อดีตสายลับรัสเซีย เปิดใจถูกฝึกโหดตั้งแต่ยังเล็ก - เข้าโครงการลับ ต้องฝึกแม้เรื่องเซ็กส์

 

               อดีตสายลับรัสเซีย แย้มสิ่งที่เรียนรู้ จะบงการเป้าหมายยังไง แม้เชี่ยวชาญด้านการยั่วยวน แต่เซ็กส์จำเป็นต่อการล้วงความลับไหม


               ชื่อของโรซา กลายมาเป็นที่สนใจอีกครั้งเมื่อล่าสุดเธอได้ออกมาบอกเล่าประสบการณ์ในอดีต ผ่านรายการพอดแคส "To Die For" โดยชี้ว่าเป็นครั้งแรกที่อดีตสายลับยั่วสวาท ซึ่งได้รับการฝึกจากหน่วยงานความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย จะออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องการฝึก เป้าหมาย ตลอดจนภารกิจของเธอ และแน่นอนว่ารวมถึงการใช้กิจกรรมทางเพศเพื่อจารกรรมข้อมูล

               "เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้วที่ฉันนิ่งเงียบ แต่ด้วยเหตุผล 2-3 ประการ ฉันไม่อาจเก็บเงียบได้อีก ฉันไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่กับความเจ็บปวดนี้อีกต่อไป แม้ฉันจะผ่านความทรมานทั้งหมดเหล่านี้มาแล้วก็ตาม ถ้าไม่ใช่ฉันที่เป็นคนพูด แล้วใครที่จะพูดมันออกมา" โรซ่า กล่าว

               สำหรับชีวิตของโรซา เริ่มต้นจากการเกิดมาในครอบครัวเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงเชื้อสายคาซัค-ตาตาร์ ในสหภาพโซเวียต ปู่ของเธอเคยต่อสู้กับนาซีในสงครามโลกครั้งที่ 2 และพ่อของเธอก็เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงมายาวนาน นั่นทำให้โรซาต้องเข้าร่วมกับโครงการพิเศษของรัฐบาล ที่มีขึ้นสำหรับลูกหลานเจ้าหน้าที่ระดับสูง  
               จากครั้งหนึ่งที่โรซาเคยฝันอยากทำงานเกี่ยวกับแฟชั่นดีไซน์ แต่พ่อของเธอก็ได้เตือนว่า ชีวิตของเธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว นับตั้งแต่เด็กโรซาถูกฝึกในเรื่องต่าง ๆ เช่น ศิลปะป้องกันตัว กิจกรรมทางร่างกาย เธอได้เรียนรู้ว่าจะไม่สามารถยอมแพ้ได้ ไม่สามารถเปราะบางหรืออ่อนแอได้ จะร้องไห้ไม่ได้ ซึ่งคนทั่วไปไม่มีใครที่สามารถเข้าร่วมโครงการดังกล่าวได้ หากไม่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง
 
               "ฉันก็ไม่เคยคิดว่าหลังจากนั้น ฉันจะต้องเข้าร่วมหลักสูตรเซ็กส์ด้วย" โรซา เผย

               ด้วยวัยเพียง 18 ปี โรซาได้รับเลือกจากนักเรียนจำนวน 350 คน ให้เข้าร่วมโครงการลับสุดยอดที่พัฒนาขึ้นโดยอดีตนักจิตวิทยาของ KGB และเจ้าหน้าที่ระดับสูง ซึ่งภายใต้โครงการนี้โรซาได้เรียนรู้ว่าจะใช้วิธีการยั่วยวนและการโน้มน้าวใจ เพื่อให้ได้รับข้อมูลจากศัตรูที่เป็นเป้าหมายได้อย่างไร

               "ไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กส์ จริง ๆ มันห่างไกลจากเซ็กส์มาก" โรซา เผย พร้อมอธิบายว่า "ทั้งหมดเป็นเรื่องศิลปะในการสื่อสาร เราถูกสอนว่าจะแต่งตัวยังไง แต่งหน้ายังไง นำเสนอตัวเองยังไง จะคุยกับเป้าหมายยังไง จะทำให้เป้าหมายเชื่อและไว้ใจคุณยังไง ทั้งหมดมันเกี่ยวกับจิตวิทยาของบุคคล ของอาชญากร ของผู้ชาย มันเกี่ยวกับความเข้าใจในมุมมองของผู้ชาย และสิ่งที่พวกเขาต้องการจริง ๆ"

               โรซา กล่าวต่อว่า "เมื่อคุณจะยั่วยวน โดยพื้นฐานเลยให้เริ่มต้นด้วยคำชมที่ดี ไม่ใช่แค่...ฉันชอบแจ็กเก็ตของคุณนะ แต่ต้องเป็นบางอย่างที่เฉพาะเจาะจงและเหมาะสมจริง ๆ ในช่วงเวลานั้น ซึ่งจะทำให้คนรู้สึกสนใจคุณจริง ๆ พวกเขาจะเริ่มชอบคุณ และเมื่อคุณรู้ว่าจะนำบทสนทนานั้นยังไง คนก็จะเปิดใจให้คุณ พวกเขาจะเป็นมิตรมาก ๆ คุณได้เรียนรู้ที่จะมีความสุภาพ เป็นมิตร และให้ความเคารพในสังคม"

               และแน่นอนว่ามีเทคนิคทางเซ็กส์ด้วย แต่นั่นเป็นอะไรที่ฮาร์ดคอร์จริง ๆ มันเป็นการทำให้เป้าหมายหมกมุ่นอยู่กับตัวเธอ ซึ่งเป็นเกมที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง


               อย่างไรก็ตาม ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าที่โรซาจะรู้ตัวว่าถูกล้างสมองให้กลายเป็นจอมบงการ เธอถูกทำให้เชื่อว่าตัวเองกำลังเป็นวีรสตรีที่ต่อสู้อยู่กับกลุ่มค้ามนุษย์และยาเสพติด ช่วยเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะที่ถูกลักพาตัวจากครอบครัว และเธอก็เห็นผู้ปกครองเด็กมากมายมาที่หน่วยเพื่อร้องขอให้เจ้าหน้าที่ช่วย

               "ในฐานะสายลับ เราได้เงินเดือนต่ำมาก ประมาณเดือนละ 100 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,600 บาท) โดยทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน แต่ฉันมีความรู้สึกรักชาติ รู้สึกเหมือนเป็นฮีโร่ที่ได้ช่วยชีวิตใครสักคน ฉันมีพลังมาก รู้สึกว่าไม่มีใครจะทำอะไรฉันได้ ฉันยอมสละร่างกายเพื่อทำภารกิจทั้งหมดนั้น ดังนั้นฉันจึงแยกอารมณ์ความรู้สึกออกไปจากร่างกาย "

               แม้สุดท้ายเธอจะรู้สึกดีที่ช่วยชีวิตใครสักคนได้ แต่เธอไม่เคยถามตัวเองเลยว่ารู้สึกอย่างไร ภายใต้ร่างกายที่ถูกทำร้ายและข่มขืนโดยเหล่าผู้ชายที่พบเจอ

               หนึ่งในอดีตเจ้าหน้าที่ FBI เคยบอกกับโรซา ว่าเธอเหมือนของเล่นที่พังแล้ว และกำลังถูกค้าประเวณีเสียเอง แต่เพื่อนร่วมชั้นของเธอทั้งหมดไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะพวกเธอรู้สึกรักชาติ พร้อมจะเสียสละและทำทุกอย่างเพื่อรัฐบาลของเรา นั่นคือสิ่งที่เธอเคยรู้สึกเช่นกัน    
               กระทั่งปี 2547 โรซา เกิดตกหลุมรักชายที่เป็นเป้าหมายล้วงความลับ เมื่อเธอถูกเพื่อนของชายคนนั้นจับได้ว่าเป็นสายลับ ก็ถึงเวลาที่เธอต้องหนีเอาชีวิตรอด ซึ่งด้วยความช่วยเหลือจากคนรักทำให้เธอสามารถหนีออกจากมอสโก ไปตั้งรกรากที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ จนได้

               เป็นเวลานับทศวรรษที่โรซาไม่ได้กลับไปเหยียบรัสเซียอีก เธอเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยชื่อใหม่ ซึ่งยังใช้มาจนถึงปัจจุบัน

               ทั้งนี้ แม้เธอจะได้ทำงานเพื่อหยุดการค้ามนุษย์และค้ายาเสพติด แต่เธอยังรู้สึกเหมือนถูกรัฐบาลรัสเซียใช้งาน เธอเคยเห็นสายลับหญิงคนอื่น ๆ ที่อายุถึงประมาณ 56 ปี พวกเขาเริ่มมีความโศกเศร้า โดดเดี่ยว และไม่เคยได้รับอนุญาตให้มีชีวิตส่วนตัว พวกเขาไม่สามารถมีครอบครัว และเธอก็ไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นกับตัวเอง
 
               ปัจจุบันนอกเหนือจากบทบาทด้านแฟชั่น โรซายังผันตัวมาเป็นโค้ช สอนเคล็ดลับเกี่ยวกับการยั่วยวน แต่ไม่ใช่เพื่อฝึกสายลับแต่อย่างใด การสอนของเธอมีไว้สำหรับผู้หญิงที่มีความกระตือรือร้น อยากเพิ่มความนับถือในตัวเองให้เขามาเรียนรู้

ขอบคุณข้อมูลจาก New York Post