หนุ่มจบปริญญา เปิดใจสาเหตุขอทำงานเป็น รปภ. โอดสังคมไม่ง่าย คนเมนต์เสียงแตก

          หนุ่มเรียนจบปริญญา เปิดใจสาเหตุขอทำงานเป็น รปภ. ชี้สังคมนั้นไม่ง่าย แม้เรียนจบเอกภาษาก็ใช่ว่าจะหางานได้เงินดี โซเชียลเมนต์เสียงแตก

          วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า ในสถานการณ์ที่พนักงานออฟฟิศที่ไต้หวันจำนวนมากต่างก็เผชิญปัญหาค่าแรงต่ำ ชายคนหนึ่งที่เพิ่งจบการศึกษาได้ไม่นานกลับต้องพังทลาย เมื่อพบว่าการเรียนเอกภาษาญี่ปุ่นในมหาวิทยาลัยที่เขาคิดว่าเป็นข้อได้เปรียบมาตลอด แท้จริงแล้วก็เป็นแค่ตัวบวกคะแนนตอนสมัครงานเท่านั้น แม้จะร่อนใบสมัครงานไปมากมาย สุดท้ายเขาก็ได้แค่งานหนึ่งที่มีเงินเดือนพื้นฐานเพียง 29,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 32,000 บาท) ซึ่งจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เผชิญ ทำให้เขาอึดอัดใจจนทนต่อไม่ไหว ตัดสินใจลาออกและจะทำงานเป็น รปภ. แทน

          ชายคนนี้ โพสต์ระบายลงเว็บบอร์ด Dacrd ว่า เราเอาชีวิตรอดจากการเรียน 4 ปีในมหาวิทยาลัยโดยที่ทำงานพาร์ตไทม์ไปด้วย และคิดว่าในที่สุดก็จะเข้าสู่สังคมได้แล้ว เขานึกว่าน่าจะหางานที่เกี่ยวข้องกับญี่ปุ่นได้เพราะเขาพูดภาษาญี่ปุ่นได้ แต่ปรากฏว่าทักษะด้านภาษาของเขาเป็นเพียงโบนัสเล็ก ๆ เท่านั้น เขาจำเป็นต้องเชี่ยวชาญในวิชาเอกอื่น ๆ ด้วย

          หลังจบการศึกษามา 1 ปี เขาได้สมัครงานไปมากมายหลายที่ และพบว่างานที่ได้นั้นมีความซับซ้อน มีหลายอย่างที่เขาจำเป็นต้องเรียนรู้ แถมเงินเดือนก็ได้แค่ 29,000 ดอลลาร์ไต้หวันเท่านั้น

          "ผมไม่เข้าใจอีกต่อไปว่าอะไรกันแน่ที่เป็นปัญหา มีคณะในมหาวิทยาลัยให้คุณเรียนได้ 4 ปี แล้วสังคมก็จะบอกว่ามันใช้ไม่ได้ ถ้าอยากเก็บเงินก็ให้หางานทำ แต่ก็ได้เงินเดือนไม่ถึง 30,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 34,000 บาท)"

          ผลสุดท้ายเขาเหมือนติดบ่วงอันไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อมีคนถามว่า "ทำไมต้องไปทำงานแบบนั้นแทนที่จะหางานสำหรับมืออาชีพ" รวมถึง "คุณมีวิชาเอกอยู่แล้ว ทำไมไม่ลองหางานที่เกี่ยวข้องกับภาษาญี่ปุ่น" เขาก็ได้แต่ตอบกลับด้วยความสิ้นหวังว่า เป็นเพราะเขาทำได้แค่พูดภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น ถ้าจะมีคนแนะนำให้เขาไปหางานที่ญี่ปุ่น เขาก็ไม่มีเงินมากพอจะทำแบบนั้นอีก


          สุดท้ายเขาก็ยอมแพ้ ตัดสินใจที่จะล้มตัวลงและขอใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแทน เขาคิดว่าตัวเองไม่มีประโยชน์และไม่เหมาะกับสังคม เดิมเขาก็คิดว่าจะไปหางานตามร้านขายลอตเตอรี่ต่อ แต่ร้านพวกนั้นก็ต้องการแค่พนักงานหญิง สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจว่าจะขอทำงานเป็น รปภ. ดีกว่า

          เมื่อโพสต์ของเขาได้รับการเผยแพร่ก็มีชาวเน็ตส่วนหนึ่งเข้ามาคอมเมนต์ โดยมีทั้งฝ่ายที่ยอมรับว่าทักษะด้านภาษานั้นไม่ใช่ทุกอย่างเมื่อเข้าสู่โลกของการทำงาน รวมถึงคนที่มองว่าชายคนนี้ยังพยายามไม่มากพอ เช่น

          "ความจริงคือทักษะภาษานั้นไร้ค่า"

          "ในวันแรกที่ฉันเรียนในวิทยาลัยด้านภาษาต่างชาติ อาจารย์ใหญ่มักย้ำเตือนว่าภาษานั้นเป็นแค่เครื่องมือของคุณ คุณต้องทำตัวเองให้เป็นมืออาชีพเพื่อให้เข้ากับทักษะนั้นด้วย"

          "ภาษาเป็นแค่เครื่องมือจริง ๆ แต่จะนำมาใช้ในงานยังไง คือสิ่งที่คุณต้องไปเรียนรู้ในสังคม"

          "คณะในมหาวิทยาลัย ไม่ใช่ตัวการันตีว่าจะได้งาน"

          "อย่าโทษมหาวิทยาลัยและอย่าโทษสังคมเลย เหมือนกับฉันนอนกลิ้งอยู่ในมหาวิทยาลัยมา 4 ปี และก็อยากจะนอนกลิ้งต่อเมื่อออกสู่สังคม ก็เลยมาโพสต์อะไรแบบนี้"


ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday