แม่เลี้ยงเดี่ยวโต้เพจดัง หลังถูกแฉชีวิตสบายหลังได้เงินบริจาค ลั่นไม่เคยเปิดรับบริจาคสักครั้ง ทุกบาทหามาได้เอง เก็บเงินซื้อเอง สุดทนคนด่ามั่วจนต้องสวนคืน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว
จากกรณีเพจ อีซ้อขยี้ข่าว ออกมาแฉเรื่องของครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่ต้องเลี้ยงดู 9 ชีวิตในครอบครัว มีทั้งลูก น้องสาว และหลานชาย โดยพบว่าหลังทางครอบครัวได้รับเงินบริจาคไปมากมาย ลูกสาวก็เปลี่ยนไป เริ่มใส่เสื้อผ้าสวย ๆ ใช้โทรศัพท์ราคาแพง ซื้อมอเตอร์ไซค์มาแต่ง แถมยังโพสต์ข้อความเผ็ดร้อนตอบโต้ คนที่ทักไปถามเรื่องการนำเงินบริจาคไปใช้อีกด้วย โดยชี้ว่าตนเหนื่อยทำงานหาเงินมา ก็อยากซื้อของที่อยากได้นั้น
อ่านข่าว : เพจดังแฉ ครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวแบก 9 ชีวิต ลูกสาวเปลี่ยนไปหลังได้เงินบริจาค
ภาพจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส
ล่าสุด (28 เมษายน 2567) เฟซบุ๊ก โหนกระแส รายงานว่า ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่ห้องแถวของแม่เลี้ยงเดี่ยวรายนี้ พบว่าทั้งหมดได้ขนของย้ายออกจากที่พักไปแล้ว โดยเพื่อนข้างห้องให้ข้อมูลว่า ครอบครัวนี้ขนของย้ายออกไปตั้งแต่นักข่าวลงมาช่วยเหลือและเปิดรับบริจาคได้ไม่ถึง 1-2 เดือน แต่ไม่ทราบว่าย้ายไปไหน รู้แค่หนีไปทำงานแถว จ.สตูล
เพื่อนบ้านยังเผยว่า หลังครอบครัวนี้ได้รับเงินบริจาคไป ชีวิตของทุกคนก็เริ่มเปลี่ยน เห็นมีการซื้อมอเตอร์ไซค์แต่งซิ่ง และซื้อสมาร์ตโฟนเครื่องใหม่ ไม่ได้ใช้ชีวิตน่าสงสารตามที่เป็นข่าว แถมยังใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย ได้มาเท่าไหร่ก็ใช้หมดไม่คิดจะเก็บ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว
นอกจากนี้ เรื่องที่บอกว่าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวก็ไม่ใช่ความจริง เพราะหญิงรายนี้มีสามี ยังไปมาหาสู่กันตลอด แต่โกหกนักข่าวให้ดูน่าสงสาร ขณะที่เสื้อผ้า ชุดนักเรียน ที่บริจาคให้มา คนเหล่านี้ก็ใส่เพียงครั้งเดียว ขี้เกียจซัก ตัวไหนไม่ถูกใจก็ใส่ถุงดำโยนทิ้งไว้หน้าบ้าน ตนเห็นมากับตาแล้วก็รู้สึกเสียดาย แต่พูดอะไรไม่ได้
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ไปตามหาครอบครัวดังกล่าวถึง จ.สตูล จนพบว่าครอบครัววนี้ได้ไปทำงานในโรงงานยางพาราแผ่นแห่งหนึ่ง โดยเด็ก ๆ ทั้งหมดกำลังทำงานอย่างขยันขันแข็ง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว
ด้านแม่เลี้ยงเดี่ยวเปิดใจว่า ตนทราบกระแสดราม่าที่เกิดขึ้นแล้ว ยอมรับว่าตกใจมาก ที่อยู่ ๆ ก็ถูกทัวร์ลงหนัก มีคนเข้ามาด่าในคอมเมนต์ลูกสาวกว่า 40,000 คน ซึ่งตนขอยืนยันว่าข้อมูลที่เพจดังนำไปโพสต์นั้น ไม่ใช่ความจริง ครอบครัวตนไม่เคยเปิดรับบริจาคเงินสักครั้ง
ทั้งนี้ ยอมรับว่า หลังมีการนำเสนอข่าว มีคนติดต่อมาเพื่อจะโอนเงินช่วยเหลือจริง โดยมีแค่ 2 คนเท่านั้น คือ ผู้ใหญ่ใจดีเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่ง โอนเงินมา 1,000 บาท ช่วยค่ากิน และพี่ผู้หญิงที่ทำงานอยู่ต่างประเทศ โอนเงินมา 2,000 บาท เพื่อช่วยค่าไฟและค่าเช่าห้องที่เคยติดค้างไว้ รวมเงินทั้งหมดที่ได้หลังออกข่าวแค่ 3,000 บาท
นอกจากนั้นตนไม่เคยได้รับเงินส่วนอื่นอีก ทุก ๆ บาทตนเป็นคนหามาด้วยหยาดเหงื่อและน้ำพักน้ำแรง เพื่อเลี้ยงลูก ๆ ส่วนเรื่องมอเตอร์ไซค์นั้น ยอมรับว่าซื้อมาใช้งานจริงเพื่อขับไปส่งลูกเรียน ซึ่งก็ซื้อมาด้วยเงินที่ตนรับจ้างกรีดยางและรับจ้างทำแผ่นยางพารา
ส่วนโทรศัพท์มือถือ iPhone ของลูกสาว ลูกสาวก็เก็บเงินจากที่ช่วยตนรับจ้างทำแผ่นยางพารา ซื้อต่อเป็นเครื่องมือสองจากรุ่นพี่ ในราคา 2,000 บาท ไม่ใช่เครื่องเป็นหมื่น ๆ ตามที่มีข่าว
ตนขอยืนยันอีกครั้ง ว่าพวกตนและลูก ๆ ไม่ได้มีชีวิตสุขสบาย และทุกวันนี้ตนกับลูกทั้งหมดยังต้องช่วยกันทำมาหากิน แม้ตนกับลูก ๆ จะจน แต่ก็ไม่เคยคิดขอเปิดรับบริจาคเงินของใคร เงินทุกบาท ตนกับลูก ๆ ช่วยกันหามาด้วยตัวเองทั้งนั้น วอนคนที่เข้ามาด่าช่วยมาดูพวกตนทำงานบ้าง ไม่ใช่เชื่อตามเพจแล้วมาด่าอย่างเดียว ยอมรับว่าที่ต้องด่ากลับ ก็เพราะโมโหเหมือนกันที่ถูกด่ามั่ว ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว
จากกรณีเพจ อีซ้อขยี้ข่าว ออกมาแฉเรื่องของครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่ต้องเลี้ยงดู 9 ชีวิตในครอบครัว มีทั้งลูก น้องสาว และหลานชาย โดยพบว่าหลังทางครอบครัวได้รับเงินบริจาคไปมากมาย ลูกสาวก็เปลี่ยนไป เริ่มใส่เสื้อผ้าสวย ๆ ใช้โทรศัพท์ราคาแพง ซื้อมอเตอร์ไซค์มาแต่ง แถมยังโพสต์ข้อความเผ็ดร้อนตอบโต้ คนที่ทักไปถามเรื่องการนำเงินบริจาคไปใช้อีกด้วย โดยชี้ว่าตนเหนื่อยทำงานหาเงินมา ก็อยากซื้อของที่อยากได้นั้น
อ่านข่าว : เพจดังแฉ ครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวแบก 9 ชีวิต ลูกสาวเปลี่ยนไปหลังได้เงินบริจาค
ภาพจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส
ล่าสุด (28 เมษายน 2567) เฟซบุ๊ก โหนกระแส รายงานว่า ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่ห้องแถวของแม่เลี้ยงเดี่ยวรายนี้ พบว่าทั้งหมดได้ขนของย้ายออกจากที่พักไปแล้ว โดยเพื่อนข้างห้องให้ข้อมูลว่า ครอบครัวนี้ขนของย้ายออกไปตั้งแต่นักข่าวลงมาช่วยเหลือและเปิดรับบริจาคได้ไม่ถึง 1-2 เดือน แต่ไม่ทราบว่าย้ายไปไหน รู้แค่หนีไปทำงานแถว จ.สตูล
เพื่อนบ้านยังเผยว่า หลังครอบครัวนี้ได้รับเงินบริจาคไป ชีวิตของทุกคนก็เริ่มเปลี่ยน เห็นมีการซื้อมอเตอร์ไซค์แต่งซิ่ง และซื้อสมาร์ตโฟนเครื่องใหม่ ไม่ได้ใช้ชีวิตน่าสงสารตามที่เป็นข่าว แถมยังใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย ได้มาเท่าไหร่ก็ใช้หมดไม่คิดจะเก็บ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว
นอกจากนี้ เรื่องที่บอกว่าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวก็ไม่ใช่ความจริง เพราะหญิงรายนี้มีสามี ยังไปมาหาสู่กันตลอด แต่โกหกนักข่าวให้ดูน่าสงสาร ขณะที่เสื้อผ้า ชุดนักเรียน ที่บริจาคให้มา คนเหล่านี้ก็ใส่เพียงครั้งเดียว ขี้เกียจซัก ตัวไหนไม่ถูกใจก็ใส่ถุงดำโยนทิ้งไว้หน้าบ้าน ตนเห็นมากับตาแล้วก็รู้สึกเสียดาย แต่พูดอะไรไม่ได้
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ไปตามหาครอบครัวดังกล่าวถึง จ.สตูล จนพบว่าครอบครัววนี้ได้ไปทำงานในโรงงานยางพาราแผ่นแห่งหนึ่ง โดยเด็ก ๆ ทั้งหมดกำลังทำงานอย่างขยันขันแข็ง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว
ด้านแม่เลี้ยงเดี่ยวเปิดใจว่า ตนทราบกระแสดราม่าที่เกิดขึ้นแล้ว ยอมรับว่าตกใจมาก ที่อยู่ ๆ ก็ถูกทัวร์ลงหนัก มีคนเข้ามาด่าในคอมเมนต์ลูกสาวกว่า 40,000 คน ซึ่งตนขอยืนยันว่าข้อมูลที่เพจดังนำไปโพสต์นั้น ไม่ใช่ความจริง ครอบครัวตนไม่เคยเปิดรับบริจาคเงินสักครั้ง
ทั้งนี้ ยอมรับว่า หลังมีการนำเสนอข่าว มีคนติดต่อมาเพื่อจะโอนเงินช่วยเหลือจริง โดยมีแค่ 2 คนเท่านั้น คือ ผู้ใหญ่ใจดีเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่ง โอนเงินมา 1,000 บาท ช่วยค่ากิน และพี่ผู้หญิงที่ทำงานอยู่ต่างประเทศ โอนเงินมา 2,000 บาท เพื่อช่วยค่าไฟและค่าเช่าห้องที่เคยติดค้างไว้ รวมเงินทั้งหมดที่ได้หลังออกข่าวแค่ 3,000 บาท
นอกจากนั้นตนไม่เคยได้รับเงินส่วนอื่นอีก ทุก ๆ บาทตนเป็นคนหามาด้วยหยาดเหงื่อและน้ำพักน้ำแรง เพื่อเลี้ยงลูก ๆ ส่วนเรื่องมอเตอร์ไซค์นั้น ยอมรับว่าซื้อมาใช้งานจริงเพื่อขับไปส่งลูกเรียน ซึ่งก็ซื้อมาด้วยเงินที่ตนรับจ้างกรีดยางและรับจ้างทำแผ่นยางพารา
ส่วนโทรศัพท์มือถือ iPhone ของลูกสาว ลูกสาวก็เก็บเงินจากที่ช่วยตนรับจ้างทำแผ่นยางพารา ซื้อต่อเป็นเครื่องมือสองจากรุ่นพี่ ในราคา 2,000 บาท ไม่ใช่เครื่องเป็นหมื่น ๆ ตามที่มีข่าว
ตนขอยืนยันอีกครั้ง ว่าพวกตนและลูก ๆ ไม่ได้มีชีวิตสุขสบาย และทุกวันนี้ตนกับลูกทั้งหมดยังต้องช่วยกันทำมาหากิน แม้ตนกับลูก ๆ จะจน แต่ก็ไม่เคยคิดขอเปิดรับบริจาคเงินของใคร เงินทุกบาท ตนกับลูก ๆ ช่วยกันหามาด้วยตัวเองทั้งนั้น วอนคนที่เข้ามาด่าช่วยมาดูพวกตนทำงานบ้าง ไม่ใช่เชื่อตามเพจแล้วมาด่าอย่างเดียว ยอมรับว่าที่ต้องด่ากลับ ก็เพราะโมโหเหมือนกันที่ถูกด่ามั่ว ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส