เผยเคล็ดลับช่วยประหยัดไฟ เริ่มได้จากตู้เย็น ทำง่าย ๆ แค่ใส่ถ้วยน้ำ แถมมีประโยชน์มากกว่าแค่เซฟค่าไฟ
ภาพจาก jajam_e / Shutterstock.com
วันที่ 27 เมษายน 2567 เว็บไซต์ Soha แนะนำเคล็ดลับช่วยประหยัดไฟที่สามารถทำได้กับอุปกรณ์ที่มีแทบทุกบ้านอย่าง ตู้เย็น ซึ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานสูง เนื่องจากต้องเสียบไว้ทั้งวันทั้งคืน แต่บางครั้งหากเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใช้งานเพียงเล็กน้อย ก็อาจจะช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากขึ้น
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Vietnam Electricity Group (EVN) เปิดเผย หนึ่งในเคล็ดลับที่จะช่วยประหยัดไฟฟ้าสำหรับตู้เย็นคือ "การใส่ชามน้ำไว้ข้างใน" โดยเฉพาะทุกคืนก่อนเข้านอน เพียงแค่มีชาม / ถาด / ถ้วย ซึ่งใส่น้ำไว้ด้านใน แล้วนำไปแช่ไว้ในช่องฟรีซ ปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืน เช้าวันรุ่งขึ้นจึงย้ายชามน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งแล้ว ไปไว้ภายในตู้เย็นช่องปกติ และทำขั้นตอนเช่นนี้เป็นประจำในทุกวัน
ตามคำอธิบายของผู้เชี่ยวชาญ วิธีข้างต้นสามารถทำได้ง่าย แต่มีประสิทธิภาพมากในการประหยัดพลังงานให้กับตู้เย็น เนื่องจากปกติตู้เย็นจะไม่ได้ถูกใช้งานในเวลากลางคืน การใส่น้ำหนึ่งชามในช่องแช่แข็งจะช่วยลดระยะเวลาในการทำความเย็น และลดการใช้พลังงานเมื่อเทียบกับตอนกลางวัน
ขณะที่การย้ายชามใส่น้ำแข็งไปที่ตู้เย็นปกติ จะทำให้น้ำแข็งในชามค่อย ๆ ละลาย ในขั้นตอนนี้จะส่งผลให้เกิดความเย็น ตู้เย็นจะอยู่ในอุณหภูมิที่ตั้งไว้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้าเยอะ นอกจากนี้ชามน้ำแข็งยังให้ไอน้ำแก่อาหารมากขึ้น ช่วยให้ผักและผลไม้ไม่เหี่ยวเร็ว คงความสดและสารอาหารได้ยาวนานขึ้น
- ผู้ใช้ควรเพิ่มหรือลดอุณหภูมิตู้เย็นให้เหมาะสมตามปริมาณอาหาร วัตถุดิบในตู้เย็น
2. ใส่พลาสติกโฟม
- กรณีในตู้เย็นไม่ได้มีวัตถุดิบเยอะมาก สามารถใส่แท่งโฟมพลาสติกในช่องตู้เย็นที่เว้นว่าง เพื่อลดปริมาณพื้นที่ที่ต้องทำให้เย็นลงเพื่อช่วยประหยัดไฟฟ้า
3. ใช้แผ่นใสเป็นผ้าม่าน
- สามารถติดตั้งแผ่นใสที่มีขนาดใหญ่กว่าประตูตู้เย็นเล็กน้อยเป็นม่านเพื่อป้องกันการหมุนเวียนระหว่างอากาศเย็นภายในและอากาศร้อนภายนอกเมื่อเปิดประตูตู้เย็น
4. วางตู้เย็นไว้ในที่เย็นและมีอากาศถ่ายเท
- ตามที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวไว้ คุณควรเก็บตู้เย็นไว้ในที่เย็น โดยห่างจากผนังอย่างน้อย 15-20 เซนติเมตร เพื่อใช้ประโยชน์จากอากาศเย็นรอบ ๆ ช่วยให้ตู้เย็นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. เว้นพื้นที่ไว้ในตู้เย็น
- ไม่ควรใส่ของเข้าไปจนเต็มตู้เย็น เพื่อให้อากาศเย็นสามารถไหลเวียนได้ทั่วถึงทั่วทั้งตู้เย็น ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า
6. รอให้อาหารเย็นก่อนแช่
- การใส่อาหารร้อนในตู้เย็นจะทำให้อุณหภูมิภายในเพิ่มขึ้น และตู้เย็นจะใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้นเพื่อทำความเย็นกลับมา
7. ใช้ภาชนะโลหะ
- โลหะนำความร้อนได้ดีกว่าพลาสติก ดังนั้นการใช้ภาชนะโลหะจะช่วยให้อาหารเย็นเร็วขึ้น ลดเวลาและไฟฟ้าที่ต้องใช้
8. หมั่นทำความสะอาดตู้เย็น
- ทำความสะอาดคอยล์ร้อน และตัวกรอง เพื่อให้ตู้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และไม่เปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น
ขอบคุณข้อมูลจาก soha
ภาพจาก jajam_e / Shutterstock.com
วันที่ 27 เมษายน 2567 เว็บไซต์ Soha แนะนำเคล็ดลับช่วยประหยัดไฟที่สามารถทำได้กับอุปกรณ์ที่มีแทบทุกบ้านอย่าง ตู้เย็น ซึ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานสูง เนื่องจากต้องเสียบไว้ทั้งวันทั้งคืน แต่บางครั้งหากเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใช้งานเพียงเล็กน้อย ก็อาจจะช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากขึ้น
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Vietnam Electricity Group (EVN) เปิดเผย หนึ่งในเคล็ดลับที่จะช่วยประหยัดไฟฟ้าสำหรับตู้เย็นคือ "การใส่ชามน้ำไว้ข้างใน" โดยเฉพาะทุกคืนก่อนเข้านอน เพียงแค่มีชาม / ถาด / ถ้วย ซึ่งใส่น้ำไว้ด้านใน แล้วนำไปแช่ไว้ในช่องฟรีซ ปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืน เช้าวันรุ่งขึ้นจึงย้ายชามน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งแล้ว ไปไว้ภายในตู้เย็นช่องปกติ และทำขั้นตอนเช่นนี้เป็นประจำในทุกวัน
ตามคำอธิบายของผู้เชี่ยวชาญ วิธีข้างต้นสามารถทำได้ง่าย แต่มีประสิทธิภาพมากในการประหยัดพลังงานให้กับตู้เย็น เนื่องจากปกติตู้เย็นจะไม่ได้ถูกใช้งานในเวลากลางคืน การใส่น้ำหนึ่งชามในช่องแช่แข็งจะช่วยลดระยะเวลาในการทำความเย็น และลดการใช้พลังงานเมื่อเทียบกับตอนกลางวัน
ขณะที่การย้ายชามใส่น้ำแข็งไปที่ตู้เย็นปกติ จะทำให้น้ำแข็งในชามค่อย ๆ ละลาย ในขั้นตอนนี้จะส่งผลให้เกิดความเย็น ตู้เย็นจะอยู่ในอุณหภูมิที่ตั้งไว้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้าเยอะ นอกจากนี้ชามน้ำแข็งยังให้ไอน้ำแก่อาหารมากขึ้น ช่วยให้ผักและผลไม้ไม่เหี่ยวเร็ว คงความสดและสารอาหารได้ยาวนานขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีอีก 8 เคล็ดลับที่ช่วยให้การใช้ตู้เย็น ประยัดไฟมากขึ้น ประกอบด้วย
1. ปรับอุณหภูมิ
- ผู้ใช้ควรเพิ่มหรือลดอุณหภูมิตู้เย็นให้เหมาะสมตามปริมาณอาหาร วัตถุดิบในตู้เย็น
2. ใส่พลาสติกโฟม
- กรณีในตู้เย็นไม่ได้มีวัตถุดิบเยอะมาก สามารถใส่แท่งโฟมพลาสติกในช่องตู้เย็นที่เว้นว่าง เพื่อลดปริมาณพื้นที่ที่ต้องทำให้เย็นลงเพื่อช่วยประหยัดไฟฟ้า
3. ใช้แผ่นใสเป็นผ้าม่าน
- สามารถติดตั้งแผ่นใสที่มีขนาดใหญ่กว่าประตูตู้เย็นเล็กน้อยเป็นม่านเพื่อป้องกันการหมุนเวียนระหว่างอากาศเย็นภายในและอากาศร้อนภายนอกเมื่อเปิดประตูตู้เย็น
4. วางตู้เย็นไว้ในที่เย็นและมีอากาศถ่ายเท
- ตามที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวไว้ คุณควรเก็บตู้เย็นไว้ในที่เย็น โดยห่างจากผนังอย่างน้อย 15-20 เซนติเมตร เพื่อใช้ประโยชน์จากอากาศเย็นรอบ ๆ ช่วยให้ตู้เย็นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. เว้นพื้นที่ไว้ในตู้เย็น
- ไม่ควรใส่ของเข้าไปจนเต็มตู้เย็น เพื่อให้อากาศเย็นสามารถไหลเวียนได้ทั่วถึงทั่วทั้งตู้เย็น ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า
6. รอให้อาหารเย็นก่อนแช่
- การใส่อาหารร้อนในตู้เย็นจะทำให้อุณหภูมิภายในเพิ่มขึ้น และตู้เย็นจะใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้นเพื่อทำความเย็นกลับมา
7. ใช้ภาชนะโลหะ
- โลหะนำความร้อนได้ดีกว่าพลาสติก ดังนั้นการใช้ภาชนะโลหะจะช่วยให้อาหารเย็นเร็วขึ้น ลดเวลาและไฟฟ้าที่ต้องใช้
8. หมั่นทำความสะอาดตู้เย็น
- ทำความสะอาดคอยล์ร้อน และตัวกรอง เพื่อให้ตู้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และไม่เปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก soha