อดีตลูกเรือแชร์เรื่องลับ ความสะอาดบนเครื่องบิน แนะสิ่งที่ ผดส. ควรทำเมื่อเดินทาง

 
          วงในมาเอง อดีตลูกเรือแชร์เรื่องลับ ความสะอาดบนเครื่องบิน แนะทริกทำได้ง่าย ๆ เพื่อสุขอนามัยส่วนตัว รับบินมาจะ 20 ปี ยังยากจะไว้ใจเรื่องความสะอาด
              ในขณะที่การเดินทางโดยเครื่องบินเป็นทางเลือกที่ช่วยประหยัดเวลา และยังมอบความสะดวกสบายแก่นักเดินทาง ผู้คนมากมายก็มักจะคาดหวังว่าจะได้รับการดูแลตามมาตรฐาน แต่หลายครั้งกลับต้องผิดหวังเมื่อได้พบสภาพที่ไม่คาดคิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงานบริการ หรือแม้กระทั่งความสะอาดบนเครื่องบิน

              จนล่าสุดประเด็นเรื่องการดูแลความสะอาดบนเครื่องบิน ได้กลายมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง เมื่อคนวงในอย่าง เจย์ โรเบิร์ต อดีตพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ซึ่งอยู่ในอาชีพนี้มาเกือบ 20 ปี เพิ่งออกมาแชร์ทริกหลายประการ เพื่อสุขอนามัยบนเครื่องบินที่อยากแนะนำแก่นักเดินทาง

              จากข้อมูลบนเว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 โรเบิร์ต ยอมรับว่า ยิ่งบินเที่ยวดึกเท่าไหร่ ก็จะได้เครื่องบินที่สกปรกมากขึ้นเท่านั้น เที่ยวบินเช้าจะสะอาดที่สุด เนื่องจากตลอดทั้งวันพวกเขามีเวลาเพียงพอสำหรับการทำความสะอาดจุดที่ทำได้ง่าย ๆ เท่านั้น

              บางสายการบินยังอาศัยลูกเรือในการดูแลความสะอาดเรียบร้อยบนเครื่อง จนกว่าเครื่องบินจะถึงจุดหมายสุดท้ายสำหรับแวะพักกลางคืน ซึ่งระหว่างนั้นเครื่องบินจึงจะได้รับการทำความสะอาดอย่างทั่วถึงมากขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการบินในเช้าวันถัดไป ที่เป็นเช่นนั้นก็เนื่องจากตารางเวลาในการบินที่อัดแน่น

              โรเบิร์ตชี้ว่า สายการบินส่วนใหญ่ที่ให้บริการเที่ยวบินในประเทศ รวมถึงเที่ยวบินระยะสั้น จะต้องปฏิบัติตามตารางบินที่อัดแน่น ทำให้เวลาที่เครื่องบินอยู่บนภาคพื้นมีจำกัด

             แต่ถึงอย่างนั้น การเลือกเที่ยวบินเช้าสุดก็ไม่ได้หมายความว่าเครื่องบินลำนั้นจะได้รับการฆ่าเชื้อแล้วทั้งหมด จึงเป็นที่มาของอีก 4 ทริก ที่โรเบิร์ตนำมาเตือน

             ประการแรก โรเบิร์ตแนะนำให้ผู้โดยสารทำการฆ่าเชื้อบริเวณที่นั่งของตัวเองก่อน เช่น โต๊ะหน้าที่นั่ง เบาะรองนั่ง ที่วางแขน หน้าจอ และเข็มขัดนิรภัย

             ประการที่ 2 คืออย่าไปยุ่งกับช่องเก็บของหลังที่นั่ง มันเป็นจุดที่เขาเองยังพยายามหลีกเลี่ยง เนื่องจากบริเวณนี้มักใช้สำหรับเก็บวัตถุที่ไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ตั้งแต่ทิชชูและผ้าอ้อมสกปรก ไปจนถึงถุงอ้วกที่ใส่ไว้จนเต็ม

            ประการที่ 3 โรเบิร์ตแย้มว่า หากเป็นเขาจะไม่ขอนั่งลงบนเบาะนั่งตรง ๆ โดยอ้างว่าที่นั่งบนเครื่องบินอาจไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างทั่วถึงระหว่างไฟลต์ เขายังแนะนำให้นักเดินทางนำผ้าห่มมาปูคลุมเก้าอี้แทน

            อดีตพนักงานต้อนรับ เผยว่า มีหลายครั้งที่ผู้โดยสารบ่นว่าตัวเองนั่งอยู่ในจุดที่เหมือนจะสะอาด แต่กลับพบว่าใต้เบาะนั้นทั้งสกปรกและชื้นจากเที่ยวบินก่อนหน้า เขายังเสริมว่าคนทำความสะอาดที่เกียจคร้านก็มักจะเปลี่ยนเฉพาะผ้าคลุมชั้นบนสุด ไม่ใช่ทั้งเบาะ นั่นหมายความว่ายังอาจมีคราบของเหลวจากร่างกายคน อย่าง น้ำลาย เหงื่อ และเลือด อยู่บนนั้น

            ประการที่ 4 โรเบิร์ตได้แนะนำให้ทุกคนสวมรองเท้าไว้เสมอ เมื่ออยู่บนเครื่องบิน เพราะไม่เพียงแค่พรมบริเวณที่นั่งอาจจะยังสกปรก แต่กลิ่นเท้ายังอาจไปรบกวนเพื่อนร่วมทาง หรือถึงขั้นเป็นภัยคุกคามต่อคุณภาพอากาศได้อย่างแท้จริง

             เขาชี้ว่า ตัวเองเคยเจอสถานการณ์ที่ได้กลิ่นเล็ดลอดมาจากเท้าของใครสักคน กลิ่นนั้นแรงมากจนเขาต้องนำน้ำหอมมาฉีดบริเวณนั้น นอกจากนี้ยังมีกรณีที่กลิ่นนั้นเลวร้ายหนักจนเขาต้องไปปลุกผู้โดยสารมาคุยเรื่องนี้ อธิบายว่ากลิ่นเท้าของพวกเขาทำให้เกิดความไม่สะดวกสบายแก่ผู้โดยสารท่านอื่น และจำเป็นที่พวกเขาจะต้องสวมรองเท้ากลับไป
             ทั้งนี้ แม้แต่บนเครื่องบินที่ได้รับการดูแลฆ่าเชื้อเป็นอย่างดีแล้ว โรเบิร์ตก็ยังแนะนำให้ผู้โดยสารใส่ใจสภาพรอบ ๆ ตัว ก่อนจะนำกระเป๋าสัมภาระวางไว้ใต้เบาะที่อยู่ด้านหน้า เพราะกระเป๋าของเราอาจเสียหายได้หากมีบางสิ่งหกอยู่ หรือรั่วมาจากผู้โดยสารที่อยู่ด้านหน้าเรา จึงควรเช็กดูพื้นก่อน เพราะพนักงานทำความสะอาดมักมองข้ามพื้นที่เหล่านี้ หรือจะใช้พลาสติกใส่ผ้าห่มที่สายการบินแจก มาปูรองใต้พื้นก่อนก็ได้   

            แม้จะทำงานอยู่ในวงการนี้มาเกือบ 20 ปี แต่โรเบิร์ตยอมรับว่า มันยังยากที่เขาจะไว้ใจแนวปฏิบัติในการทำความสะอาดของสายการบิน เนื่องจากบริษัททำความสะอาดทั่ว ๆ ไปมักให้พนักงานทำงานหนักแต่จ่ายเงินน้อย มาตรฐานความสะอาดจึงไม่ได้เป็นไปตามนั้น เขาย้ำว่าการทำความสะอาดบนเครื่องบินนั้นเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้อย่างมาก เพราะแม้แต่สายการบินที่มีชื่อเสียงด้านมาตรฐานความสะอาด ก็ยังอาจบินไปยังพื้นที่ที่พวกเขาไม่สามารถควบคุมบริษัททำความสะอาดได้อย่างเต็มที่


ขอบคุณข้อมูลจาก New York Post