ออมเงินใส่กระปุกเป็นปี ทุบอีกทีแทบช็อก เงินกลายเป็นปุ๋ยหายไปครึ่ง เผยเหตุทำไมเป็นแบบนี้

          เก็บเงินสด ออมเล็กออมน้อยมาเป็นปี ทุบกระปุกทีแทบช็อก เงินที่เก็บได้กลายเป็นปุ๋ย ราขึ้นเต็ม จาก 1.7 หมื่น ใช้ได้เพียง 1 หมื่นเท่านั้น เผยสาเหตุสำคัญ ทำไมเงินถึงยับเยินแบบนี้


          ปัญหาโลกแตกของคนเก็บเงินสดไว้ในกระปุกนาน ๆ ที่น่ากังวลก็คือ สภาพของธนบัตรเปื่อยยุ่ยหรือขาด ถ้าเกิดอยู่ในสภาพนี้มา เงินที่เก็บเอาไว้จะกลายเป็น 0 หรือไม่

          วันที่ 16 เมษายน 2567 TikTok @kanthiya17 มีการลงคลิปการเก็บเงินในกระปุกไว้นานมาก แต่เมื่อเปิดออกมาดูว่า เงินที่หยอดลงไปเก็บได้จำนวนเท่าไรแล้วกลับได้ความช็อกเข้ามาแทนที่ เพราะสภาพเงินสด กลายเป็นสีดำคล้ำ แถมมีส่วนที่ขาดยุ่ย แทบไม่เหลือสภาพของเงินที่ใช้กันได้ เหมือนกลายเป็นปุ๋ย เจอแบบนี้แม่ค้าคนไหนจะกล้ารับเงิน

เมื่อนับเงินทั้งหมดดูแล้ว พบว่า มีจำนวนแบงก์ทั้งหมดดังนี้

          - แบงก์ 20 บาท จำนวน 259 ใบ
          - แบงก์ 50 บาท จำนวน 10 ใบ
          - แบงก์ 100 บาท จำนวน 13 ใบ

          จำนวนเงินทั้งสิ้น 6,980 บาท


          คอมเมนต์ชาวเน็ต เข้ามาโพสต์ให้เจ้าของคลิปสบายใจว่า ต่อให้ธนบัตรขาด ธนาคารเขาก็ยินดีรับฝากเข้าบัญชีธนาคาร แต่กรณีแบบนี้จะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน เพื่อที่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจเช็กสภาพของธนบัตรก่อนว่าใช้ได้ทั้งหมดไหม ส่วนถ้าหากต้องการแลกธนบัตรแบบไม่ต้องฝากเข้าบัญชี ต้องไปแลกที่ธนาคารกลาง ซึ่งเจ้าของคลิปต้องเลือกเอาว่าสะดวกแบบไหน

          อีกประเด็นหนึ่งที่คนสงสัยคือ ต้องเก็บนานแค่ไหนถึงทำให้แบงก์อยู่ในสภาพนี้ได้ เจ้าของคลิปบอกว่า เก็บในกระปุกประมาณ 1 ปี แต่เหตุสำคัญที่ทำให้แบงก์เป็นแบบนี้ได้คือ หยอดเข้ากระปุกตั้งแต่ตอนเปียก ๆ ทำให้เชื้อราลามไปหมด อีกทั้งอากาศที่ภาคใต้ค่อนข้างชื้น ฝน 8 แดด 4 หมายถึง ฤดูฝน 8 เดือน ฤดูร้อน 4 เดือน ไม่มีฤดูหนาว ยิ่งทำให้เกิดเชื้อราง่ายยิ่งขึ้น


          หนึ่งปัจจัยที่สำคัญ กระปุกที่ใช้นั้นเป็นกระปุกปูน เมื่อเจอสภาพอากาศ วิธีการหยอดเงินแบบเปียก ๆ ยิ่งทำให้เงินราขึ้นได้เร็ว เพราะกระปุกปูนเป็นวัสดุที่เก็บความชื้นได้ดี กระปุกที่ควรใช้คือกระปุกพลาสติก หรือไม่ก็เป็นกระปุกใส เราจะได้มองเห็นสภาพด้านในด้วย

          ส่วนจำนวนเงินที่นับ ๆ ได้นั้น ความจริงมีอยู่ประมาณ 17,000 บาท สามารถใช้ได้ปกติ 10,000 บาท ที่เสียหายราว 7,000 บาท