สาวเปิดสภาพหลังทำงานมา 1 ปี จากสาวสวย กลายเป็นสาวโทรม มันจี๊ดใจจนต้องขอดูแลตัวเอง พร้อมเรียกค่าเสียหายทางรูปลักษณ์ต่อบริษัท เจ้านายว่าไง ?
ภาพจาก 小紅書
ชีวิตการทำงานนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และสาวรายหนึ่งก็ออกมาเปิดภาพเทียบให้เห็นกันชัด ๆ ไปเลยว่า ชีวิตทำงานทำให้เธอขี้เหร่ลงอย่างแท้จริง หลังจากทำงานมาเพียงแค่ 1 ปี แต่ตัวเธอที่เดิมเป็นสาวสวยหน้าใส กลับดูโทรมลงสุด ๆ ทั้งสภาพผิวที่เกิดปัญหา ขอบตาดำคล้ำ ใบหน้าอิดโรย เพราะความเครียดและความเหนื่อยล้าจากการทำงาน
รายงานจากเว็บไซต์ HK01 เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2567 เผยว่า เสี่ยวเฉิน หญิงสาวจากเมืองนานกิง มณฑลเจียงซู ประเทศจีน เพิ่งจะโพสต์เล่าเรื่องของเธอบนเว็บบอร์ดเสี่ยวหงชู แชร์ประสบการณ์ได้รับความเสียหายทางรูปลักษณ์หลังทำงานพาร์ตไทม์มาได้ 1 ปี โดยชี้ว่า "ผลงานของเธอพุ่งทะยานดีมาก แต่รูปลักษณ์กลับดำดิ่งลง"
เสี่ยวเฉินเผยว่า งานที่เธอทำคือผู้ประกาศในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เธอมีชั่วโมงการทำงานไม่แน่นอน จำต้องอยู่จนถึงดึกดื่น เธอทำงานในธุรกิจนี้ยังไม่ครบปี แต่ต้องเผชิญความเครียดทุกวัน จนเกิดความเครียดสะสมทั้งกายใจ ซึ่งนั่นทำให้สาวน้อยแสนสวยตอนที่เริ่มทำงานใหม่ ๆ กลายมาเป็นพนักงานพาร์ตไทม์ที่ดูอิดโรยมาก หน้าตาหมองคล้ำ เหนื่อยล้า หมดอารมณ์จะทำอะไรอย่างอื่น
เดิมเธอคิดว่าเจ้านายคงปฏิเสธและเผลอ ๆ อาจจะไล่เธอออก แต่ไม่คิดเลยว่าเจ้านายจะอนุมัติคำขอนั้น ยอมจ่ายเงินชดเชยให้เธอ 10,000 หยวน (ราว 50,000 บาท) เพื่ออุปกรณ์เสริมความงามเหล่านั้น ทั้งยังให้วันหยุดพิเศษแก่เธออีก 3 วัน เป็นวันลาเพื่อความสวยด้วย
เสี่ยวเฉินยอมรับว่า ตอนนี้เธอรู้สึกดีมาก สวยมาก และอยากจะใช้วันลา 3 วันนี้ไปพักร้อนด้วยการเที่ยวเมืองใกล้ ๆ หรือพื้นที่รอบ ๆ นี้ ขณะเดียวกันเธอยังอยากบอกทุก ๆ คนจากประสบการณ์นี้ว่า "งานก็คืองาน ชีวิตคือชีวิต ความพึงพอใจทางกายและใจคือสิ่งที่สำคัญที่สุด"
ภาพจาก 小紅書
เรื่องของเสี่ยวเฉินกลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตเข้ามาถกกันสนั่น นอกจากพากันอิจฉาที่เธอได้เจอบริษัทและเจ้านายดี ๆ ผู้คนยังเห็นด้วยว่า การทำงานนั้นทำให้คนดูขี้เหร่ขึ้น และหน้าตาโทรมลงจริง ๆ โดยมีคอมเมนต์ เช่น
"การทำงานพาร์ตไทม์ทำให้เราดูน่าเกลียดจริง ๆ มันคือความจริง"
"เรื่องนี้มองง่าย ๆ เจ้านายเห็นคุณค่าและคุณก็สร้างรายได้ให้บริษัท เขาจึงพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการแปลก ๆ ของคุณ ซึ่งนั่นก็เป็นเฉพาะกรณีที่คุณยังมีค่าต่อเขาอยู่เท่านั้น"
"ทุกคนควรใส่ใจในสมดุลระหว่างงานกับการใช้ชีวิต เพื่อให้เกิดความสุขทั้งกายใจ"
"ในขณะที่ทำงานหนัก คุณควรใส่ใจสุขภาพและคุณภาพชีวิตของคุณด้วย"
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก HK01