ฉุนขาด ผู้รับเหมาเบิกเงินกว่า 400,000 สร้างบ้านไม่ตรงปก ทิ้งงานไม่ทำต่อ บุกด่า-รุมยำถึงบ้าน ฟังความ 2 ฝ่ายเล่าต่างมุม เจ้าของบ้านยันช่างไม่ทำตามคำพูด แถมสร้างบ้านพัง
ภาพจาก โหนกระแส
จากกรณีมีคนเผยแพร่คลิปเหตุการณ์กลุ่มคนชายหญิง
นำรถกระบะมาจอดขวางหน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองตำลึง อ.พานทอง
จ.ชลบุรี โดยมีการยืนด่าทอคู่ผัวเมียในบ้าน
จับใจความได้ว่าคนในบ้านเป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง
ส่วนกลุ่มที่ยกพวกมาคือลูกค้า ที่จ้างให้สร้างบั้นชั้นเดียว ราคา 600,000
บาท ซึ่งคู่ผัวเมียเบิกเงินไปแล้วกว่า 400,000 บาท
แต่การก่อสร้างไม่คืบหน้า สร้างไม่เหมือนแบบ ช่างไม่ยอมไปทำต่อ
จนลูกค้าต้องตามมาด่าทอและเกิดการทำร้ายร่างกายกัน
วันที่ 25 พฤษภาคม 2567 เฟซบุ๊ก โหนกระแส รายงานว่า จากการพูดคุยกับผัวเมียผู้รับเหมา ฝ่ายเมียเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนยังไม่ได้โกง เครื่องมือก็ยังอยู่ที่หน้างาน แค่ยังไม่ได้บทสรุปการวางเงินของเจ้าของบ้าน ตนได้คุยกับเจ้าของบ้านไว้ก่อนแล้วว่าตนไม่มีเงินสำรองในการก่อสร้าง เมื่อถ้าของบ้านมีเงินพร้อม 1 ก้อน จึงแจ้งให้ตนเข้าไปทำ เมื่อตนทำงานเสร็จส่วนหนึ่งก็สามารถไปทำงานที่อื่นต่อได้ รอให้เจ้าของบ้านพร้อมแล้วจึงเรียกตนเข้าไปทำต่อ ไม่ได้มีกำหนดเวลาว่าต้องเสร็จภายในกี่เดือน
ส่วนแบบบ้านที่ไม่ตรงปกนั้น เพราะช่างของตนเป็นคนวาดแบบเองแบบคร่าว ๆ ไม่ได้ให้วิศวกรมาเขียนให้ แค่ร่างให้ดูว่าจะออกมาประมาณไหน แต่เจ้าของบ้านเอาแบบชิ้นนี้ไปให้ช่างที่เทศบาลร่างออกมา แต่ไม่ตรงกับที่ช่างวาด ซึ่งเจ้าของบ้านก็รู้ ยังมีคุยกับตนเลยว่าแปลนที่เทศบาลออกมาให้ เพื่อเอาไว้ใช้ในการจำนองธนาคาร ทำงานเอกสารเท่านั้น
วันที่เกิดเหตุ ตนมาถึงบ้านเพิ่งเปิดประตูรั้ว ยังไม่ทันได้เข้าบ้านก็มีกลุ่มคนมาตะโกนด่าและรุมทำร้าย ลากตนออกมานอกบ้าน สามีก็ถูกทำร้ายด้วย ทั้งที่พวกตนไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งงาน แต่ครั้งสุดท้ายที่คุยกับเจ้าของบ้าน บอกไปว่าอีก 3 วันเจอกันที่โรงพัก ซึ่งตนก็บอกว่าจะรอ ไม่ได้ท้าให้ไปแจ้งความ
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านที่กำลังก่อสร้าง เจ้าของบ้านพาไปดูการสร้างที่ฝาผนังพัง ไม่ได้มาตรฐาน ทั้งฝาบ้านและหลังคานั้นทางเจ้าของบ้านได้จ้างช่างใหม่มาทำแล้ว
น้องสาวเจ้าของบ้าน เผยว่า ตนได้จ่ายเงินช่างไปทั้งหมดเกือบ 500,000 บาท โดยจ่ายก้อนแรกเดือนกันยายน 2566 จำนวน 250,000 บาท ก็ได้เสากับโครงหลังคาบ้านมา จากนั้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ช่างมาขอเบิกเงินอีกก้อนเพื่อจะไปซื้อของ โดยช่างอ้างว่าหมุนเงินผิด ซึ่งตนก็บอกว่าได้แต่ช่างต้องซื้อของมาให้ครบ ทางช่างก็รับปาก ตนจึงให้เงินไป 100,000 บาท ก็ได้หลังคามาเพิ่ม
จากนั้นช่างจะมาขอเบิกครั้งที่ 3 ซึ่งตนไม่ให้เบิก เพราะยังไม่ได้ของจากที่ช่างเบิกเงินไป 2 ครั้งก่อน ซึ่งช่างอ้างว่าในรอบนี้จะให้ตนไปซื้อของเอง แล้วจะให้ช่างมาทำบ้านต่อให้
แต่เมื่อตนซื้อของมาช่างก็ไม่เข้ามาทำบ้านให้ แถมกำแพงที่ก่อสร้างไว้ก็มีรอยร้าว บางส่วนล้มลงมา ตนมองว่าหากย้ายเข้าไปอยู่ต้องไม่ปลอดภัยแน่ ๆ นอกจากกำแพงเอียงแล้ว หลังคาก็รั่ว สภาพแอ่นเป็นท้องช้าง แต่เมื่อตนพูดเรื่องนี้ ก็ถูกช่างบอกว่าจู้จี้ ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกช่างเคยคุยกันว่าหากไม่พอใจตรงไหนสามารถบอกได้ จะแก้ไขให้
เมื่อโทร. ไปคุย ช่างก็ถามว่าทำไมเบิกเงินก้อนสุดท้ายไม่ได้ ตนบอกไปว่าก้อนสุดท้ายจะโอนให้ตนที่เข้ามาอยู่ได้แล้วเท่านั้น แต่ช่างอ้างว่าถ้าไม่ซื้อของเข้ามาก็ทำงานไม่ได้ ทั้งที่ตนซื้อของให้แล้วก็ไม่ยอมมาทำงาน ตนจึงบอกว่าจะให้เวลา 3 วัน ไม่งั้นตนขอดำเนินคดี
ช่างก็บอกว่าเอาแบบนั้นก็ได้ ตนจึงเข้าแจ้งความ แต่ตำรวจบอกว่าเป็นคดีแพ่งต้องฟ้องร้องเอา ตนจึงจ้างทนายและส่งจดหมายไป แต่เมื่อไปถามช่าง ช่างกลับบอกว่าไม่มีจดหมายมา
ในวันที่พวกตนไปถึงบ้านช่าง บอกให้ออกมาคุยกัน จะหนีทำไมพี่ชายตนเคยโทร. ไปถามช่าง บอกว่าได้รับเงินมาแค่ 100,000 บาท ให้ดูสลิปได้เลย แต่ไม่ยอมพูดเรื่องที่มาเบิกเงินสดไป จากนั้นตนทราบว่าช่างไปเซ็นของไว้ แล้วจะมีคนมาทุบบ้านตน เพราะช่างเอาของมาแล้วไม่จ่ายเงิน ทำให้ตนโมโห
ในส่วนคดีนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พานทอง ได้เรียกตัวผู้บาดเจ็บมาสอบปากคำเพิ่มเติม และจะเชิญกลุ่มเจ้าของบ้านมาสอบสวนเพื่อดำเนินการต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส