เปิดสถิติอุณหภูมิไทย เกิน 40 องศามาเกือบ 100 ปีแล้ว แต่ทำไมสมัยนี้ร้อนกว่าเยอะ หรือสิ่งที่เราเข้าใจว่าสมัยก่อนนั้นเย็น เป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เข้าสู่เดือนเมษายนของทุกปี อากาศร้อนอบอ้าวเป็นพิเศษ แต่ในความรู้สึกของคนเรา ยิ่งรู้สึกว่า ร้อนอบอ้าวขึ้นทุกปี ๆ สมัยก่อนไม่ร้อนกันแบบนี้
วันที่ 8 เมษายน 2567 คุณ ไม่ชอบเรียนเคมี แต่หนีไม่พ้น สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มีการตั้งกระทู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับสถิติอากาศในประเทศไทยว่า คนสูงอายุในไทย ชอบบอกว่าในอดีตอากาศไม่ร้อน สมัยนี้ร้อนมากกว่าสมัยก่อน แต่พอไปตรวจสอบสถิติอุณหภูมิประเทศไทยในยุคปี 2484 ช่วงเดือนเมษายน กลับพบว่า มีค่าสูงสุดเกิน 40 องศาเซลเซียสมาตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว ไม่ได้เพิ่งเป็นสมัยนี้ และนี่คือสถิติที่ชัดเจนชี้วัดได้ดีที่สุด ไม่ใช่บอกเล่าตามความรู้สึก ฉะนั้น สามารถสรุปได้ว่า ประเทศไทยร้อนมานานแล้ว
ทว่าท็อปคอมเมนต์กลับนำเสนออีกมุมมองที่เจ้าของกระทู้มองข้ามไป นั่นคือ สถิติที่เจ้าของกระทู้ยกมา มันคือค่าสูงสุดของเดือนนั้น ซึ่งอาจจะมีแค่ 1 วัน และอาจจะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาที ข้อมูลนี้ไม่ได้บอกว่า ใน 1 เดือนที่ผ่านมา แต่ละวันมีอุณหภูมิกี่องศากันแน่ เช่น "30 วันของเดือนเมษายน จะมีอากาศหนาว 4 วัน อุ่น 15 วัน ร้อน 11 วัน" ดังนั้น การที่คนหนุ่มสาว รวมถึงคนแก่จะอุปทานหมู่ว่า อากาศปัจจุบันนี้ร้อนขึ้น ก็ยังคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ขณะเดียวกัน เมื่อดูข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาอีกหนึ่งแบบที่แสดงให้เห็นถึงค่าเฉลี่ยอุณหภูมิต่อปี ในช่วง 20-30 ปีหลังสุด พบว่า มีแนวโน้มค่าเฉลี่ยอุณหภูมิสูงขึ้นจริง
อย่างไรก็ตาม ท็อปคอมเมนต์ทิ้งท้ายว่า ถึงแม้มีข้อมูลเหล่านี้ก็ยังสรุปได้ยาก เพราะต้องเก็บข้อมูลให้ละเอียดกว่านี้ ข้อมูลที่มีคือ การนำไปเอามาวิเคราะห์ ไม่ใช่นำข้อมูลมานำเสนอกันแบบซื่อ ๆ แล้วสรุปข้อเท็จจริง
อีกหนึ่งคอมเมนต์ ที่เป็นท็อปคอมเมนต์อันดับ 2 ระบุว่า สมัยก่อนแม้จะร้อน แต่ก็รู้สึกสบายตัวกว่าปัจจุบัน เนื่องจากสมัยก่อนยังมีต้นไม้เยอะ พื้นที่คอนกรีตน้อย สวนทางกับปัจจุบันที่มีคอนกรีตเยอะ ซึ่งข้อเสียของคอนกรีตคือ มันเป็นตัวสะสมความร้อนอย่างยาวนาน แม้พระอาทิตย์ตกดิน มาจับผนังบ้านตอนเที่ยงคืนก็ยังอุ่นอยู่ อีกทั้งสมัยนี้บ้านไหนไม่มีเครื่องปรับอากาศ ร้อนแทบอยู่ไม่ได้ ทุกบ้านต้องมีและเปิดกันเกือบทุกบ้าน
อีกหนึ่งความเห็น มองว่า คนไทยอาจจะใช้ความรู้สึกมากเกินไป
และอาจจะจำไม่ได้ว่า ปีก่อน ๆ ร้อนขนาดไหน จึงสรุปกันไปเองว่าร้อนขึ้นทุกปี
อีกทั้งคนสมัยก่อนไม่มีแอร์อยู่ จึงเคยชินกับความร้อนระดับนั้น
แต่ทุกวันนี้ทุกคนล้วนนอนห้องแอร์
เพียงแค่เจออากาศร้อนเข้ามาก็รู้สึกไม่ชิน จึงคิดว่าร้อนขึ้น
นอกจากนี้ ปัจจุบันมีการวัดอุณหภูมิอีกแบบหนึ่งคือ Real Feel
หรืออุณหภูมิที่คนเราจะรู้สึกอย่างแท้จริง
ไม่ใช่อุณหภูมิที่วัดโดยเทอร์โมมิเตอร์
ฉะนั้นการที่คนจะรู้สึกร้อนขึ้นคงไม่แปลก โดยคอมเมนต์ได้ยกตัวอย่าง
อุณหภูมิโชว์ว่า 30 องศา แต่ Real Feel บอกว่า 37 องศา
1. อุณหภูมิสมัยนี้ ร้อนกว่าสมัยก่อนอย่างมีนัยสำคัญไหม
คำตอบคือ ไม่ต่าง มีบางปีร้อน บางปีเย็น และในช่วงปี 2510-2520 เป็นช่วงที่เดือนเมษายนของไทยนั้นเย็นที่สุด
2. อุณหภูมิสภาพแวดล้อมที่เราสัมผัสกันจริง ๆ มันร้อนกว่าเดิมหรือไม่
คำตอบคือ ร้อนกว่าเดิมแน่นอน และมันนำไปสู่ข้อสรุปอีกข้อคือ ผลของสภาวะโลกร้อนที่แทบไม่ทำให้อุณหภูมิอากาศช่วงกลางหน้าร้อน ร้อนมากหรือน้อยกว่าเดิมเลย ความจริงคือ ความเป็นเมืองและการระบายอากาศที่ทำให้ความร้อนมันอบอ้าว ถ้าหากเราสามารถจัดระเบียบเมือง ปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียว ก็สามารถทำให้อุณหภูมิเย็นลงได้แล้ว
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 8 เมษายน 2567 คุณ ไม่ชอบเรียนเคมี แต่หนีไม่พ้น สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มีการตั้งกระทู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับสถิติอากาศในประเทศไทยว่า คนสูงอายุในไทย ชอบบอกว่าในอดีตอากาศไม่ร้อน สมัยนี้ร้อนมากกว่าสมัยก่อน แต่พอไปตรวจสอบสถิติอุณหภูมิประเทศไทยในยุคปี 2484 ช่วงเดือนเมษายน กลับพบว่า มีค่าสูงสุดเกิน 40 องศาเซลเซียสมาตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว ไม่ได้เพิ่งเป็นสมัยนี้ และนี่คือสถิติที่ชัดเจนชี้วัดได้ดีที่สุด ไม่ใช่บอกเล่าตามความรู้สึก ฉะนั้น สามารถสรุปได้ว่า ประเทศไทยร้อนมานานแล้ว
ไขคำตอบ ประเทศไทย อากาศ 40 องศามาตลอด แต่สมัยก่อนไม่ร้อนเท่านี้ หรือเป็นที่การเก็บสถิติ ?!
ทว่าท็อปคอมเมนต์กลับนำเสนออีกมุมมองที่เจ้าของกระทู้มองข้ามไป นั่นคือ สถิติที่เจ้าของกระทู้ยกมา มันคือค่าสูงสุดของเดือนนั้น ซึ่งอาจจะมีแค่ 1 วัน และอาจจะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาที ข้อมูลนี้ไม่ได้บอกว่า ใน 1 เดือนที่ผ่านมา แต่ละวันมีอุณหภูมิกี่องศากันแน่ เช่น "30 วันของเดือนเมษายน จะมีอากาศหนาว 4 วัน อุ่น 15 วัน ร้อน 11 วัน" ดังนั้น การที่คนหนุ่มสาว รวมถึงคนแก่จะอุปทานหมู่ว่า อากาศปัจจุบันนี้ร้อนขึ้น ก็ยังคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ขณะเดียวกัน เมื่อดูข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาอีกหนึ่งแบบที่แสดงให้เห็นถึงค่าเฉลี่ยอุณหภูมิต่อปี ในช่วง 20-30 ปีหลังสุด พบว่า มีแนวโน้มค่าเฉลี่ยอุณหภูมิสูงขึ้นจริง
อย่างไรก็ตาม ท็อปคอมเมนต์ทิ้งท้ายว่า ถึงแม้มีข้อมูลเหล่านี้ก็ยังสรุปได้ยาก เพราะต้องเก็บข้อมูลให้ละเอียดกว่านี้ ข้อมูลที่มีคือ การนำไปเอามาวิเคราะห์ ไม่ใช่นำข้อมูลมานำเสนอกันแบบซื่อ ๆ แล้วสรุปข้อเท็จจริง
เหตุอุณหภูมิเท่าเดิม แต่สมัยนี้ร้อนมาก เพราะต้นไม้หาย คอนกรีตมาแทน แดดแรงสะท้อนจนร้อนเว่อร์
อีกหนึ่งคอมเมนต์ ที่เป็นท็อปคอมเมนต์อันดับ 2 ระบุว่า สมัยก่อนแม้จะร้อน แต่ก็รู้สึกสบายตัวกว่าปัจจุบัน เนื่องจากสมัยก่อนยังมีต้นไม้เยอะ พื้นที่คอนกรีตน้อย สวนทางกับปัจจุบันที่มีคอนกรีตเยอะ ซึ่งข้อเสียของคอนกรีตคือ มันเป็นตัวสะสมความร้อนอย่างยาวนาน แม้พระอาทิตย์ตกดิน มาจับผนังบ้านตอนเที่ยงคืนก็ยังอุ่นอยู่ อีกทั้งสมัยนี้บ้านไหนไม่มีเครื่องปรับอากาศ ร้อนแทบอยู่ไม่ได้ ทุกบ้านต้องมีและเปิดกันเกือบทุกบ้าน
นอกจากนี้ การที่มีตึกสูงเยอะ ก็อาจจะมีการบังทางลม ทำให้คนรู้สึกร้อนอบอ้าวมากยิ่งขึ้น ซึ่งลมที่พัดมาเป็นตัวแปรสำคัญมากที่จะช่วยคลายร้อนได้
อีกหนึ่งความเห็น เอาสถิติมาสรุปให้เห็นชัด ๆ พร้อมตอบคำถามทีละข้อ ดังนี้
1. อุณหภูมิสมัยนี้ ร้อนกว่าสมัยก่อนอย่างมีนัยสำคัญไหม
คำตอบคือ ไม่ต่าง มีบางปีร้อน บางปีเย็น และในช่วงปี 2510-2520 เป็นช่วงที่เดือนเมษายนของไทยนั้นเย็นที่สุด
2. อุณหภูมิสภาพแวดล้อมที่เราสัมผัสกันจริง ๆ มันร้อนกว่าเดิมหรือไม่
คำตอบคือ ร้อนกว่าเดิมแน่นอน และมันนำไปสู่ข้อสรุปอีกข้อคือ ผลของสภาวะโลกร้อนที่แทบไม่ทำให้อุณหภูมิอากาศช่วงกลางหน้าร้อน ร้อนมากหรือน้อยกว่าเดิมเลย ความจริงคือ ความเป็นเมืองและการระบายอากาศที่ทำให้ความร้อนมันอบอ้าว ถ้าหากเราสามารถจัดระเบียบเมือง ปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียว ก็สามารถทำให้อุณหภูมิเย็นลงได้แล้ว