สาวอยากเป็นหมอ สอบแพทย์ 6 ครั้ง จนครั้งที่ 7 สอบติด ม.เอกชน แต่ไม่มีทุนเรียน ค่าเทอม 7 แสนหวังผู้ใจบุญบริจาคหรือให้กู้เรียน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส
หญิงวัย 33 ปี เผยว่า ตนมีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นหมอมาก เพราะอยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ หลังจากจบปริญญาตรี สาขาสาธารณสุขศาสตร์แล้ว ได้อ่านหนังสืออย่างหนักมาตั้งแต่ปี 2560 และได้ไปสอบเพื่อจะเรียนแพทย์มาทุกปี เป็นเวลา 6 ปี สอบ 6 ครั้ง จนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 สามารถสอบติด
โดยหลักสูตร 6 ปี ค่าเทอมจ่ายครั้งแรกกว่า 7 แสนบาท ครั้งต่อไปจ่ายเทอมละ 6 แสนบาท ค่าเรียนตลอดทั้ง 6 ปี ประมาณ 7.2 ล้านบาท แต่ทางครอบครัวไม่มีเงินให้ จึงคุยกันว่าจะออกวิ่งเพื่อขอรับบริจาคเป็นทุนการศึกษา แต่นางมาลีรัตน์ แก้วก่า อดีต สว.สกลนคร ได้ห้ามไว้ เพราะอาจจะเกิดอันตรายเนื่องจากอากาศร้อน
ด้าน นางมาลีรัตน์ กล่าวให้กำลังใจในความมุมานะบากบั่นเป็นเวลาหลายปีจนประสบผลสำเร็จ พร้อมกับแนะนำว่า หากไม่ได้เรียนในปีนี้ก็อย่าเสียใจ ให้หาเงินเก็บไว้เพื่อสอบใหม่ในมหาวิทยาลัยของรัฐ ค่าใช้จ่ายจะได้ไม่สูง และมอบเงินไว้ให้เป็นทุนจำนวนหนึ่ง ที่ทั้งสองจะโผเข้ากอดกันร่ำไห้ด้วยความตื้นตันใจ
สุดท้าย หญิงสาวได้ให้สัญญาว่า
ถ้าได้เรียนหมอจะไม่ลืมบุญคุณทุกคนที่ช่วยให้ได้เรียน
หากจบมาจะให้ตอบแทนอย่างไรก็ได้
จะตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือเด็กและผู้ด้อยโอกาส
หลังเรื่องราวนี้ถูกแชร์ออกไป โลกออนลไน์ต่างแสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ ส่วนใหญ่มองว่า เคสนี้ไม่เหมาะสม เพราะถือว่าเรียนจบ ปริญญาตรีมาแล้ว ตลอดเวลาสามารถทำงานเก็บเงินสานฝันตัวเองได้ นอกจากนี้ การไปเรียนแพทย์เอกชนย่อมมีค่าใช้จ่ายสูงอยู่แล้ว จึงมองว่าควรจะสอบแพทย์มหาลัยรัฐให้ติดและขอทุนจะง่ายกว่ามาขอบริจาคเงินจำนานมากเช่นนี้
ขณะที่บางส่วนวิเคราะห์ว่า เพราะที่ผ่านมามีคนไทยใจบุญเยอะ จึงเริ่มจะเห็นเคสเปิดบริจาคค่าเทอมเรียนหมอบ่อยมากในช่วงหลัง ๆ แม้บางเคสก็จะอยู่ไม่ได้ยากไร้โอกาสเท่าไหร่ก็ตาม เป็นต้น
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เพจเฟซบุ๊ก โหนกระแส รายงานว่า สาวเรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ยังมีความฝันอยากเป็นหมอ อ่านหนังสือมาตั้งแต่ปี 2560 สอบแพทย์มาแล้ว 6 ครั้ง จนครั้งที่ 7 ถึงติด อยากทำงานช่วยคนแต่ไม่มีทุนเรียน เพราะมหาวิทยาลัยเอกชนค่าเล่าเรียนสูง ต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ ยืนยันว่าหากได้เรียนจะเป็นหมอที่ดีภาพจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส
หญิงวัย 33 ปี เผยว่า ตนมีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นหมอมาก เพราะอยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ หลังจากจบปริญญาตรี สาขาสาธารณสุขศาสตร์แล้ว ได้อ่านหนังสืออย่างหนักมาตั้งแต่ปี 2560 และได้ไปสอบเพื่อจะเรียนแพทย์มาทุกปี เป็นเวลา 6 ปี สอบ 6 ครั้ง จนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 สามารถสอบติด
โดยหลักสูตร 6 ปี ค่าเทอมจ่ายครั้งแรกกว่า 7 แสนบาท ครั้งต่อไปจ่ายเทอมละ 6 แสนบาท ค่าเรียนตลอดทั้ง 6 ปี ประมาณ 7.2 ล้านบาท แต่ทางครอบครัวไม่มีเงินให้ จึงคุยกันว่าจะออกวิ่งเพื่อขอรับบริจาคเป็นทุนการศึกษา แต่นางมาลีรัตน์ แก้วก่า อดีต สว.สกลนคร ได้ห้ามไว้ เพราะอาจจะเกิดอันตรายเนื่องจากอากาศร้อน
ด้าน นางมาลีรัตน์ กล่าวให้กำลังใจในความมุมานะบากบั่นเป็นเวลาหลายปีจนประสบผลสำเร็จ พร้อมกับแนะนำว่า หากไม่ได้เรียนในปีนี้ก็อย่าเสียใจ ให้หาเงินเก็บไว้เพื่อสอบใหม่ในมหาวิทยาลัยของรัฐ ค่าใช้จ่ายจะได้ไม่สูง และมอบเงินไว้ให้เป็นทุนจำนวนหนึ่ง ที่ทั้งสองจะโผเข้ากอดกันร่ำไห้ด้วยความตื้นตันใจ
หลังเรื่องราวนี้ถูกแชร์ออกไป โลกออนลไน์ต่างแสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ ส่วนใหญ่มองว่า เคสนี้ไม่เหมาะสม เพราะถือว่าเรียนจบ ปริญญาตรีมาแล้ว ตลอดเวลาสามารถทำงานเก็บเงินสานฝันตัวเองได้ นอกจากนี้ การไปเรียนแพทย์เอกชนย่อมมีค่าใช้จ่ายสูงอยู่แล้ว จึงมองว่าควรจะสอบแพทย์มหาลัยรัฐให้ติดและขอทุนจะง่ายกว่ามาขอบริจาคเงินจำนานมากเช่นนี้
ขณะที่บางส่วนวิเคราะห์ว่า เพราะที่ผ่านมามีคนไทยใจบุญเยอะ จึงเริ่มจะเห็นเคสเปิดบริจาคค่าเทอมเรียนหมอบ่อยมากในช่วงหลัง ๆ แม้บางเคสก็จะอยู่ไม่ได้ยากไร้โอกาสเท่าไหร่ก็ตาม เป็นต้น