คนอีสานรีวิว จัดงานศพที่ กทม. ฟังพระสวด แจกของว่างแล้วกลับ ต่างกับงานศพในอีสาน จัดงานกัน 7 วัน คนจ้องแต่จะมากินไม่ได้มาแสดงความเสียใจ เลี้ยงไม่ดีมีเอาไปนินทา เงินครึ่งล้านยังไม่พอ !

ในชีวิตหนึ่งของคนเรา มักจะมีงานใหญ่ที่เป็นหมุดหมายสำคัญ เช่น งานรับปริญญา งานแต่งงาน และงานศพ ซึ่งหากใครที่ไม่พร้อม งานมงคลต่าง ๆ สามารถเลือกที่จะจัดหรือไม่จัดก็ได้ แต่กับงานอวมงคลแล้ว เป็นเหมือนไฟต์บังคับที่ต้องจัดงานเท่านั้น
ล่าสุด TikTok uncharee_p17 ได้รีวิวการมางานศพใน กทม. ที่แตกต่างจากในภาพอีสานอย่างสิ้นเชิง ไม่มีคนมากินมาเที่ยวทั้งวัน ทุกคนมาถึงก่อนพระสวด เมื่อพระสวดเสร็จ ก็แจกขนม นม เนย ไม่มีงานเลี้ยงให้ยุ่งยาก ต่างจากภาคอีสาน ที่จัดงานศพทีต้องมาเลี้ยงคนจำนวนมาก ๆ ไก่ 100 กก. หมู 100 กก. แต่ใส่ซองงานศพแค่ 100 บาท อาหารไม่ดีไม่อร่อย เอาไปนินทาอีก
ทั้งนี้ ได้มีคอมเมนต์มาบอกว่า ไม่ใช่เฉพาะภาคอีสาน แต่ภาคใต้ก็จัดหนัก งานศพ 7 วันเลี้ยงกันเช้ายันดึก งานศพในภาคเหนือก็เช่นกัน ถามหากินทั้งวัน ประหนึ่งเป็นงานบุญ ในขณะที่บางคนก็บอกว่า ของแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะจัดงานแบบเอาหน้าหรือไม่เอาหน้า ให้จัดงานศพแบบเล็ก ๆ ก็ได้ แต่เจ้าของโพสต์ก็มาบอกว่า ตนเคยทำแบบแบ่งรับแบ่งสู้ แต่ซื้อหมูหลัก 100 กก. สุดท้ายโดนเอาไปนินทา

คาดสาเหตุ จัดงานศพ ภาคอีสาน เงินครึ่งล้านบางทีไม่พอ ไม่ได้รับเชิญยังมางาน จ้องแต่จะกินของคนอื่น
เรื่องนี้ทำเอาหลายคนนำไปถกกันหลากหลาย ว่าเหตุใดงานศพใน กทม. สามารถจัดงานได้อย่างประหยัด แต่งานศพในภาคอีสาน บางครั้งเงินครึ่งล้านยังไม่พอ
- การจัดงานศพในภาคอีสาน บางครั้งกินระยะเวลานานเป็นสัปดาห์ และยิ่งไว้ศพนาน ก็ยิ่งมีค่าใช้จ่าย บางครั้งงานศพทะลุไปหลายแสนบาท ต่างกับงานศพใน กทม. ที่จะจัดงานศพแค่ 3 วันเป็นอย่างมาก เพราะมีคนอยู่เยอะ คนตายเยอะ ต้องใช้ศาลาต่อ เลยทำให้งานศพใน กทม. คุมค่าใช้จ่ายได้
- การจัดงานศพในภาคอีสาน ถ้ามีคนตาย ทุกคนในหมู่บ้านจะรู้และจะมากันหมด ไม่ว่าคนนั้นจะได้รับเชิญหรือไม่รับเชิญก็ตาม บางคนไม่รู้จักมากินก็มี แต่งานศพใน กทม. คนที่มางานจะเป็นแค่คนที่ได้รับเชิญหรือรู้จักสนิทสนมกันจริง ๆ เท่านั้น และส่วนมากเจ้าภาพจะพอคำนวณปริมาณแขกที่มาได้ เพื่อที่จะสั่งของว่างได้ครบ จึงสามารถคุมค่าใช้จ่ายได้

- วิถีชีวิตของคนใน กทม. ส่วนมากจะเร่งรีบ เจ้าภาพจึงไม่มีการเวลาทำอาหารแบบเป็นกิจจะลักษณะเพื่อเลี้ยงแขก ทำได้แค่ซื้อของว่างมาแจก ในขณะที่แขกเอง แค่ต้องฝ่ารถติดและมาถึงวัดให้ทันพระสวดก็ลุ้นแล้ว และขากลับก็ต้องฝ่ารถติดอีกกว่าจะถึงบ้าน ทั้งแขกทั้งเจ้าภาพเมื่อจัดงานศพแล้วจึงต้องรีบออกจากวัด ในขณะที่ภาคอีสาน บางคนทำงานค้าขาย ทำนา ทำไร่ จึงมีเวลามางานศพตั้งแต่กลางวัน บางคนมาตั้งแต่เช้า กินกันจนดึก และงานก็จัดอยู่ในหมู่บ้าน ไม่ต้องเดินทางไกล

- ในภาคอีกสาน วันเผาศพนั้นต้องมีการมอบเงินให้องค์กร หน่วยงานต่าง ๆ โรงเรียน อสม. อนามัยตำบล เพื่อเป็นการกุศล ถือเป็นการทำบุญให้คนตายเป็นครั้งสุดท้าย ทั้งที่การเงินของเจ้าภาพอาจจะไม่พร้อม และหน่วยงานก็มีงบอยู่แล้ว บางครั้งเห็นญาติคนตายได้เงินประกัน เงินฌาปนกิจเยอะ ก็ต้องจ่ายเยอะแทบไม่เหลือ



