ลูกจ้างชาวลาววัย 18 โดนหมอลวนลาม จับนั่งตัก จับก้น หอมแก้มต่อหน้าแม่ที่ป่วย จนต้องปีนรั้วหนีออกมา เปิดคลิปเสียงปฏิเสธเต็มที่ ด้านทนายเดชาบอก หยุดแถ คุก 10 ปี หลักฐานขนาดนี้แล้ว
จากกรณีที่นางสาวแพรวา วัย 18 ปี ชาวลาว มาทำงานรับจ้างดูแลคนชราซึ่งเป็นแม่อดีตนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแห่งหนึ่ง ใน จ.อุดรธานี ได้ค่าจ้างเดือนละ 10,000 บาท ทำงานได้ 6 เดือน กลับถูกเจ้าของบ้านลวนลามและข่มขู่ กักขังในบ้าน จนต้องร้องขอให้ญาติติดต่อตำรวจให้มาช่วยจนสำเร็จ ซึ่งวินาทีที่ช่วย นางสาวแพรวาวิ่งหนีมาเกาะรั้วบ้าน บอกว่า ช่วยหนูด้วย ถูกลวนลาม กอด จูบ ออกไปไหนไม่ได้
ส่วนทางหมอก็ยังคงเงียบกริบ ไม่มีใครออกมาให้ข่าวอะไร ทางตำรวจจึงให้นางสาวแพรวาไปตรวจร่างกาย และกลับมาให้ปากคำเพิ่มเติม
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า อดีตนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดคนนี้ เพิ่งเกษียณอายุราชการไปในปี 2565 ปัจจุบันไม่ได้มีหน้าที่อะไรในกระทรวง ดังนั้นจึงไม่สามารถตรวจสอบหรือดำเนินการเรื่องวินัยข้าราชการได้ ทุกอย่างจะอยู่ในอำนาจหน้าที่ของตำรวจ
วันที่ 6 มีนาคม 2567 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นางสาวแพรวา มีคลิปเสียงที่ระบุว่าคุยกับหมอรายนี้ตอนที่อยู่ในห้อง ความยาว 12 นาที เบื้องต้นหมอก็ถามว่าเป็นอะไร ด้านนางสาวแพรวาก็พยายามหลอกล่อ ถามกลับไปว่า ทำอะไรไว้ล่ะ มีทั้งลวนลาม จับนั่งตัก กอดจูบ จับก้น เวลาที่พาคุณย่าเข้าห้องน้ำ หมอก็ยังลวนลามด้วย แบบนี้หนูทนไม่ได้
ส่วนหมอก็ปฏิเสธตลอดทุกคำพูด บอกว่าไม่มีหลักฐาน กล่าวหาว่า นางสาวแพรวาเป็นคนไม่น่าไว้วางใจ จากนั้นนางสาวแพรวาก็ร้องไห้ บอกว่า หมอมาทำแบบนี้กับหนูทำไม เป็นหมอ มีครอบครัว ตำแหน่งใหญ่โต หนูขอลาออก
หมอกล่าวว่า "หลังจากนี้จะไม่มีอีก" พร้อมปฏิเสธการลาออก จากนั้นหมอก็พยายามบอกว่า "ไม่ได้เจตนา ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ตอนหลับผมคงไปปล้ำแล้ว" หลังจากนั้นก็มีการโต้เถียงกันต่อ นางสาวแพรวาต้องการให้หมอไปทำเรื่องออกด้วยกัน แต่ก็ถูกปฏิเสธอีกรอบ
หลังจากนั้น หมอคนดังกล่าว ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นหมอเกษียณอายุราชการแล้ว ปัจจุบันเปิดคลินิกอยู่ที่ อ.โซพิสัย จ.บึงกาฬ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่จริง ตนไม่ได้คิดเชิงชู้สาว เป็นการแสดงความรักเอ็นดูเหมือนลูกสาว พร้อมให้ปากคำกับตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ส่วนเงินเดือนที่ค้าง 1 เดือน จะจ่ายให้ตามปกติในวันที่ 8 มีนาคม
ตนยอมรับว่าเสียใจที่ถูกกล่าวหา ทั้งที่ความจริงเขาสามารถออกไปไหนก็ได้ กุญแจบ้านก็อยู่กับเขา ตนไม่ได้มีการกักขัง ถ้าจะหลบหนีทำได้ตลอดเวลา
ส่วนสาเหตุที่ผู้สื่อข่าวมากดกริ่งหน้าบ้าน แต่ไม่ออกมาให้สัมภาษณ์ ต้องสัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์ เป็นเพราะกริ่งเสีย
ขณะที่พนักงานสอบสวนพร้อมกับเจ้าหน้าที่ พมจ.อุดรธานี สอบปากคำสาวชาวลาว พบว่ามีความน่าเชื่อถือ เตรียมออกหมายเรียกหมอในข้อหากระทำอนาจารเพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาต่อไป มีโทษหนักจำคุก 1-10 ปี หรือปรับ 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ ของทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ มีการโพสต์ถึงเรื่องนี้ว่า หมอหยุดแถเถอะครับ คุก 10 ปี มีคลิปหลักฐานชัดเจน ยอมความไม่ได้ เพราะเป็นการกระทำต่อหน้าบุคคลอื่น ซึ่งก็คือแม่ของหมอ ภาษากฎหมายเรียกว่า กระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัลตามมาตรา 281(2)
ส่วนคดีถ้าจะหลุดได้ ต้องมีการวิ่งเต้นล้มคดีเท่านั้นขึ้นอยู่กับว่าตำรวจจะเป็นคนดีหรือคนสีเทาติดตามคนต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากกรณีที่นางสาวแพรวา วัย 18 ปี ชาวลาว มาทำงานรับจ้างดูแลคนชราซึ่งเป็นแม่อดีตนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแห่งหนึ่ง ใน จ.อุดรธานี ได้ค่าจ้างเดือนละ 10,000 บาท ทำงานได้ 6 เดือน กลับถูกเจ้าของบ้านลวนลามและข่มขู่ กักขังในบ้าน จนต้องร้องขอให้ญาติติดต่อตำรวจให้มาช่วยจนสำเร็จ ซึ่งวินาทีที่ช่วย นางสาวแพรวาวิ่งหนีมาเกาะรั้วบ้าน บอกว่า ช่วยหนูด้วย ถูกลวนลาม กอด จูบ ออกไปไหนไม่ได้
ส่วนทางหมอก็ยังคงเงียบกริบ ไม่มีใครออกมาให้ข่าวอะไร ทางตำรวจจึงให้นางสาวแพรวาไปตรวจร่างกาย และกลับมาให้ปากคำเพิ่มเติม
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า อดีตนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดคนนี้ เพิ่งเกษียณอายุราชการไปในปี 2565 ปัจจุบันไม่ได้มีหน้าที่อะไรในกระทรวง ดังนั้นจึงไม่สามารถตรวจสอบหรือดำเนินการเรื่องวินัยข้าราชการได้ ทุกอย่างจะอยู่ในอำนาจหน้าที่ของตำรวจ
เปิดคลิปเสียงลูกจ้างร่ำไห้คุยนายจ้าง ปล่อยหนูไปเถอะ
วันที่ 6 มีนาคม 2567 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นางสาวแพรวา มีคลิปเสียงที่ระบุว่าคุยกับหมอรายนี้ตอนที่อยู่ในห้อง ความยาว 12 นาที เบื้องต้นหมอก็ถามว่าเป็นอะไร ด้านนางสาวแพรวาก็พยายามหลอกล่อ ถามกลับไปว่า ทำอะไรไว้ล่ะ มีทั้งลวนลาม จับนั่งตัก กอดจูบ จับก้น เวลาที่พาคุณย่าเข้าห้องน้ำ หมอก็ยังลวนลามด้วย แบบนี้หนูทนไม่ได้
ส่วนหมอก็ปฏิเสธตลอดทุกคำพูด บอกว่าไม่มีหลักฐาน กล่าวหาว่า นางสาวแพรวาเป็นคนไม่น่าไว้วางใจ จากนั้นนางสาวแพรวาก็ร้องไห้ บอกว่า หมอมาทำแบบนี้กับหนูทำไม เป็นหมอ มีครอบครัว ตำแหน่งใหญ่โต หนูขอลาออก
หมอกล่าวว่า "หลังจากนี้จะไม่มีอีก" พร้อมปฏิเสธการลาออก จากนั้นหมอก็พยายามบอกว่า "ไม่ได้เจตนา ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ตอนหลับผมคงไปปล้ำแล้ว" หลังจากนั้นก็มีการโต้เถียงกันต่อ นางสาวแพรวาต้องการให้หมอไปทำเรื่องออกด้วยกัน แต่ก็ถูกปฏิเสธอีกรอบ
หมอปฏิเสธไม่ใช่เรื่องจริง คิดเหมือนลูกสาว เสียใจโดนกล่าวหา
หลังจากนั้น หมอคนดังกล่าว ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นหมอเกษียณอายุราชการแล้ว ปัจจุบันเปิดคลินิกอยู่ที่ อ.โซพิสัย จ.บึงกาฬ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่จริง ตนไม่ได้คิดเชิงชู้สาว เป็นการแสดงความรักเอ็นดูเหมือนลูกสาว พร้อมให้ปากคำกับตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ส่วนเงินเดือนที่ค้าง 1 เดือน จะจ่ายให้ตามปกติในวันที่ 8 มีนาคม
ตนยอมรับว่าเสียใจที่ถูกกล่าวหา ทั้งที่ความจริงเขาสามารถออกไปไหนก็ได้ กุญแจบ้านก็อยู่กับเขา ตนไม่ได้มีการกักขัง ถ้าจะหลบหนีทำได้ตลอดเวลา
ส่วนสาเหตุที่ผู้สื่อข่าวมากดกริ่งหน้าบ้าน แต่ไม่ออกมาให้สัมภาษณ์ ต้องสัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์ เป็นเพราะกริ่งเสีย
ขณะที่พนักงานสอบสวนพร้อมกับเจ้าหน้าที่ พมจ.อุดรธานี สอบปากคำสาวชาวลาว พบว่ามีความน่าเชื่อถือ เตรียมออกหมายเรียกหมอในข้อหากระทำอนาจารเพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาต่อไป มีโทษหนักจำคุก 1-10 ปี หรือปรับ 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทนายเดชา บอก คดีนี้ยอมความไม่ได้ เพราะมีจุดเดียวคือ ทำต่อหน้าคุณแม่ คุก 10 ปี
เฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ ของทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ มีการโพสต์ถึงเรื่องนี้ว่า หมอหยุดแถเถอะครับ คุก 10 ปี มีคลิปหลักฐานชัดเจน ยอมความไม่ได้ เพราะเป็นการกระทำต่อหน้าบุคคลอื่น ซึ่งก็คือแม่ของหมอ ภาษากฎหมายเรียกว่า กระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัลตามมาตรา 281(2)
ส่วนคดีถ้าจะหลุดได้ ต้องมีการวิ่งเต้นล้มคดีเท่านั้นขึ้นอยู่กับว่าตำรวจจะเป็นคนดีหรือคนสีเทาติดตามคนต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้
