รีวิวราเมงพรีเมียม ชามละ 900 แต่กินไม่อิ่ม แต่พอฟังที่เชฟมาตอบ คนถึงกับรีบจองไปกิน

          คนรีวิวราเมนพรีเมียมร้านเปิดใหม่ ไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้ ชามทั่วไป หมูไม่อร่อย กินไม่อิ่ม รวม 2 ชามเสียไป 2,000 กว่าบาท ด้านเจ้าของร้านมาตอบให้ฟัง ทำเอาคนกดไลก์นับหมื่น


          เรื่องของอาหารและรสชาติที่ถูกปากนั้น ถือเป็นเรื่องปัจเจกมาก ๆ แต่ร้านไหนที่ตั้งราคาอาหารแพงกว่าปกติทั่วไป ก็ย่อมถูกคาดหวังว่าจะอร่อยสมกับราคาที่ตั้งไว้ ซึ่งล่าสุด 30 เมษายน 2567 ได้มีคนหนึ่งไปกินราเมนที่ร้านแห่งหนึ่งซึ่งเป็นร้านเปิดใหม่ โดยพบว่าราเมนชามละกว่า 900 บาท กลับทำให้ไม่อิ่ม จนเธอก็ไม่ประทับใจอย่างแรง

          ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก Patrinupoorinat Vonhipplelindau Puata ได้เผยว่า ตนได้ไปรับประทานราเมนที่ร้านหนึ่งแถวอารีย์ และตั้งแต่ช่วงเวลา 20.00 น. เป็นต้นไป ร้านจะขายแค่เมนูพิเศษ ซึ่งราคาราเมนจะบวกเพิ่มเป็น 800-900 บาท จนทำให้เกิดความคาดหวังสูงตามมา เธอกินราเมน 2 ชามรวมน้ำเปล่าและน้ำอัดลม ราคาทั้งหมด 2,000 บาท คิดว่าอย่างไรราเมนน่าจะอลังการแน่นอน แต่พอถึงเวลาเสิร์ฟ กลับมีจุดทำให้ตกใจหลายอย่าง


          - ขนาดของราเมนไม่ได้ใหญ่อลังการกว่าทั่วไป ชามที่ใช้ก็ขนาดชามราเมนปกติ

          - เส้นราเมนแข็ง ๆ ไม่สู้ลิ้น ฟีลเหมือนเส้นสำเร็จรูป ไม่รู้ว่าเป็นเส้นทำเองหรือไม่

          - น้ำซุปเหมือนจะดีแต่ดีกว่านี้ได้อีก บางร้านที่ราคา 200-300 บาท ยังรู้สึกว่าน้ำซุปนัวและเข้มข้นมากกว่า

          - น้ำซุปที่เสิร์ฟมาแค่อุ่น ไม่ร้อน ไม่ทราบว่าเป็นความตั้งใจของร้านหรือเปล่าที่ทำให้แค่อุ่น เพื่อให้ลูกค้ากินได้ง่าย

          - หมูชาชูไม่อร่อยเท่าไร

          - ปลากับเนื้อที่เห็นในภาพ ยอมรับว่าวัตถุดิบดี แต่ก็มัน... อาจจะผิดที่เธอเข้าไม่ถึงเองก็ได้ อาจจะอร่อยสำหรับคนอื่น

          นอกจากนี้ เธอยังบอกว่า ปกติร้านนี้ตอนกลางวันขายอาหารเมนูปกติ ราเมน 200-500 บาท แต่กลางคืนจะขายราเมนราคา 800-900 ซึ่งพอกินแล้วก็ไม่อิ่ม ต้องไปกินข้าวที่ย่านบรรทัดทองต่อ เห็นราคาแล้วจุกกับสิ่งที่ได้ อย่างน้อยเส้นควรอร่อย ซุปให้สุดกว่านี้ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงแล้วแต่คนชอบ เพราะเธอเจอหลายร้านที่ราเมนราคาไม่ถึง 500 บาท แต่อร่อยจนต้องกลับไปจองคิวกินอีกรอบให้ได้

          อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ได้ถูกแชร์กันไปมหาศาล จนกระทั่งเฟซบุ๊ก Kulapol Air Samsen ซึ่งเป็นทั้งเชฟละเจ้าของร้านได้เข้ามาอธิบายเป็นข้อ ๆ ดังนี้


          - เรื่องของรูปแบบร้านนั้น จะเป็นร้านราเมนในตอนกลางวัน สาเกบาร์และกับแกล้มในตอนกลางคืน และเพื่อไม่ให้บรรยากาศตอนกลางคืนพลุกพล่าน ให้ความสงบกับลูกค้าที่อยากมาผ่อนคลาย ทางร้านจึงขายเฉพาะราเมนพรีเมียม ซึ่งนับตั้งแต่เปิดร้านมาได้ 2 เดือน เราก็เห็นจุดบกพร่องนี้อยู่ ทั้งการสื่อสารที่ทำให้คนทานไม่รู้สึกคุ้มค่าในแง่คุณภาพ เราต้องขอบคุณสำหรับคำแนะนำ และจะนำไปปรับปรุงต่อไป

          - เรื่องชามของราเมนขนาดเหมือนทั่วไป เรื่องนี้เข้าใจถูก เพราะราคาที่แพงนั้นเกิดจากราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นมา และคิดราคาตามเนื้อผ้า ความพึงพอใจของลูกค้าสำคัญมาก หากเรายังทำตรงนั้นไม่สำเร็จ ก็ต้องขออภัยและจะพัฒนาให้ดีขึ้นต่อไป

          - เส้นเป็นเส้นสั่งทำที่พัฒนาสูตรร่วมกับโรงงานของคนญี่ปุ่น ใช้แป้งญี่ปุ่น และอาจจะเป็นความผิดพลาดของหน้าร้านที่ไม่ได้แนะนำให้ลูกค้าเลือกความแข็งของเส้นได้

          - เรื่องน้ำซุปเป็นความชอบส่วนบุคคล เสน่ห์น้ำซุปแต่ละร้านจะต่างกันออกไป ให้ลูกค้าเลือกร้านที่รสชาติถูกปากได้เลย ส่วนเรื่องหมูชาชูก็เช่นกัน ที่เป็นสูตรของแต่ละร้าน แล้วแต่ความพึงพอใจของลูกค้า

          - ความร้อนของซุป เราตั้งใจให้ร้อน ถ้าไม่ร้อนคือพลาด ทีมงานทำไม่เร็วพอ

          - ที่ลูกค้าบอกว่าเข้าไม่ถึง ไม่มีอยู่จริง มีแค่ชอบกับไม่ชอบ และความชอบก็เป็นเรื่องแล้วแต่บุคคล การที่ร้านไม่สามารถสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้ แปลว่ายังต้องพัฒนาได้อีก จะสู้ต่อไป

          "ทั้งนี้การที่เราทำให้ลูกค้ารู้สึกในแง่ลบ ถึงขนาดต้องมาโพสต์ ถือเป็นความล้มเหลวของทางร้านเป็นอย่างยิ่ง และเราจะพัฒนารูปแบบ อาหาร และบริการของเราให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ยังไงต้องกราบขออภัยในความอ่อนหัด และกราบขอบพระคุณสำหรับคำติชมอย่างตรงไปตรงมาจากเจ้าของโพสต์ และลูกค้าทุกท่านที่เคยไปรับประทานมา เรายังเป็นร้านใหม่ เรายังต้องเรียนรู้และพัฒนาอีกเยอะเพื่อให้ได้เป็นหนึ่งในราเมนที่ทุกท่านสบายใจที่จะรับประทาน

          ในส่วนของท่านใดที่ยังไม่เคยมารับประทาน แต่มาร่วมคอมเมนต์เสีย ๆ หาย ๆ แนะนำให้มารับประทานด้วยตนเองก่อนนะครับ ชอบหรือไม่ชอบ ทางเรายินดีรับฟังความคิดเห็นทั้งหมดขอรับ"


          เรื่องนี้ทำเอาคนถึงกับเข้ามาชื่นชมในการตอบของเชฟ ที่ตอบได้อย่างมีวุฒิภาวะ ไม่ใส่อารมณ์ รับฟังและนำคำติชมที่แม้บางอย่างจะไม่สบหูบ้าง เพื่อนำไปปรับปรุงต่อไป จนมีคนมากดไลก์นับหมื่น และสัญญาว่าจะไปลองกินดู