รวบไอ้หื่น ลวงเด็ก 16 เล่นสงกรานต์ มอมเหล้าละเมิดจนสลบ ช็อกพฤติกรรมสุดโรคจิต

          รวบตัว อาร์มลายสัก ลวงเด็ก 16 ไปเล่นสงกรานต์ ก่อนมอมเหล้าข่มขืน เด็กหนีเข้าห้องน้ำยังผวา เจอพฤติกรรมโรคจิต ตามงัดไอ้จ้อนกระแทกประตูครางชื่อ


          วันที่ 14 เมษายน 2567 เพจเฟซบุ๊ก สืบนครบาล IDMB รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 เมษายน ตำรวจชุดสืบนครบาลเข้าจับกุมตัว นายสมภพ หรือ อาร์มลายสัก อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาคดีข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ พาบุคคลไม่เกินสิบแปดปีไปเพื่อการอนาจาร, พรากผู้เยาว์อายุไม่เกินสิบแปดปีไปเพื่อการอนาจาร จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยต้องโทษ จำนวน 3 คดี ข้อหาจำหน่ายยาเสพติด และครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย  

            การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก น้องบี (นามสมมติ) เด็กสาววัย 16 ปี ได้ไปพักอยู่กับญาติย่านหนองแขมเพื่อจะไปเล่นสงกรานต์ แต่ปรากฎว่าในคืนนั้นเอง ไอ้อาร์ม ผู้ที่น้องบี นับถือและสนิทสนมเหมือนกับลุง อีกทั้งเป็นเพื่อนรักของพ่อน้องบี ส่งข้อความทางเฟซบุ๊กมาชักชวนจะพาไปเล่นน้ำสงกรานต์ "อยากไปเล่นน้ำกับลุงไหม เดี๋ยวลุงไปรับ" ด้วยความเชื่อและไว้วางใจ น้องบีจึงหลงกลยอมไปด้วย


            แต่แล้วเมื่อขับรถออกไป แทนที่จะมุ่งหน้าไปบริเวณที่มีการเล่นน้ำสงกรานต์ ไอ้อาร์มกลับวนรถพาน้องบีไปถึงที่หน้าบ้านย่านบางบอน อ้างว่า ลุงขอกินเบียร์ซักพักแล้วลุงจะพาไปเล่นน้ำ แต่แผนการชั่วได้เริ่มขึ้น เมื่อไอ้อาร์ม เริ่มมอมเหล้าน้องบีจนเมาไม่รู้สึกตัว ก่อนอุ้มน้องบีขึ้นไปบนชั้น 2 ของบ้าน ลงมือข่มขืนน้องบีจนสลบ

            ต่อมาเมื่อน้องบีตื่นมา จึงรีบคว้าโทรศัพท์วิ่งหนีไปแอบในห้องน้ำและโทรศัพท์แจ้งแม่ตัวเอง เป็นช่วงเวลา 10 นาที โดยพูดกับแม่ว่า "มันจะปล้ำหนู" ก่อนโทรศัพท์จะถูกตัดสายไป เมื่อแม่ไปถึงก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของลูกว่า "ออกไป ! ช่วยหนูด้วย !" พอเปิดประตูเข้าไปก็ได้เห็นภาพที่คนร้ายกำลังเอาอวัยวะเพศกระแทกประตูห้องน้ำที่ลูกสาวเข้าไปแอบอยู่ ลักษณะเหมือนยืนกระเด้าประตูแล้วครางชื่ออย่างโรคจิต แม่จึงเข้าไปผลักไอ้อาร์มกระเด็นออกไปให้พ้นทางก่อนเปิดประตูห้องน้ำ เห็นลูกสาวอยู่ในสภาพซุกขดตัวอยู่ข้างชักโครก เนื้อตัวสั่นมีน้ำตานองหน้า โดยคนร้ายฉวยโอกาสหนีออกจากห้องไป


            ภายหลังลูกสาวเริ่มหายหวาดกลัวจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟัง แม่จึงพาน้องบีเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับไอ้อาร์ม นำไปสู่การรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาธนบุรีออกหมายจับ ก่อนที่ทางทีมชุดสืบสวนพิเศษของสืบนครบาล จะลงพื้นที่ไล่ล่าติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่ผู้ต้องหารายนี้เป็นอดีตนักค้ายาเสพติดรายใหญ่เคยเข้า ๆ ออก ๆ คุก จนกระทั่งพ้นโทษเมื่อปี 2563 ช่ำชองวิธีการหลบหนี จึงสามารถหลบหนีการติดตามของชุดสืบสวนได้ทุกครั้งไป  


            จนกระทั่งวันที่ 13 เมษายน ตำรวจสืบทราบว่าคนร้ายไปกบดานอยู่ในตัวเมืองเพชรบุรี จึงนำกำลังบุกไปที่บ้านพักหลังผู้ต้องหากลับมาจากเล่นน้ำสงกรานต์ เมื่อชุดสืบสวนไปถึงคนร้ายยังไม่ยอมเปิดประตู กระทั่งเจ้าหน้าที่ทุบกระจกประตู คนร้ายได้แง้มผ้าม่านมาดูก็รู้ชะตากรรมว่าหากไม่เปิดต้องถูกพังประตูแน่นอน จึงให้แฟนสาวเดินมาเปิดประตูแต่โดยดี และชุดสืบสวนก็สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้ในที่สุด

            ในชั้นจับกุม นายสมภพให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า  เมื่อวันที่เกิดเหตุตนไปรับน้องผู้เสียหายมาเพื่อจะพาไปเล่นน้ำสงกรานต์จริง แต่เนื่องจากก่อนหน้านั้นตนได้ดื่มเหล้าอยู่ที่หน้าบ้านพักกับญาติ จึงพาน้องไปที่บ้านเพื่อจะดื่มเหล้าต่อ และพากันดื่มกินกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง เมื่อเห็นว่าน้องผู้เสียหายดื่มจนเมาไม่ได้สติแล้ว จึงบอกให้ขึ้นไปนอนก่อนที่ห้องพักของตน เมื่อน้องได้ขึ้นไปนอนด้านบนห้องชั้น 2 แล้ว ยอมรับว่าตนได้เข้าไปนอนในห้องเดียวกันและนอนด้วยกันจริง แต่จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เนื่องจากตนเองดื่มสุราและเสพยาเคจนเมาไม่ได้สติ เมื่อรู้ตัวยว่าโดนหมายจับจึงหนีมากบดานอยู่ใน จ.เพชรบุรี


            หลังจับกุมตัว เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยตำรวจไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะคำพูดของเด็กนั้นบริสุทธิ์มากกว่า และยังมีพยานหลักฐานอื่นเชื่อมโยงทำให้ศาลอนุมัติหมายจับจากพฤติการณ์ในคดีนี้


ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก สืบนครบาล IDMB