต่นายเฉินเล่าว่าตอนเขามองกระจก กลับสังเกตเหมือนมีบางสิ่งขยับได้ และยังมีรอยแดง 3 จุดที่ริมฝีปาก จนเมื่อแผลมีสารคัดหลั่งไหลซึมออกมา จึงพบว่าแท้จริงแล้วมีไข่ของแมลงหายากอยู่ในนั้น ที่ฟักจนเป็นตัวอ่อน แพทย์ใช้เวลาไม่นานก็สามารถผ่าตัดนำหนอนแมลงทั้ง 3 ตัวออกมาจากริมฝีปากได้สำเร็จ
ทั้งนี้ คุณหมอหลิวฉงจีเผยว่า เคสพบตัวอ่อนแมลงในคนนั้นถือว่าหาพบได้ยากในไต้หวัน ก่อนหน้านี้มีเพียง 2 เคสที่เจอบนหนังศีรษะเท่านั้น เคสนี้จึงเป็นครั้งแรกที่เขาเคยเห็นเช่นกัน เดิมทีแพทย์จะนำหนอนออกมาในคลินิกผู้ป่วยนอก แต่คนไข้ทนไม่ไหว จึงต้องเปลี่ยนมาใช้วิธีการวางยาสลบในห้องผ่าตัด ก่อนผ่าตัดนำหนอนออกมาได้ 3 ตัว จากนั้นนายเฉินนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 1 คืน ก็สามารถกลับบ้านได้
สำหรับหนอนที่นำออกมานั้น มีการส่งไปตรวจทางพยาธิวิทยา และได้รับการระบุจากศาสตราจารย์เสี่ยวซูเฟิง จากห้องปฏิบัติการภาควิชากีฏวิทยา มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน ว่าเป็นตัวอ่อนของแมลง horse botfly ซึ่งหาได้ยากในไต้หวัน
ด้านคุณหมอหวงเหว่ยซิน แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ของโรงพยาบาลเมคเคย์ เมมโมเรียล เผยว่าแมลงดังกล่าวมักอยู่พื้นที่อเมริกากลางและอเมริกาใต้ จากเม็กซิโก ไปยังอาร์เจนตินา และทางตอนเหนือของชิลี ทั่วไปอาศัยอยู่ในเขตป่าร้อนชื้น แมลงดังกล่าวมักวางไข่ในท้องของสัตว์ขาปล้องอย่างเช่นยุง เมื่อยุงกัดโฮสต์ ไข่แมลงก็จะเข้าไปในบาดแผลด้วย และฟักเป็นตัวอ่อนในอุณหภูมิร่างกายโฮสต์ เนื่องจากแผลมักไม่เจ็บปวดจึงตรวจพบได้ยาก แต่ตราบเท่าที่กำจัดตัวอ่อนออกได้หมด แผลก็มักหายได้โดยมีภาวะแทรกซ้อนเพียงเล็กน้อย
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าพื้นที่เสี่ยงควรสวมเสื้อผ้าแขนขายาว สวมหมวกเพื่อให้ปกป้องคอและหนังศีรษะ อย่าใช้น้ำหอมหรือน้ำยาระงับกลิ่นกาย และให้ทายากันยุงบริเวณผิวหนังที่ไม่มีเสื้อผ้าปกปิด และเมื่อเดินทางกลับมาแล้วพบแผลคล้ายยุงกัดที่ยังไม่หาย ควรมาพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาโดยเร็วพร้อมแจ้งประวัติการเดินทางด้วย
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก ctinews.com, mnews.tw
