ป้าติ๋ม แม่บ้านทำงานให้หญิงฝรั่งเศส สุดเศร้าเจ้านายที่ดูแลมากว่า 17 ปีเลือกจบชีวิต ก่อนพบยกมรดกให้มูลค่า 100 ล้าน สั่งเสียฝากดูแลแมว 3 ตัว
ภาพจาก ข่าวเที่ยงช่องวัน
วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 รายการข่าวเที่ยงช่องวัน ช่อง one 31 รายงานเรื่องราวของ ป๋าติ๋ม แม่บ้านซึ่งทำงานในบ้านพูลวิลล่าหรูของ นางแคทเทอร์รีน อายุ 59 ปี นักธุรกิจชาวฝรั่งเศส บนเกาะสมุย ก่อนที่นายจ้างชาวต่างชาติจะตัดสินใจจบชีวิตลง พร้อมเขียนมรดกยกทรัพย์สินมูลค่ากว่า 100 ล้านให้กับป้าติ๋มแม่บ้านซึ่งอยู่ดูแลด้วยกันมาอย่างยาวนาน
กรณีดังกล่าวเริ่มจากที่ตำรวจเข้าตรวจสอบร่างของ นางแคทเธอรีน นักธุรกิจชาวฝรั่งเศสเจ้าของพูลวิลล่าให้เช่าบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตัดสินใจใช้ปืนจบชีวิตตัวเองริมสระน้ำในวิลล่า ข้างศพก็พบปืนตกอยู่ พร้อมกับปลอกกระสุนปืนอยู่ใต้เตียง 1 ปลอกและพบรูกระสุนทะลุไปเจาะกระจกประตู หัวกระสุนไปตกในบ้าน 1 หัว ตรวจสอบบริเวณโต๊ะที่อยู่ข้างเตียงหวายสำหรับนอน พบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ในแก้วและบุหรี่ 1 ซองเจ้าหน้าที่ก็เก็บไว้เป็นหลักฐาน
ภาพจาก ข่าวเที่ยงช่องวัน
หลักฐานจากกล้องวงจรปิดพบว่า ก่อนเกิดเหตุ 28 เมษายน ตอน 11.00 น. ผู้ตายนั่งอยู่หน้าโน้ตบุ๊ก เหมือนกับพิมพ์อะไรบางอย่าง จากนั้นได้ลุกขึ้นไปเอาไม้เช็ดกระจกดันกล้องวงจรปิดลงกับพื้น ก่อนตัดสินใจจบชีวิตตัวเองในเวลาต่อมา
ป้าติ๋ม อายุ 49 ปี แม่บ้านซึ่งดูแลผู้ตายมาตลอด เล่าว่า รู้จักกับคุณแคทเธอรีนมานานกว่า 16-17 ปีแล้ว หลังจากเพื่อนของคุณแคทเธอรีนแนะนำให้ป้าสมัครไปทำงานเป็นแม่บ้านตอนนั้นเจ้านายอยู่กับสามีเก่า ซึ่งป้าก็เข้าไปทำงานแม่บ้านให้คุณแคทเธอรีนตั้งแต่นั้น
ภาพจาก ข่าวเที่ยงช่องวัน
ต่อมา คุณแคทเธอรีน ป่วยเป็นมะเร็งระยะแรก แต่รักษาจนหาย หลังจากนั้นเลิกรากับสามี ก่อนจะมาขอบัตรประชาชนของป้าไป ก็ไม่ได้เอะใจว่าเอาไปทำอะไร คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของการจ่ายเงินเดือน ก่อนจะทราบว่าเป็นการนำข้อมูลไปใส่ในพินัยกรรม เพราะก่อนเกิดเหตุ เจ้านายส่งข้อความไปหาเพื่อนว่าทำพินัยกรรมไว้ให้ นอกจากนี้เจ้านายยังทำเรื่องเงินเดือนกับเพื่อนที่เป็นลูกน้องอีก 2 คนไว้ให้เรียบร้อย บอกเลยว่าพรุ่งนี้ค่อยเจอกันนะ แต่สุดท้ายก็มาพบว่าเจ้านายตัดสินใจจบชีวิตตัวเองแล้ว
ป้าติ๋ม เปิดใจเสียงสั่น เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้านายโอนเงินเดือนให้เมื่อคืนแล้วก็เขียนว่าพรุ่งนี้เราค่อยเจอกัน มีเรื่องซับซ้อนต้องคุยกันแค่นั้น ส่วนกรณีเรื่องพินัยกรรม เจ้านายเคยขอบัตรประชาชนกับทะเบียนบ้านของตนไป ตอนที่เจ้านายเลิกกับแฟน แกก็ไปคุยกับทนายอะไรอย่างนี้ เพิ่งรู้ว่าเจ้านายแชตไปบอกกับเพื่อนแกถึงรายละเอียดทุกอย่าง แต่เราไม่อยากได้ รู้สึกเสียใจมาก เพราะเจ้านายเป็นคนดี
ภาพจาก ข่าวเที่ยงช่องวัน
รายละเอียดในพินัยกรรมของ นางแคทเธอรีน พบว่ามีทรัพย์สินประกอบด้วย บ้านพูลวิลล่าหลังที่เกิดเหตุพร้อมที่ดิน และมีที่ดินเปล่าที่อยู่ข้างพูลวิลล่าอีก 2 ไร่ รถยนต์หรู เครื่องประดับ แหวนเพชร เงินสดในธนาคาร รวมมูลค่า 100 ล้าน ยกให้กับ ป้าติ๋ม พร้อมสั่งเสียว่าฝากป้าติ๋มช่วยดูแลแม่แมวอีก 3 ตัวให้ด้วย ส่วน วิลล่าอีก 2 ได้มอบให้กับสามีเก่าชาวต่างชาติ
หลังได้รับมรดก ป้าติ๋ม เผยว่ายังคิดไม่ออก ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาไปทำอะไร แต่คงจะไม่ขายแน่นอน
ภาพจาก ข่าวเที่ยงช่องวัน
ภาพจาก ข่าวเที่ยงช่องวัน
ภาพจาก ข่าวเที่ยงช่องวัน
ภาพจาก ข่าวเที่ยงช่องวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวเที่ยงช่องวัน
ภาพจาก ข่าวเที่ยงช่องวัน
วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 รายการข่าวเที่ยงช่องวัน ช่อง one 31 รายงานเรื่องราวของ ป๋าติ๋ม แม่บ้านซึ่งทำงานในบ้านพูลวิลล่าหรูของ นางแคทเทอร์รีน อายุ 59 ปี นักธุรกิจชาวฝรั่งเศส บนเกาะสมุย ก่อนที่นายจ้างชาวต่างชาติจะตัดสินใจจบชีวิตลง พร้อมเขียนมรดกยกทรัพย์สินมูลค่ากว่า 100 ล้านให้กับป้าติ๋มแม่บ้านซึ่งอยู่ดูแลด้วยกันมาอย่างยาวนาน
กรณีดังกล่าวเริ่มจากที่ตำรวจเข้าตรวจสอบร่างของ นางแคทเธอรีน นักธุรกิจชาวฝรั่งเศสเจ้าของพูลวิลล่าให้เช่าบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตัดสินใจใช้ปืนจบชีวิตตัวเองริมสระน้ำในวิลล่า ข้างศพก็พบปืนตกอยู่ พร้อมกับปลอกกระสุนปืนอยู่ใต้เตียง 1 ปลอกและพบรูกระสุนทะลุไปเจาะกระจกประตู หัวกระสุนไปตกในบ้าน 1 หัว ตรวจสอบบริเวณโต๊ะที่อยู่ข้างเตียงหวายสำหรับนอน พบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ในแก้วและบุหรี่ 1 ซองเจ้าหน้าที่ก็เก็บไว้เป็นหลักฐาน
ภาพจาก ข่าวเที่ยงช่องวัน
หลักฐานจากกล้องวงจรปิดพบว่า ก่อนเกิดเหตุ 28 เมษายน ตอน 11.00 น. ผู้ตายนั่งอยู่หน้าโน้ตบุ๊ก เหมือนกับพิมพ์อะไรบางอย่าง จากนั้นได้ลุกขึ้นไปเอาไม้เช็ดกระจกดันกล้องวงจรปิดลงกับพื้น ก่อนตัดสินใจจบชีวิตตัวเองในเวลาต่อมา
ป้าติ๋ม อายุ 49 ปี แม่บ้านซึ่งดูแลผู้ตายมาตลอด เล่าว่า รู้จักกับคุณแคทเธอรีนมานานกว่า 16-17 ปีแล้ว หลังจากเพื่อนของคุณแคทเธอรีนแนะนำให้ป้าสมัครไปทำงานเป็นแม่บ้านตอนนั้นเจ้านายอยู่กับสามีเก่า ซึ่งป้าก็เข้าไปทำงานแม่บ้านให้คุณแคทเธอรีนตั้งแต่นั้น
ภาพจาก ข่าวเที่ยงช่องวัน
ต่อมา คุณแคทเธอรีน ป่วยเป็นมะเร็งระยะแรก แต่รักษาจนหาย หลังจากนั้นเลิกรากับสามี ก่อนจะมาขอบัตรประชาชนของป้าไป ก็ไม่ได้เอะใจว่าเอาไปทำอะไร คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของการจ่ายเงินเดือน ก่อนจะทราบว่าเป็นการนำข้อมูลไปใส่ในพินัยกรรม เพราะก่อนเกิดเหตุ เจ้านายส่งข้อความไปหาเพื่อนว่าทำพินัยกรรมไว้ให้ นอกจากนี้เจ้านายยังทำเรื่องเงินเดือนกับเพื่อนที่เป็นลูกน้องอีก 2 คนไว้ให้เรียบร้อย บอกเลยว่าพรุ่งนี้ค่อยเจอกันนะ แต่สุดท้ายก็มาพบว่าเจ้านายตัดสินใจจบชีวิตตัวเองแล้ว
ป้าติ๋ม เปิดใจเสียงสั่น เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้านายโอนเงินเดือนให้เมื่อคืนแล้วก็เขียนว่าพรุ่งนี้เราค่อยเจอกัน มีเรื่องซับซ้อนต้องคุยกันแค่นั้น ส่วนกรณีเรื่องพินัยกรรม เจ้านายเคยขอบัตรประชาชนกับทะเบียนบ้านของตนไป ตอนที่เจ้านายเลิกกับแฟน แกก็ไปคุยกับทนายอะไรอย่างนี้ เพิ่งรู้ว่าเจ้านายแชตไปบอกกับเพื่อนแกถึงรายละเอียดทุกอย่าง แต่เราไม่อยากได้ รู้สึกเสียใจมาก เพราะเจ้านายเป็นคนดี
ภาพจาก ข่าวเที่ยงช่องวัน
รายละเอียดในพินัยกรรมของ นางแคทเธอรีน พบว่ามีทรัพย์สินประกอบด้วย บ้านพูลวิลล่าหลังที่เกิดเหตุพร้อมที่ดิน และมีที่ดินเปล่าที่อยู่ข้างพูลวิลล่าอีก 2 ไร่ รถยนต์หรู เครื่องประดับ แหวนเพชร เงินสดในธนาคาร รวมมูลค่า 100 ล้าน ยกให้กับ ป้าติ๋ม พร้อมสั่งเสียว่าฝากป้าติ๋มช่วยดูแลแม่แมวอีก 3 ตัวให้ด้วย ส่วน วิลล่าอีก 2 ได้มอบให้กับสามีเก่าชาวต่างชาติ
หลังได้รับมรดก ป้าติ๋ม เผยว่ายังคิดไม่ออก ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาไปทำอะไร แต่คงจะไม่ขายแน่นอน
ภาพจาก ข่าวเที่ยงช่องวัน
ภาพจาก ข่าวเที่ยงช่องวัน
ภาพจาก ข่าวเที่ยงช่องวัน
ภาพจาก ข่าวเที่ยงช่องวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวเที่ยงช่องวัน