ชายโวย พ่อแม่ขอค่าเลี้ยงดูเกือบ 7,000 ทั้งที่มีงานทำ-รายได้สูงกว่า ทำไมคนไม่เข้าข้าง !

           โดยวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 เว็บไซต์ CTWANT รายงานว่า ชายคนดังกล่าวโพสต์ระบายลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก  匿名公社 ชี้ว่าตัวเองเป็นชายกลางคนอายุ 42 ปี มีพี่ชายและพี่สาวที่แต่งงานแล้ว รวมถึงมีน้องชายกับน้องสาวที่อายุน้อยกว่าหลายปี แต่ทั้งคู่ล้วนย้ายไปอาศัยที่อื่นแล้ว มีเพียงเขาซึ่งเป็นลูกคนที่ 3 ที่ยังใช้ชีวิตอยู่กับพ่อแม่

           ตามปกติแล้วเขาก็มักจะกินอยู่ที่บ้านตลอด แต่เมื่อไม่นานมานี้พ่อแม่กลับมาขอให้เขาจ่ายค่าเลี้ยงดูเพื่อแสดงความกตัญญู เดือนละ 6,000 ดอลลาร์ไต้หวัน ทั้งที่เขาเองได้เงินเดือนแค่ 30,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 34,000 บาท) ซ้ำยังต้องช่วยหารค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าแก๊สที่บ้านครึ่งหนึ่ง

           นอกจากนี้พ่อแม่ของเขายังทำงานอยู่ทั้งคู่ โดยพ่อทำงานในไซต์ก่อสร้าง แม่ทำงานที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยระยะยาว ทั้งคู่ได้เงินเดือนเท่ากัน ซึ่งมากกว่าเขา 2-3 เท่า เขาจึงอดไม่ได้ที่จะมองว่า มันมากเกินไปหรือไม่ที่พ่อแม่จะมาขอให้เขาจ่ายเงินเพิ่มอีกเดือนละ 6,000 ดอลลาร์ไต้หวัน
           โพสต์ของชายคนนี้ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาร่วมถกเถียงกัน แต่หลายคนมองว่า บางทีพ่อแม่อาจจะอยากฝึกฝนเขา ให้ได้รับความกดดันเพิ่มสักเล็กน้อยก็ได้ ขณะที่หลาย ๆ คนเห็นตรงกันว่าให้มองเงินก้อนนี้เป็นเหมือนค่าเช่าบ้านซะ

           "คิดเสียว่าเป็นค่าเช่าบ้านแล้วกัน"

           "ทำไมคุณจะไม่จ่ายล่ะ ทั้งกินที่บ้าน แถมอยู่ที่บ้านด้วย"

           "กินอยู่กับบ้านแท้ ๆ"

           "ใช้ชีวิตทุกอย่างที่บ้าน จริง ๆ 6,000 ดอลลาร์ไต้หวัน ก็ไม่แย่นะ"

           "ถ้าคุณคิดว่ามากเกินไป ก็ย้ายออกไปเลยเถอะ ลองดู ฉันเชื่อว่าค่าเช่าบ้านและค่าน้ำค่าไฟข้างนอกนั่นก็ประมาณ 6,000 ดอลลาร์ไต้หวัน หรือเผลอ ๆ จะไม่พอจ่ายด้วย ไหนจะยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับอาหาร 3 มื้ออีก"

           "ถ้าย้ายออกไปค่าเช่าอาจจะถูกกว่านี้"
 

ขอบคุณข้อมูลจาก CTWANT