ฝรั่งกร่างที่เมืองตรัง รัวหมัดใส่หญิงวัย 53 ปีไม่ยั้งหลังรถเข็นชนกัน ซัดไป 20 หมัดจนหน้ายับ เผยชีวิตสุดเศร้า เพิ่งหายจากการป่วยใช้ไม้ค้ำไม่นาน ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ลูกหวั่นอาการทรุดและไม่ได้รับความเป็นธรรม
วันที่ 6 มีนาคม 2567 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครตรัง มีชายต่างชาติทำร้ายร่างกายหญิง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง จึงเข้าไปตรวจสอบ พบคนในห้างกำลังให้ความช่วยเหลือ นางสาวนัฎชนันท์ วัย 53 ปี ที่ถูกทำร้ายมีเลือดท่วมศีรษะ ส่วนคนก่อเหตุคือ นาย Straumann Dieter Mathhias ชาวสวิสวัย 62 ปี จึงนำตัวมาสอบปากคำ
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงโรงพัก ผู้ก่อเหตุได้ขัดขืน ไม่ให้ปากคำและความร่วมมือ ไม่ให้สื่อสอบถามและบันทึกภาพนานกว่า 9 ชั่วโมง จนตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทางผู้ต้องหาก็ไม่ยอมเซ็นรับสารภาพ ตำรวจก็ได้ประสานล่ามเตรียมส่งฝากขังศาล จ.ตรัง โดยจากการตรวจสอบ พบว่า พาสปอร์ตของฝรั่งชาวสวิส จะหมดอายุในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 และถือวีซ่าพำนักบั้นปลายชีวิตหลังเกษียณ
ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ตรัง รักษาอาการเจ็บบริเวณใบหน้าที่จมูกหัก คิ้วขวาแตก มีรอยฟกช้ำ ระหว่างนี้ก็มีกายภาพบำบัดโรคเกี่ยวกับกระดูกด้วย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มาจากการที่นางสาวนัฎชนันท์กับฝรั่งต่างฝ่ายต่างมาซื้อของที่ห้าง ระหว่างนั้นรถเข็นของฝรั่งก็ชนกับรถเข็นนางสาวนัฎชนันท์ ทำให้นางสาวนัฎชนันท์เตือนว่า ให้ระวัง ๆ และสุภาพหน่อย ทันใดนั้นเอง ฝรั่งก็สวนหมัดมาที่หน้านางสาวนัฎชนันท์ทันทีแล้วเดินหนีไป นางสาวนัฎชนันท์จึงหยิบขวดน้ำพลาสติกในรถเข็นเขวี้ยงใส่คืน แต่ไม่โดน ทำให้ฝรั่งโมโห ปรี่เข้าหานางสาวนัฎชนันท์แล้วรัวหมัดใส่ไม่ยั้ง
ส่วนนางสาวนัฎชนันท์ ตอนนี้ออกจากห้องไอซียูแล้ว ไปพักฟื้นต่อที่ตึกศัลยกรรมผู้ป่วยหนักแล้ว ยังไม่สามารถตอบคำถามใด ๆ ได้ เพราะอยู่ในอาการบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ อีกทั้งเจ้าตัวเพิ่งเคยไปถอนฟันมา แต่หมอถอนฟันให้ผิดซี่ทำเส้นประสาทอักเสบ ใช้เวลาผ่าตัดและพักฟื้นนานนับปี ต้องใช้ไม้ค้ำยัน เพิ่งทิ้งไม้ค้ำยันไปไม่ถึงเดือนกลับมาเจอเหตุการณ์นี้
ลูกเผย แม่แค่บอกว่าให้เกียรติกันหน่อย แต่โดนต่อยไม่ยั้ง หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม เพิ่งหายป่วยต้องมาช้ำอีกรอบ
นายกฤตพงศ์ ลูกชายนางสาวนัฎชนันท์ เปิดเผยว่า แม่ไปซื้อของชั้น 2 โซนขายน้ำ แม่ก็เข็นรถตามปกติ แต่เดินไม่ค่อยแข็งแรง จากนั้นมีฝรั่งมาเบียดจนแม่ของตนเกือบล้ม แม่ตนจึงพูดเป็นอังกฤษว่า ช่วยให้เกียรติกันหน่อย ฝรั่งจึงมาต่อยแม่ตน 4 ครั้ง แล้วเดินหนี แม่ตนก็เขวี้ยงขวดน้ำกลับ แต่ไม่โดน ทำให้ฝรั่งกลับมาผลักแม่ตนจนล้ม เอาหัวเข่ายันคอแล้วต่อยไม่ยั้ง น่าจะเกิน 20 ครั้ง
สิ่งที่ตนกลัวคือ กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะฝรั่งไม่ยอมให้การใด ๆ กับตำรวจ จึงอยากให้เป็นเคสตัวอย่าง ไม่ให้ฝรั่งมาทำอะไรคนไทยได้อีก เรื่องอาการของแม่ ตนก็เป็นห่วงเพราะแม่เพิ่งหายป่วย มาโดนแบบนี้ไม่รู้จะทรุดลงอีกขนาดไหน ตอนนี้ถ้านั่งนาน ๆ คือจะมีเลือดไหลทางจมูก
ต่อมาผู้สื่อข่าวตรวจสอบที่บ้านของฝรั่งรายนี้ พบว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ในบ้านมีการเปิดไฟไว้ 1 ดวง พอส่งเสียงเรียกก็ไม่มีใครตอบโต้ออกมา
ด้าน นายวรวุฒิ หนูเรือง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านโคกพลา ต.โคกหล่อ เปิดเผยว่า ชายชาวสวิสเป็นคนสันโดษ ชอบเดินถอดเสื้อตอนเช้าและกลางดึก มาเช่าบ้านหลังนี้นานแล้ว คบหากับผู้หญิงไทย แต่ตอนนี้ผู้หญิงย้ายไป จ.กระบี่ เพราะมีเรื่องระหองระแหงกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้
วันที่ 6 มีนาคม 2567 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครตรัง มีชายต่างชาติทำร้ายร่างกายหญิง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง จึงเข้าไปตรวจสอบ พบคนในห้างกำลังให้ความช่วยเหลือ นางสาวนัฎชนันท์ วัย 53 ปี ที่ถูกทำร้ายมีเลือดท่วมศีรษะ ส่วนคนก่อเหตุคือ นาย Straumann Dieter Mathhias ชาวสวิสวัย 62 ปี จึงนำตัวมาสอบปากคำ
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงโรงพัก ผู้ก่อเหตุได้ขัดขืน ไม่ให้ปากคำและความร่วมมือ ไม่ให้สื่อสอบถามและบันทึกภาพนานกว่า 9 ชั่วโมง จนตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทางผู้ต้องหาก็ไม่ยอมเซ็นรับสารภาพ ตำรวจก็ได้ประสานล่ามเตรียมส่งฝากขังศาล จ.ตรัง โดยจากการตรวจสอบ พบว่า พาสปอร์ตของฝรั่งชาวสวิส จะหมดอายุในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 และถือวีซ่าพำนักบั้นปลายชีวิตหลังเกษียณ
ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ตรัง รักษาอาการเจ็บบริเวณใบหน้าที่จมูกหัก คิ้วขวาแตก มีรอยฟกช้ำ ระหว่างนี้ก็มีกายภาพบำบัดโรคเกี่ยวกับกระดูกด้วย
สาเหตุฝรั่งสวิส ต่อยคนไทย หลังไปซื้อของที่ห้างแล้วรถเข็นชนกัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มาจากการที่นางสาวนัฎชนันท์กับฝรั่งต่างฝ่ายต่างมาซื้อของที่ห้าง ระหว่างนั้นรถเข็นของฝรั่งก็ชนกับรถเข็นนางสาวนัฎชนันท์ ทำให้นางสาวนัฎชนันท์เตือนว่า ให้ระวัง ๆ และสุภาพหน่อย ทันใดนั้นเอง ฝรั่งก็สวนหมัดมาที่หน้านางสาวนัฎชนันท์ทันทีแล้วเดินหนีไป นางสาวนัฎชนันท์จึงหยิบขวดน้ำพลาสติกในรถเข็นเขวี้ยงใส่คืน แต่ไม่โดน ทำให้ฝรั่งโมโห ปรี่เข้าหานางสาวนัฎชนันท์แล้วรัวหมัดใส่ไม่ยั้ง
ส่วนนางสาวนัฎชนันท์ ตอนนี้ออกจากห้องไอซียูแล้ว ไปพักฟื้นต่อที่ตึกศัลยกรรมผู้ป่วยหนักแล้ว ยังไม่สามารถตอบคำถามใด ๆ ได้ เพราะอยู่ในอาการบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ อีกทั้งเจ้าตัวเพิ่งเคยไปถอนฟันมา แต่หมอถอนฟันให้ผิดซี่ทำเส้นประสาทอักเสบ ใช้เวลาผ่าตัดและพักฟื้นนานนับปี ต้องใช้ไม้ค้ำยัน เพิ่งทิ้งไม้ค้ำยันไปไม่ถึงเดือนกลับมาเจอเหตุการณ์นี้
ลูกเผย แม่แค่บอกว่าให้เกียรติกันหน่อย แต่โดนต่อยไม่ยั้ง หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม เพิ่งหายป่วยต้องมาช้ำอีกรอบ
นายกฤตพงศ์ ลูกชายนางสาวนัฎชนันท์ เปิดเผยว่า แม่ไปซื้อของชั้น 2 โซนขายน้ำ แม่ก็เข็นรถตามปกติ แต่เดินไม่ค่อยแข็งแรง จากนั้นมีฝรั่งมาเบียดจนแม่ของตนเกือบล้ม แม่ตนจึงพูดเป็นอังกฤษว่า ช่วยให้เกียรติกันหน่อย ฝรั่งจึงมาต่อยแม่ตน 4 ครั้ง แล้วเดินหนี แม่ตนก็เขวี้ยงขวดน้ำกลับ แต่ไม่โดน ทำให้ฝรั่งกลับมาผลักแม่ตนจนล้ม เอาหัวเข่ายันคอแล้วต่อยไม่ยั้ง น่าจะเกิน 20 ครั้ง
สิ่งที่ตนกลัวคือ กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะฝรั่งไม่ยอมให้การใด ๆ กับตำรวจ จึงอยากให้เป็นเคสตัวอย่าง ไม่ให้ฝรั่งมาทำอะไรคนไทยได้อีก เรื่องอาการของแม่ ตนก็เป็นห่วงเพราะแม่เพิ่งหายป่วย มาโดนแบบนี้ไม่รู้จะทรุดลงอีกขนาดไหน ตอนนี้ถ้านั่งนาน ๆ คือจะมีเลือดไหลทางจมูก
ต่อมาผู้สื่อข่าวตรวจสอบที่บ้านของฝรั่งรายนี้ พบว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ในบ้านมีการเปิดไฟไว้ 1 ดวง พอส่งเสียงเรียกก็ไม่มีใครตอบโต้ออกมา
ด้าน นายวรวุฒิ หนูเรือง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านโคกพลา ต.โคกหล่อ เปิดเผยว่า ชายชาวสวิสเป็นคนสันโดษ ชอบเดินถอดเสื้อตอนเช้าและกลางดึก มาเช่าบ้านหลังนี้นานแล้ว คบหากับผู้หญิงไทย แต่ตอนนี้ผู้หญิงย้ายไป จ.กระบี่ เพราะมีเรื่องระหองระแหงกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้
