นักโทษหนีคดีมาไทย สุดท้ายขอยอมกลับไปเข้าคุกที่บ้านเกิด ยอมรับ เมืองไทยห่วยกว่าที่คิด

 
                นักโทษคดีอนาจาร หลบหนีคดีมาอยู่ในไทย อยู่มาอยู่ไป 6 ปี ขอกลับไปเข้าคุกที่บ้านเกิด ยอมรับว่า ชีวิตที่เมืองไทยมันแย่กว่าที่คิด

             ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2017 นายลิ้มได้ถามทางไปห้องสมุด Bishan กับเหยื่อคนแรกวัย 17 ปีคนหนึ่ง จากนั้นก็บอกว่าเขากำลังทำวิจัยด้านจิตวิทยาและเริ่มถามถึงข้อมูลส่วนตัวของเธอ อันเป็นเหตุให้เหยื่อรู้สึกอึดอัดและพยายามเดินหนี นายลิ้มก็เดินตามและบอกให้เธอพาเขาไปส่งที่ห้องสมุด แต่หญิงสาวปฏิเสธ จึงทำให้นายลิ้มพูดว่า "งั้นผมขอดูดนมได้ไหม"

             เมื่อได้ยินดังนั้น เหยื่อก็ช็อกหนักมากและตะโกนไล่นายลิ้ม พร้อมกับขู่ว่าจะแจ้งตำรวจ นายลิ้มจึงหนีไป

             ต่อมาในวันที่ 2 กรกฎาคม 2017 นายลิ้มได้เจอกับเหยื่อผู้หญิงรายที่ 2 เขาแกล้งเดินไปถามทางที่จะอาคาร 310B ในย่านอั่งโม่เกียว และหลังจากที่เหยื่อบอกทาง เขาก็พูดกับเหยื่อว่า "ขอมีอะไรด้วยได้ไหมครับ นมคุณใหญ่มากเลย" เมื่อเหยื่อได้ยินก็ตกใจและยกมือห้ามและเดินหนี

  
             จากนั้นในวันที่ 2 สิงหาคม 2017 นายลิ้มก็ได้เจอเหยื่อคนที่ 3 และแกล้งถามทางไป upper thomson road หลังจากนั้นเขาก็ถามเหยื่อว่า "นมคุณใหญ่มาก ขอจับได้ไหม" ซึ่งเหยื่อได้ปฏิเสธและเดินหนีไป

             ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2017 นายลิ้มยังได้กระทำอนาจารด้วยการช่วยตัวเองในที่สาธารณะต่อหน้าผู้หญิงคนหนึ่ง จนกระทั่งเขาถูกจับกุมตัวและมีกำหนดขึ้นศาลในวันที่ 24 ตุลาคม 2017 ทว่านายลิ้มได้หลบหนีไปกบดานในไทยก่อน

             ทั้งนี้ คำตัดสินของศาลระบุว่า อัยการได้ร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งจำคุกนายลิ้มเป็นเวลา 30-36 เดือน และการกระทำผิดของเขาถือว่าร้ายแรงมาก เพราะมีเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีเจ้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งนายลิ้มเองก็ยังไม่สำนึกผิด และกล่าวโทษตำรวจด้วยว่าเป็นคนที่อนุญาตให้เขาออกจากสิงคโปร์เอง แต่ทางทนายของนายลิ้มก็แย้งว่า เหตุที่นายลิ้มหนีออกนอกจากสิงคโปร์ ไม่ใช่เพราะเขาไม่เกรงกลัวกฎหมายหรือเพราะว่าเขาไม่สำนึกผิด แต่เป็นเพราะเขาต้องการหนีออกจากความเป็นจริง

             สุดท้ายแล้ว เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2024 หลังจากเวลากว่า 6 ปีที่นายลิ้มหลบหนีคดีจากสิงคโปร์เข้ามาที่ประเทศไทย นายลิ้มก็ได้กลับเข้าสิงคโปร์อีกครั้ง พร้อมกับยอมรับว่า ชีวิตในเมืองไทยนั้น ลำบากกว่าที่เขาคิด ซึ่งทางทนายก็บอกว่า นายลิ้มได้หาทางที่จะจัดการกับแรงกระตุ้นทางเพศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ได้ก่อคดีทางเพศใด ๆ ในระหว่างที่กบดานในเมืองไทย แต่ทางอัยการก็บอกว่า ไม่มีทางที่จะพิสูจน์ได้ว่านายลิ้มไม่ได้ก่ออาชญากรรมทางเพศใด ๆ ที่เมืองไทยอีก และสั่งจำคุกนายลิ้มเป็นเวลา 9 เดือน